เรื่องราวของแมวตัวแรก และตัวเดียวที่อยู่กับครอบครัว

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับทุกคน นี่เป็นกระทู้ที่สองที่เราเขียน หากมีข้อผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ^^
คิดเห็นยังไงก็คอมเม้นต์ไว้เลยนะครับ

วันนี้เราจะมาแชร์ความทรงจำเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงตัวล่าสุดของเรานะครับ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน
เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ...

        เรื่องมันเริ่มจากวันนี้นี่เองครับ ผมได้ไปค้นดูเอกสารไฟล์เก่าในโทรศัพท์บ้าง ไอแพดบ้าง ก็พอดีไปเจอกับโน้ตที่เขียนในไอแพดของผมเมื่อหลายปีก่อนครับ... มันเป็นโน้ตธรรมดาที่พิมพ์ในแอพโน้ตของไอแพด มันเป็นโน้ตเกี่ยวกับแมวของผมเองครับ5555 นึกได้ว่าตอนนั้นชอบแมวตัวนี้มากเพราะเป็นแมวตัวแรกที่เคยเลี้ยง ถึงขนาดเขียนโน้ตให้ซึ่งเป็นเหมือนเรื่องสั้น มีการสมมติตัวละครให้เจ้าแมว ให้ยศให้ชื่อ ถึงขั้นเขียนเป็นชีวประวัติฉบับแต่งขึ้นสไตล์นักเขียนเจ.เค.โรว์ลิงมือสมัครเล่น ฉบับของเจ้าแมวตัวนี้เลยทีเดียว555+ ซึ่งโน้ตฉบับนั้นมันทำให้ผมนึกถึงแมวตัวนั้นขึ้นมาหลังจากผ่านมานานแต่ไม่เคยลืม...

        หลายปีก่อน ตอนนั้นผมเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ ซี่งเป็นการย้ายโรงเรียนครั้งแรก ตอนนั้นจำได้ว่ามีความตื่นคนนิดหน่อย เนื่องจากย้ายไปคนเดียวเลยยังไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จัก ตอนนั้นก็ถือว่าเด็กจะเข้าสู่วัยรุ่น ช่วงนั้นก็มีการปรับตัวนิดหน่อย
        อยู่มาวันหนึ่ง ตอนนั้นเป็นช่วงวันเปิดเทอมแรกๆ ภายในรั้วโรงเรียนแห่งนี้ วันนั้นผมก็ไปโรงเรียนตามปกติ พอตกเย็นก็กลับถึงบ้าน วันนั้นเองเป็นวันที่เราได้เจอกับลูกแมวตัวหนึ่งแอบอยู่ข้างบ้าน มันเป็นแมวดำครับ และมันก็กำลังแอบอยู่ข้างประตูหลังบ้าน เราก็เลยเรียกแม่มาดูแล้วขอเลี้ยงแมวตัวนี้ ทีแรกแม่ก็ไม่ยอมหรอกครับเพราะด้วยความที่เรามีโรคภูมิแพ้ด้วย แต่ในที่สุดก็ต้องยอมเพราะเราไปขอย่า แล้วท่านก็อนุมัติเป็นที่เรียบร้อย😂 โดยมีข้อแม้ว่าเราต้องดูแลมันเอง ให้ข้าวให้น้ำมันเอง ต้องรับผิดชอบทั้งหมด แต่เจ้าแมวตัวนี้ไม่ค่อยถูกกับคนครับ จำได้ว่าตอนที่กำลังจะอุ้มมัน มันวิ่งหนีเข้าไปในบ้านแล้วมุดอยู่ใต้ตู้ ตอนนั้นเองครับที่ความโกลาหลเริ่มขึ้น คือเรียกยังไงมันก็ไม่ยอมออกมาซักที    

        จนผ่านไปหนึ่งวันเต็มๆ วันต่อมาก่อนที่ผมจะไปโรงเรียน ก็นึกได้ว่าไอ้แมวมันยังไม่ได้กินอะไรเลย เราเลยเทนมวัวใส่ฝาเล็กๆ แล้วเอาไปตั้งไว้ใกล้ๆตู้ หวังว่ามันจะแอบออกมากินเอง พอตกเย็นกลับถึงบ้านก็รีบไปส่องดูเจ้าแมวกับถ้วยนม ก็ปรากฏว่านมก็หายไปจริงๆครับ แสดงว่ามันหิวอยู่^^ เป็นแบบนี้อยู่หลายวันครับ มันทำให้ผมไปโรงเรียนได้อย่างสบายใจขึ้น ไม่กลัวเพื่อนใหม่อีกแล้ว เพราะด้วยความเป็นเด็กผมคิดว่าการที่เรามาเจอลูกแมวในวันที่ต้องเริ่มต้นในรร.แห่งใหม่เป็นสิ่งที่ดี และมันทำให้ผมมีกำลังใจที่จะไปโรงเรียน เพราะคิดว่าตอนกลับถึงบ้านเราจะมีลูกแมวตัวเล็กๆ รออยู่

        หลายวันผ่านไปผมก็เริ่มไปยืนอยู่ใกล้ๆ ตู้ที่แมวอยู่ครับ ยืนอยู่เฉยๆ ก็ปรากฏว่าแมวมันก็เริ่มที่จะชินกับคนแล้วมันก็เริ่มออกมาจากใต้ตู้ แล้วมันก็มาคลอเคลียขาเรา นานๆ ไปในที่สุดมันก็กล้าออกมาจากใต้ตู้ แล้วออกมาเจอคนในครอบครัวเราจนได้(แอบเหนื่อยอยู่นะ😂😂) เราก็เลี้ยงมันอย่างดีครับ จนมันอายุได้เดือนสองเดือนเราก็มารู้ว่าลูกแมวดำตัวนี้อ่ะ.. มันพลัดพรากจากแม่และพี่น้องของมัน เพราะแม่มันลืมมันไว้ที่ประตูบ้านเราครับ แม่มันออกมาร้องหาอยู่ตอนกลางคืน แต่ลูกแมวตัวนี้ก็กลับไปไม่ได้แล้ว เพราะการที่อยู่กับคนนาน ทำให้กลิ่นคนติดตัวไป ทำให้แม่มันเลยจำไม่ได้ นานไปแม่มันก็หยุดร้องแล้วหายไป แล้วทิ้งลูกมันไว้กับเรา แล้วเรายังรู้อีกด้วยว่าพี่น้องครอกเดียวกับลูกแมวตัวนี้ (ตอนนั้นยังไม่มีชื่อ แต่หลังๆ เรียกมันว่า*เหมียว*จนติดปากไปแล้ว เลยกลายเป็นชื่อไปอย่างสมบูรณ์) มีอยู่ประมาณ4-5 ตัว
        เรากับครอบครัวก็ช่วยกันเลี้ยงเจ้าเหมียวมาเรื่อยๆ หลายเดือนจนมันโตเป็นแมวตัวโต (อ้อ มันเป็นตัวผู้ด้วยนะครับ) แล้วปู่ก็พูดว่าแมวตัวผู้อ่ะ มันโตแล้วมันก็จะหนีออกจากบ้านไปนะ ไม่ต้องไปหวังว่ามันจะอยู่กับเรานาน (อันนี้ไม่รู้จริงไม่จริงนะครับ😄) ไอ้เราก็ใจแป้วๆไปบ้างแต่ทุกวันก็เล่นกับมัน เราก็สังเกตนะครับว่ามันออกจะดูโดดเดี่ยวอยู่บ้างไม่รู้ว่ามันจะเหงาเป็นรึเปล่า เนื่องด้วยแถวบ้านไม่ค่อยพบเจอแมวพวกนี้เลยครับ คนส่วนใหญ่เลี้ยงหมากัน บางวันมันก็หายหน้าหายตาไปนานๆ ทีจะกลับมาบ้านพร้อมด้วยกลิ่นสาบอันสุดจะทนทุกทีไป O.O
        
        อยู่มาวันหนึ่งเราก็แอบสังเกตเห็นแมวอีกตัวครับ มันเป็นแมวขนสีส้มแซมน้ำตาลๆ มันชอบมาวนเวียนแถวบ้านเรา แมวเราก็เห็นนะครับแรกๆ มันก็จะขู่ๆ แล้ววิ่งไล่เจ้าส้มหนีไป แต่พอนานๆ ไปผมก็เห็นว่ามันสนิทกันจนได้ครับ^^ ในที่สุดเจ้าเหมียวของผมก็มีเพื่อนแล้วครับบบ... บางวันก็วิ่งไล่ บางวันผมเห็นมันสองตัวนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆ กัน ถ้าคุณมาเห็นคุณจะรักเจ้าสองตัวนี้มากๆ เห็นแล้วก็ดีใจครับ เพราะรู้ว่าแถวนี้ไม่ค่อยมีแมวเร่ร่อนเลย เจ้าส้มคงเป็นเพื่อนตัวเดียวของเจ้าเหมียวของผม...
        หลายสัปดาห์ผ่านไป ผมจึงมารู้ความจริงทีหลังครับ... วันหนึ่งผมมารู้ว่าไอ้ส้มตัวนี้ เป็นแมวครอกเดียวกับเจ้าเหมียวแมวผม มันเป็นพี่น้องกันครับ🥺🥺 แล้วยังมีคนบอกมาด้วยว่า มันสองตัวเป็นตัวที่เหลืออยู่รอดครับ... พี่น้องตัวอื่นของมัน ชาวบ้านบางคนบอกว่าเห็นศพลูกแมวตาย คงเพราะถูกหมาใหญ่กัดครับ... แล้วที่น่าเศร้าคือแม่ของพวกมันก็ถูกหมากัดตายแล้วด้วย นี่ทำให้ผมถึงกับอึ้งแล้วก็เศร้าไปพร้อมกัน... ลองมาคิดดูแล้วเจ้าส้มน่าสงสารมากครับมันต้องเร่ร่อนไปไหนตัวเดียวเพราะครอบครัวตายหมด นั่นยิ่งทำให้ผมงงครับว่า ที่มันมาวนเวียนแถวบ้านผมเพราะมันรู้หรือเปล่าว่ามีพี่น้องอีกตัวของมันรอดชีวิต มันจะรู้ไหมนะว่าเจ้าเหมียวที่เล่นด้วยกันทุกวันเป็นพี่น้องมัน... คิดๆไปแล้วผมก็ประหลาดใจครับ

        หลังจากเรื่องนั้นผ่านไปหลายสัปดาห์ทีเดียว หลังจากที่เห็นหน้าเห็นตาเจ้าส้มบ่อยๆ มันก็เริ่มไม่มาให้เห็นครับเป็นเวลานานผมไม่เห็นมันมาเล่นกับเจ้าเหมียว จนในที่สุดเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น...
        วันนั้นตอนเย็นๆใกล้มืด แม่ผมแกไปตักนำ้ มันเป็นอ่างเล็กๆ แต่ลึกพอสมควร ตั้งอยู่นอกบ้านครับ ตอนนั้นเองที่แม่เห็นอะไรบางอย่างครับ ลอยอยู่ในน้ำ ทำให้น้ำสกปรก แม่เลยเรียกผมมาดู ผมก็เอาไฟฉายไปส่อง...     
ปรากฏว่ามันคือเจ้าส้มครับ ที่ลอยอยู่คือเจ้าส้ม.... ตัวแข็งทื่อ กับขาที่ชี้โด่เด่ ผมตกใจมากแต่ไม่กล้าจับ ผมเรียกปู่ให้มาดู แล้วท่านก็จับหางมันยกออกจากน้ำ สภาพของมันคือปากอ้า ตัวแข็งน่ากลัวมากครับ ด้วยความที่เป็นเด็กผมถามว่ามันเป็นอะไรไป ปู่ผมก็บอกผมว่ามันตายแล้วนะ เจ้าส้มตายแล้ว ปู่สันนิษฐานว่าคงจะมีคนใจร้ายสักคนวางยามัน(คนสมัยนั้นแถวบ้านเขามักวางยาสัตว์ที่มาแอบกินข้าวที่ตากไว้ครับ ซึ่งผมไม่รู้ทำไม) แล้วมันก็มึนยาแล้วพยายามมากินน้ำในอ่าน จนพลัดตกลงไปจมน้ำตาย... ผมถึงกับช็อคครับ มือสั่นไปหมด ปู่บอกว่าไม่เป็นไรท่านจะเอาศพมันไปฝังให้เองไม่ต้องห่วง แต่ก่อนเอาไปผมอยากให้เจ้าเหมียวเห็นเพื่อนมันก่อนเป็นครั้งสุดท้าย อยากให้มันรู้ความจริง ผมเลยไปอุ้มมันออกมาขณะที่มันหลับอยู่ ผมอุ้มมันไปดูศพเพื่อนมันที่วางไว้ตรงอ่างนั่น ตอนแรกมันก็เดินวนครับ แล้วมันก็เดินเข้าไปดมๆ แล้วมันก็ดูนิ่งๆ ไปเหมือนกัน

        แล้วนั่นก็ทำให้ผมสงสัยครับ.. ผมสงสัยว่าแมวมันจะฉลาดพอที่จะมีความรู้สึกมั้ยนะ?... มันจะรู้สึกเศร้าเป็นไหม... มันจะร้องไห้เหมือนคนได้รึเปล่า... ผมคิดไปแล้วก็สงสารเจ้าเหมียวของผมครับ ลองนึกดูแล้วเจ้าส้มเป็นเพื่อนตัวเดียวของมัน เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ของมัน จากนี้ไปมันคงกลับมาโดดเดี่ยวกว่าเดิมแน่ๆ...
        หลังจากนั้นผ่านไป หลังๆผมจะเห็นเจ้าเหมียวของผมหายหน้าหายตาไปนานๆครั้งครับ บางทีมันก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ หลายวันค่อยกลับมา จนผมอดสงสัยว่ามันกำลังเสียใจหรือเปล่า หรือมันกำลังตามหาเจ้าส้มอยู่ ผมรู้สึกว่าพักหลังๆมันไม่ค่อยกินข้าวเยอะเท่าไร แล้วมันก็โตเป็นแมวตัวผู้แล้ว ผมก็เลยคิดว่าบางทีมันอาจไปติดสาวทีไหน
        หลังจากนั้นพักหลังๆ ผมก็ไม่ค่อยเห็นมันเลยครับ ไม่ค่อยได้เล่นกับมัน ถ้าได้เล่นด้วยกัน ผมก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นมิตรเหมือนเมื่อก่อน มันชอบกัดมากขึ้น จนมาวันหนึ่งหลังจากที่ผมไม่เห็นหน้ามันมาหลายวัน มันก็กลับบ้านมาจนได้เนื้อตัวมอมแมว กลิ่นก็เหม็นครับ ผมยังสังเกตอีกนะครับว่ามันซูบๆ ลง
        วันต่อมาผมตื่นขึ้นมาพบว่า เจ้าเหมียวของผมมีอาการซึมอย่างเห็นได้ชัดครับ มีกลิ่น อีกทั้งยังมีอาการท้องเสียมากด้วย มันปล่อยเรี่ยราดบ้านไปหมด ผมก็เริ่มเอะใจบางอย่างครับ ตอนนั้นลางสังหรณ์ไม่ดีเริ่มมาแล้ว ตอนนั้นผมไม่รู้จะถามใครว่าแมวผมเป็นอะไร หรือจะป่วยเฉยๆ ผมเลยเข้ากูเกิลเสิร์ชหาซะเลย ผมตกใจกับผลลัพธ์ของโรคที่เจ้าเหมียวเป็นมาก... เหลืออีกแค่อาการเดียวที่ยังไม่แสดงออก... ผมก็ภาวนาให้มันไม่เป็นอย่างที่กูเกิลว่า..
        พอตกเย็นวันนั้น ผมก็รู้เลยครับว่าแมวผมเป็นอะไร..... หลังจากที่นอนเซามาทั้งวัน ตกเย็นมันเริ่มมีน้ำลายย้อยออกมามากๆ อีกทั้งยังมีอาการอาเจียนหนักด้วยครับ ตอนนั้นผมเริ่มคิดละ.. ว่าแมวผมโดนวางยาซะแล้ว ผมไปคุยกับปู่ครับ ปู่ก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพามันไปหาหมอเอง ตอนนี้เย็นมากแล้วคงไม่มีคลินิกสัตว์เปิด ผมก็ได้แต่หวังครับ ว่าพรุ่งนี้มันยังจะมีลมหายใจอยู่

        คืนนั้นผมกลุ้มมากครับ ผมนอนไม่หลับ เลยให้เจ้าเหมียวมันมานอนอยู่ตรงหลังหัวเตียงครับ เพราะหัวเตียงผมไม่ชิดผนัง มันจะมีช่องอยู่มันก็มุดไปนอนตรงนั้น ตอนกลางคืนผมสะลึมสะลือมากครับ แล้วก็ฝันไม่ค่อยดีเลย ผมจำได้ว่าได้ยินเสียงตุบตับที่หัวเตียงด้วยครับ ... แต่ผมก็ได้แต่หวังแล้วก็ข่มตาหลับจนถึงตอนเช้าครับ

...แน่นอนครับ...

เจ้าเหมียวมีชีวิตไม่รอดถึงรุ่งสาง... มันตายแล้วครับ... 
ตอนเช้าที่ผมตื่นมาผมได้กลิ่นเหม็นสาบหน่อยๆ ผมเลยส่องดูเจ้าเหมียวครับ แล้วก็พบว่ามันได้สิ้นสุดลมหายใจแล้วเสียงตุบตับเมื่อคืน ผมจินตนาการว่ามันคงกำลังทรมานมาก มันต้องดิ้นตัวสุดกำลัง ปากมันมีน้ำลายฟูมปากเต็มเลยครับ...

ผมได้แต่นิ่งอึ้ง... ผมไปปลุกปู่ครับ บอกแกว่าเจ้าเหมียวตายแล้ว แกก็ช่วยเอาศพมันออกมาวางนอกบ้าน ตอนนั้นเองครับ ผมก็แอบนั่งร้องไห้ให้มัน แอบสวดแผ่เมตตาให้มันด้วย หลังจากนั้นย่าเลยบอกว่าจะพาผมเอามันไปฝัง ผมกับย่าเลยได้สวดให้มันไปดี แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ
ต่อมาเราก็เอามันไปฝังไว้ในทุ่งแห่งหนึ่ง หวังว่ามันคงสบายดี หลับไปก็ดีแล้วนะ....

ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าตั้งแต่วันที่ครอบครัวเราเจอมันอยู่นอกบ้านตอนที่มันเป็นลูกแมวอยู่ แต่ต้องมาตายในบ้าน แล้วตายบนหัวผมนี่เอง
อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาทั้งหมดแค่สองปีเท่านั้นครับ ซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่นิดเดียวของแมว มันต้องมาตายด้วยน้ำมือของคนใจร้ายบางคน ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจครับว่าคือคนเดียวกันกับที่วางยาเจ้าส้ม ผมในตอนนั้นก็ได้แต่คิดว่าเขาทำไปทำไม...

แต่คิดไปแล้วเจ้าเหมียวก็ยังโชคดีกว่าพี่น้องมันนะครับ เพราะมันคือตัวสุดท้ายที่ตามพี่น้องกับแม่ของมันไป♥️...
...หลับแล้ว แกก็ไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้วนะ...

เจ้าเหมียว

จบ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่