Passion VS. Burn out
การเป็นนักจิตวิทยาบำบัด หรือนักจิตวิทยาคลินิก จะต้องมีการหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา ทั้งจากหนังสือเล่มเก่าที่เคยอ่านแต่ห่างหายไปนาน หนังสือเล่มใหม่ที่ยังไม่ได้เปิด หรือแม้แต่เอกสารต่าง ๆ
.
.
หนังสือ/เอกสาร ส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นภาษาอังกฤษเพราะความรู้และทฤษฎี ที่เราทราบกันมานั้น ก็จะเป็นปรมาจารย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Freud, Ivan Winnicott, Maslow, Yalom และคนอื่น ๆ อีกมายมายที่ไม่ได้กล่าวถึง มีทั้งที่คุ้นชื่อและไม่คุ้นชื่อ
.
.
ซึ่งการเป็นนักจิตบำบัดหรือนักจิตวิทยาคลินิกไม่ได้ง่ายเลย ที่จะต้องทำความเข้าใจทฤษฎีทั้งหมดนี้และนำมาสังเคราะห์เพื่อมาใช้กับวิชาชีพ และปรับใช้ตามเคสที่เข้ามาพบ
.
.
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบุคคลนั้นจะนำความรู้ที่มีมาใช้ถูกต้องหรือไม่ เพราะต่างคนต่างประสบการณ์ ?
เราเองก็ไม่รู้หรอก เรารู้เพียงแค่ว่าตัวเราเองพยายามที่จะไม่หยุดนิ่งกับความรู้ทั้งที่เคยได้รับและไม่ได้รับ โดยตระหนักว่าคนที่ได้ประโยชน์คือเคสที่มาหาเรา และตัวเราเองที่จะสามารถยอมรับตนเองได้ว่าเป็นคนรู้จริงในวิชาชีพของตน
.
.
#สิ่งเหล่านี้คือpassion ที่เราพยายามมาตลอด
แม้จะมีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่เราก็คิดว่าหากเราหยุดพักเราจะหยุดนิ่งและอาจจะเดินช้ากว่าคนอื่นหลายก้าว
.
.
แต่เราก็มี burn out บ้าง ในช่วงแรกของการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษแทบจะท้อเลย หรือแม้แต่บางทีที่เราต้องการเวลาพักผ่อน อยากที่จะนอน อ่านหนังสือเล่น ดูหนังที่อยากดู
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะตั้งเป้าหมายไว้แล้วต้องทำให้ได้ ยิ่งช่วงโควิด เราว่างมากขึ้นกว่าเดิมถึงต้องการจะทำตามที่ต้องการแต่ความรู้สึกว่าว่างเกินไปก็อาจจะทำให้ตามหลังเขาอยู่ดี เราจึงพยายามที่จะไม่ว่างและทำสิ่งต่างๆ ทั้งอ่านบทความ ทบทวนความรู้ที่เคยเรียน
หากเราทำได้ไม่ใช่แค่เราจะภูมิใจในตัวเราเองแต่เราภูมิใจในวิชาชีพด้วยที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเคสได้อย่างเต็มที่
.
.
เมื่อเปรียบกับคนอื่นๆ ก็คงจะเหมือนนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงาน ที่อาจจะเบื่อกับการเรียนการทำงานบ้าง หรือเบื่อที่ต้องทนอยู่บ้านด้วย
เวลาที่คุณมีความรู้สึกเบื่อ คุณควรจะหากิจกรรมที่คุณชอบและสร้างแรงบันดาลใจจากสิ่งนั้นน่าจะดีกว่านะ แล้วคุณจะไม่รู้สึกเบื่อเลย
เพราะ passion จะมาในเวลาที่เหมาะสม
แต่เมื่อไหร่ที่คุณหยุด คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่าคุณหมด passion และตามหลังคนอื่น ๆ อยู่
คุณจะรู้สึก burn out ในทันที
.
.
อยากจะบอกคุณว่า "มันไม่ผิดหรอกที่คุณต้องการพัก...แต่คุณจะพักอย่างไรให้คุณไม่รู้สึกผิดหวังกับตนเอง" แค่นั้นเอง..
มี passion แต่ก็ burn out อยู่ดี
การเป็นนักจิตวิทยาบำบัด หรือนักจิตวิทยาคลินิก จะต้องมีการหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา ทั้งจากหนังสือเล่มเก่าที่เคยอ่านแต่ห่างหายไปนาน หนังสือเล่มใหม่ที่ยังไม่ได้เปิด หรือแม้แต่เอกสารต่าง ๆ
.
.
หนังสือ/เอกสาร ส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นภาษาอังกฤษเพราะความรู้และทฤษฎี ที่เราทราบกันมานั้น ก็จะเป็นปรมาจารย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Freud, Ivan Winnicott, Maslow, Yalom และคนอื่น ๆ อีกมายมายที่ไม่ได้กล่าวถึง มีทั้งที่คุ้นชื่อและไม่คุ้นชื่อ
.
.
ซึ่งการเป็นนักจิตบำบัดหรือนักจิตวิทยาคลินิกไม่ได้ง่ายเลย ที่จะต้องทำความเข้าใจทฤษฎีทั้งหมดนี้และนำมาสังเคราะห์เพื่อมาใช้กับวิชาชีพ และปรับใช้ตามเคสที่เข้ามาพบ
.
.
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบุคคลนั้นจะนำความรู้ที่มีมาใช้ถูกต้องหรือไม่ เพราะต่างคนต่างประสบการณ์ ?
เราเองก็ไม่รู้หรอก เรารู้เพียงแค่ว่าตัวเราเองพยายามที่จะไม่หยุดนิ่งกับความรู้ทั้งที่เคยได้รับและไม่ได้รับ โดยตระหนักว่าคนที่ได้ประโยชน์คือเคสที่มาหาเรา และตัวเราเองที่จะสามารถยอมรับตนเองได้ว่าเป็นคนรู้จริงในวิชาชีพของตน
.
.
#สิ่งเหล่านี้คือpassion ที่เราพยายามมาตลอด
แม้จะมีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่เราก็คิดว่าหากเราหยุดพักเราจะหยุดนิ่งและอาจจะเดินช้ากว่าคนอื่นหลายก้าว
.
.
แต่เราก็มี burn out บ้าง ในช่วงแรกของการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษแทบจะท้อเลย หรือแม้แต่บางทีที่เราต้องการเวลาพักผ่อน อยากที่จะนอน อ่านหนังสือเล่น ดูหนังที่อยากดู
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะตั้งเป้าหมายไว้แล้วต้องทำให้ได้ ยิ่งช่วงโควิด เราว่างมากขึ้นกว่าเดิมถึงต้องการจะทำตามที่ต้องการแต่ความรู้สึกว่าว่างเกินไปก็อาจจะทำให้ตามหลังเขาอยู่ดี เราจึงพยายามที่จะไม่ว่างและทำสิ่งต่างๆ ทั้งอ่านบทความ ทบทวนความรู้ที่เคยเรียน
หากเราทำได้ไม่ใช่แค่เราจะภูมิใจในตัวเราเองแต่เราภูมิใจในวิชาชีพด้วยที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเคสได้อย่างเต็มที่
.
.
เมื่อเปรียบกับคนอื่นๆ ก็คงจะเหมือนนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงาน ที่อาจจะเบื่อกับการเรียนการทำงานบ้าง หรือเบื่อที่ต้องทนอยู่บ้านด้วย
เวลาที่คุณมีความรู้สึกเบื่อ คุณควรจะหากิจกรรมที่คุณชอบและสร้างแรงบันดาลใจจากสิ่งนั้นน่าจะดีกว่านะ แล้วคุณจะไม่รู้สึกเบื่อเลย
เพราะ passion จะมาในเวลาที่เหมาะสม
แต่เมื่อไหร่ที่คุณหยุด คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่าคุณหมด passion และตามหลังคนอื่น ๆ อยู่
คุณจะรู้สึก burn out ในทันที
.
.
อยากจะบอกคุณว่า "มันไม่ผิดหรอกที่คุณต้องการพัก...แต่คุณจะพักอย่างไรให้คุณไม่รู้สึกผิดหวังกับตนเอง" แค่นั้นเอง..