จับได้เมียมีชู้ตอนลูก2ขวบบริบูรณ์ ควรเอาไงต่อในชีวิต

ก่อนอื่นเกริ่นเรื่องก่อนนะครับ เรา2คนอายุเท่ากันคือ 32 ปี เกิดปี 1988 เหมือนกัน ระยะเวลาที่คบกันคือรวมแล้ว 4 ปี บวก ลบ ก่อนที่เทอจะท้องก็มีปัญหาระหองระแหงกันบ้างตามธรรมชาติชีวิตคู่ แต่ก็รักกันดี มีไปกินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยว ขึ้นเขา ปกติตามชีวิตคู่ทั่วไปที่เขาทำกัน แล้วอยู่กินด้วยกันแบบ สามี ภรรยา แต่ยังไม่แต่งงานกันครับ 
ตลอดเวลาที่คบกันเรื่องการเงิน ผมจะเป็นฝ่ายซัพพอร์ทเทอตลอด เช่นงานศพพ่อ ค่างวดรถบางงวด ค่าอาหาร รวมถึงการลงทุนค้าขาย ที่ผมควักเงินเก็บส่วนตัวออกมาลงทุนทำร่วมกันกับเธอ 
ส่วนตัวผมทำงานกลางคืนเป็นผู้ชายในบาร์ รายได้หลักมาจากลูกค้าผู้หญิงที่มาเที่ยวหา รายได้ไม่คงที่ แต่ต่อเดือนก็พอใช้สำหรับเรา2คน และแน่นอนการที่ผมเป็นผู้ชายกลางคืน ก็จะมีผู้หญิง(ลูกค้า) แวะเวียนเข้ามาในชีวิต มากหน้าหลายตา แต่ผมก็พยายามทำไห้เธอทุกข์ใจน้อยที่สุด โดยการที่ถึงเวลาเลิกงาน ผมจะกลับห้องไปหาเธอทันที ไม่เคยเลยที่จะนอกลู่นอกทาง เพราะว่าแคร์ความรู้สึกเธอ กลัวเธอจะคิดมาก แต่ก็มีบ้างที่กลับบ้านช้า เพราะบางทีก็ไปทานข้าวต่อกับลูกค้า แต่ก็ติดต่อบอกเธอตลอด ช้าของผมคือ กลับช้ากว่าปกติ 2-3 ชั่วโมงโดยประมาณ ทุกวันจะเป็นแบบนี้ แต่เราก็อยู่กันได้ เธอก็ระแวงผมบ้างหึงบ้างเป็นครั้งคราวนะ แต่ก็ไม่เคยทะเลาะกันร้ายแรง 
ต่อมาสักพักใหญ่ เธอตั้งท้องลูกของเรา ความรู้สึกคือทั้งดีใจ ทั้งตกใจ ตื่นเต้นว่าจะได้เป็นพ่อคน เธอเองก็ดีใจเช่นกันที่จะได้เป็นแม่คน มีการบอกญาติผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่าย ก็ทำพิธีผูกข้อผูกแขน ตามธรรมเนียม หมั้นหมาย มีค่าสินสอด (ไม่ใช่พิธีแต่งงาน) แต่ก็เหมือนแต่งกลายๆ ค่าสินสอดก็พอประมาณไม่ได้มากมายครับ ช่วงที่เธอท้อง ผมก็ทำงานกลางคืน หาเงินไว้เป็นค่าทำคลอด จนก่อนคลอด3เดือน ช่วงนั้นธุรกิจกลางคืน มีการเคอฟิวเรื่องของเวลาเปิดปิด ทำไห้รายได้ลดลง ผมจึงจำเป็นต้องออกจากงานกลางคืนไปช่วยงานที่บ้าน ก็ได้เงินค่าทำคลอดของลูกมา1ก้อน หลังจากที่คลอดออกมา ผมก็ไห้แม่ผมมาช่วยเลี้ยงลูก เราอยู่แบบนี้มา ไม่มีทีท่าว่าเทอจะนอกใจ แต่ยอมรับว่าผมเองก็เอาใจใส่เทอน้อยลง ไม่หวาน ไม่โรแมนติก ทะเลาะกันก็พูดทำร้ายจิตใจ แต่คำพูดถึงแม้จะแรงแค่ไหนแต่จิตใจของผมไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งเธอและลูก เรื่องsex เธอค่อนข้างเฉยชา ถ้าเทียบคู่รักคู่อื่น คู่ผมถือว่ามีsex น้อยมาก ผมต้องการแต่เธอไม่ นอกจากจะเป็นวันพิเศษที่เธอจะรู้สึกดี เธอถึงจะเอ่ยปากเรียกร้อง ก่อนมีลูก 1 สัปดาห์ มีsex2-3 ครั้ง หลังมีลูกรักษาแผลหาย(เธอผ่าคลอด) 2 สัปดาห์มีsex 1 ครั้ง หรือบางที สัปดาห์ละครั้ง ไม่เกินนี้ครับ            ****ลืมบอกไปครับ เราได้ลูกชาย*****
หลังจากลูกคลอดผมก็กลับไปทำงานกลางคืนเหมือนเดิมครับ ก็ถูไถ พอมีรายได้แต่ไม่มีเก็บ ส่วนเธอก็เลี้ยงลูกเป็นแม่บ้าน จนลูกได้3เดือน เธอก็อยากกลับไปขายของ แต่เป็นขายสินค้าตัวใหม่ ซึ่งผมก็เป็นคนลงทุนเพราะ เธอไม่มีเงินเลย ช่วงเธอไม่มีรายได้ผมก็จ่ายค่างวดรถไห้เธอมาโดยตลอด แต่สินค้าตัวใหม่ที่เราไปรับมาขายมันขายดีมากและทำกำไรมหาศาล (รับมาถูก แต่ขายแพง) ซึ่งเดือนนึงเรามีกำไรเดือนละเกือบแสน ผมก็ออกจากงานกลางคืนมาช่วยขาย ไม่ทำแล้วครับงานกลางคืน ทีนี้ไปไหนมาไหนตัวติดกันตลอดเลยครับ 2คนผัวเมียช่วยกันหา ช่วยกันทำมาหากิน เราขายของในตลาดนัดตามสถานที่ราชการ เช่น กระทรวงสาธารณะสุข การคลัง กระทรวง พาณิชย์ การไฟฟ้า.. ไปมากมายหลายที่ เพราะแต่ละที่จะมีตลาดนัดคนละวันกัน เสาร์อาทิตย์ถ้าขยันก็ออกไปขายแถวบ้านอีกครับ รายได้ดี แต่เหมือนไม่มีเก็บ เพราะใช้เก่งทั้งคู่ บ่อยครั้งที่เราจะทะเลาะเรื่องการเงิน ผมตั้งใจเก็บ ส่วนเธอก็อยากจะได้นู่นนี่นั่นตลอด พอได้มาทำงานด้วยกันต้องแบ่งเงินกันจริงๆจัง เริ่มมีความเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่องครับ รู้สึกว่าผมก็เบื่อเทอ เทอก็เบื่อผม แต่ก็ยังมีลูกที่ต้องดูแล เราทะเลาะกันบ่อยขึ้นไม่ใช่เรื่องของมือที่3 แต่เป็นเรื่องการเงินในครอบครัว ที่ขายของดีแต่ไม่รู้จักแบ่งเงินไว้เก็บบ้าง ช่วงนี้คาบเกี่ยวมาเรื่อยๆจนลูกชายของเราเริ่มโตขึ้น 1ขวบกับ 10 เดือน ผมก็เลยตัดสินใจพูดกับเธอว่า ผมจะกลับไปทำงานกลางคืน ไห้เธอขายของแล้วเงินที่ได้ผมจะไม่ยุ่ง ให้เธอใช้ให้เธอบริหาร เงินขายของได้เท่าไร ก็ไห้เป็นของเธอเอง พูดง่ายๆผมยกธุรกิจให้เธอ ผมไม่เอาแล้ว ผมกลับไปโลกกลางคืน เธอก็บอกว่าผมจะเอาตัวเองกลับไปรักสนุก 
ทำไห้เธอไม่สบายใจ แต่ผมยืนยันที่จะกลับ ก็ตัดสินใจ ไปเสริมหล่อ ฟิตหุ่น ในช่วงที่หยุดงานมานาน ใช้เวลาอยู่2เดือน ก็ไปช่วยเธอขายของบ้าง แต่ผมว่างงานเต็มตัว จนโรคโควิด19 เข้ามาในไทย ผมกลับไปทำงาน ได้ 1เดือน  ที่ร้านก็ต้องปิดตัวลง เพราะ พรก ฉุกเฉิน เท่ากับว่าผมกลับไปทำงานได้1เดือน
จนลูกเรา2ขวบ ผมพึ่งจับได้ว่าเธอแอบไปคบผู้ชาย 2 คน  ที่รู้เพราะ 2คนนี้ทักเฟสมาหา ในช่วงที่ลูกกำลังเล่นโทรศัพท์ ผมก็จดจำรูปแล้วไปหาในเฟสเธอ ก็เจอ ผมรวบรวมหลักฐานเรื่อยๆ จับต้นชนปลาย จากรูปในเฟสบุ๊คที่เธอลงอัพเดท  ถึงรู้ว่าเธอไปอยู่กับผู้ชายทั้ง2คนนั้นจริงๆ และเวลาที่ออกจากบ้าน ก็คือช่วงที่ผมแยกกันขายของกับเธอ เธอจะอ้างว่าไปบ้านเพื่อน ไปหาเพื่อน พาพี่สาวไปปราจีนบุรี อ้างต่างๆนาๆ แล้วที่ผมพีคที่สุด คือช่วง พรก ฉุกเฉิน รัฐบาลห้ามออกนอกบ้าน 4ทุ่มถึงตี4 ในเวลากลางวัน เธอจะออกจากบ้านทุกวัน เพื่อไปหาผู้ชายใหม๋แน่ ผมแน่ใจ เพราะผมคอยโทรเช็ค คอยจับผิด เธอก็จะไม่รับสาย 
ทำตัวน่าสงสัยที่สุดตั้งแต่คบกันมา ช่วงนี้ไม่มีsex กัน เธอจะคอยปติเสธิ หลายๆอย่างมันทำไห้รู้ว่าเธอนอกใจ จนแม่ผมก็ยังเอือมระอากับลูกสะใภ้ ไม่คิดว่าจะเป็นได้ขนาดนี้ ผมสงสัยเธอมาสักพัก ตอนช่วงที่มาอ้างว่าไปปราจีนบุรี บ่อยๆ แล้วมาจนถึงช่วงนี้ที่มีโรคระบาด เธอก็ออกนอกบ้านทั้งๆที่ของขายไม่ได้ บอกว่าไปไลฟ์สดเค้าจ้าง ต้องทำทุกอย่างไห้ได้เงินเพราะผมไม่ส่งเสีย ผมเอือมระอา ทั้งๆที่ในใจก็รักเธออยู่ ที่สำคัญเธอคือแม่ของลูก ทุกครั้งที่มองหน้าลูกในตอนกลางวันช่วงที่เธอไม่อยู่ ผมจะสงสารลูกมาก กลัวว่าลูกจะโดนทิ้ง นี่ล่ะครับ ปัญหาของผม ที่ตอนนี้ ไม่รู้จะ มูฟออนไปได้ยังไง
รายได้ก็ไม่มีใช้เงินเก็บประทังชีวิต..
ยังดีที่เธอหายไปจากบ้านในตอนกลางวัน แต่กลางคืนมาเอาลูกนอน.. แต่จะทำได้นานแค่ไหน
ทะเลาะบ่อยๆเข้าก็ จะเอาลูกหนี เราทะเลาะกันจนเทอยอมรับในที่สุดว่าเธอมีชู้จริงๆ ซึ่งสำหรับผมตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยนอกใจเลย มันทำไห้อึ้งไปพอสมควร ได้แต่โทษตัวเองว่าเราคงไม่ดี เขาถึงต้องไปมีคนใหม่ ทำไมไม่ยอมลำบากด้วยกัน บ้านเมืองตอนนี้ก็แย่แทนที่จะหาทางออกไปด้วยกัน แต่เธอกลับเลือกที่จะมีคนใหม่ ผมล่ะไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ มันเกินจะให้อภัย 
เรายังอยู่บ้านเดียวกัน แต่แทบไม่มองหน้ากัน ผมกลั้นอารมณ์อยู่ทุกวัน เพราะรู้ว่าทำอะไรลงไป เธอต้องหอบลูกหนีไปแน่ แล้วใครจะเลี้ยงเพราะเด็กก็เป็นแม่ผมที่ช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด อีกอย่างผมยังอยากที่จะเห็นหน้าลูกทุกวัน ในแต่ละวันที่ผมนั่งเลี้ยงลูก ต้องคอยมองเธอออกไปมีความสุขนอกบ้าน มันหดหู่ใจจริงๆ ที่หันมามองลูกแล้วเหลือแค่เรา ผมไม่มีกำลังใจจะเดินหน้าต่อ ผมควรทำยังไงดีครับไห้ผ่านพ้นไป  แต่ความผืดที่ทำ ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะให้อภัยได้หรือไม่ ถึงจะเห็นแก่ลูกก็เถอะ มันเกินไปแล้วววว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่