อ่านข่าวนี้​ และทำให้นึกถึงบางคน
ที่ชอบว่าบ้านเราไหว้เสาไหว​ ไหว้จอมปลวก​ ชาติที่เจริญแล้ว​ ก็แทบไม่ต่างกันเลยสักนิด​




นับจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอแนะเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า การฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าสู่ร่างกายน่าจะฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาได้ ทำให้มีชาวอเมริกันแห่ดื่มน้ำยาฆ่าเชื้อเพิ่มมากขึ้น และโทรศัพท์เข้าสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ถึงหลายร้อยสาย


ศูนย์ควบคุมสารพิษของนครนิวยอร์ก
ได้รับแจ้งมีประชาชนดื่มน้ำยาทำความสะอาดถึง 30 รายภายในระยะเวลาเพียง 18 ชั่วโมงหลังการแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ของทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดีจนถึง 15.00 น.ของวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ แตกต่างจาก 13 รายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดย 9 คนดื่มน้ำยาฆ่าเชื้อ "ไลซอล" อีก 10 รายดื่มน้ำยาฟอกขาว และอีก 11 รายดื่มน้ำยาทำความสะอาดในครัวเรือนแบบอื่นๆ

ทรัมป์เสนอความเห็นว่าจะฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าสู่ร่างกายเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ได้หรือไม่ และแนะให้ลองศึกษาเรื่องนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพท์ทั้งหลายออกมาวิจารณ์ว่าเป็นความคิดที่อันตรายและน่าขบขัน และบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ผู้ผลิตน้ำยาทำความสะอาด เดทตอล และ ไลซอล ต้องรีบออกมาเตือนผู้บริโภคว่า ไม่ควรฉีดหรือรับประทานน้ำยาทำความสะอาด

ขณะที่ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ และรัฐมิชิแกน รายงานว่า มีประชาชนโทรศัทพ์ติดต่อสายด่วนฉุกเฉินมากถึงหลายร้อยสายเพื่อสอบถามว่าน้ำยาฆ่าเชื้อฆ่าไวรัสโรคโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ และแลร์รี โฮแกน ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ บอกว่า รัฐบาลควรประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนทำอะไรที่อาจเป็นการฆ่าตัวตาย พร้อมทั้งวิจารณ์ว่าทรัมป์ควรสื่อสารกับประชาชนอย่างขัดเจนด้วยข้อเท็จจริง

และหลังจากมีเสียงวิจารณ์อย่างมากเรื่องข้อเสนอฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ ทรัมป์แถลงข่าวสั้นลงในวันศุกร์ และยกเลิกการแถลงเมื่อวันเสาร์ โดยล่าสุดส่งสัญญาณว่าจะเลิกแถลงรายวันกับคณะทำงานรับมือโรคโควิด-19 โดยเขาทวีตว่า นักข่าวตั้งคำถามก้าวร้าวและไม่รายงานความจริง การแถลงไม่คัมค่ากับการเสียเวลาืและความพยายาม

แหล่งข่าว​
https://www.nationtv.tv/main/content/378773309/?qline=


ปล.พี่สาวที่อาศัยอยู่ในอเมริกา
บอกมาว่าเรื่องนี้จริงและทำตามกันจริง
ห้ามให้หยุดก็ไม่ฟัง