สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
แนะนำว่าถ้าจะส่งพวกอาหาร วิตามิน ไปอเมริกา ให้ศึกษาข้อมูลดี ๆ เพราะของไปถึงอเมริกาแล้วก็ต้องมีใบอนุญาตินำเข้า ถ้าไม่มี สินค้าก็จะถูกตีคืนกลับพอมาถึงไทย ก็จะถูกมองว่าเป็นสินค้านำเข้าที่ต้องมีอย.และต้องเสียภาษีนำเข้าด้วยเช่นเดียวกัน จะทำให้เกิดปัญหาแบบเจ้าของกระทู้ แต่เมื่อเจอปัญหาแบบนี้แล้วต้องรีบเคลียร์สินค้าออกมาให้เร็วที่สุด เพราะหากสินค้าติดนานค่าโกดังจะเพิ่มขึ้นสูงมาก ๆ เวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้แนะนำให้หาชิปปิ้ง ที่เราเคยใช้บริการคือ JP Cargo Service เค้าจะรับเคลียร์สินค้าติดใบอนุญาตแบบนี้และเคลียร์สินค้าได้เร็วทำให้ประหยัดค่าโกดังไปพอสมควร
แสดงความคิดเห็น
ส่งของ DHL มา USA โดนตีกลับไทย ศุลกากรไทยจะให้ชี้แจง อย ทั้งที่ของออกมาจากไทย งงค่ะ
สรุปของโดนตีกลับ ตอนนี้ติดอยู่ ตม ที่สุวรรณภูมิ DHL บอกใหคุณแม่ดิฉันส่งไปรษณีย์ บัตรประชาชนตัวจริง ขอย้ำว่าไม่ใช่สำเนา เป็นบัตรตัวจริงที่มีชิป เพื่อไปนำของออก ไม่เช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าโกดังวันละ 200 บาท แม่ดิฉันจึงขอทำเรื่อง paperless ไม่ส่งบัตร คือต้องจ่ายเงินอีก 1,500 ไม่รวมค่าภาษี (ภาษี?) และดิฉันต้องกรอกเอกสารของบริษัทนำเข้าอาหารและยาเพื่อยื่น อย
ของในกล่องคือ
ขนมขบเคี้ยวทานเล่น
หนังสือนิทานเด็ก
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
วุ้นเส้น
ผ้าปูที่นอน
ขนมปังแผ่นกรอบ
กางเกงชาสั้น
ถุงพลาสติกใส่กับข้าว
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ซีอิ๊วดำ
น้ำพริก
วิตามิน ยี่ห้อแบลกมอร์
ของเหล่านี้มี อย และได้รับการตรวจทานจาก จนท DHL ประจำสาขาอย่างถี่ถ้วนทุกชิ้นก่อนนำลงกล่องแล้วส่งมาเมกา แต่ทำไมดิฉันต้องชี้แจงอีก
ดิฉันแค่อยากได้ของอย่างเดียวคืน คือผ้าปูที่นอนซึ่งเป็นของที่มีคุณค่าทางใจ นอกนั้นทิ้งหมดเลยได้
มีใครมีประสบการณ์แบบนี้บ้างมั้ยคะ