คือปกติผมเป็นแนวมโนศาสตร์ คือไม่มีหลักการเท่าไร แต่ออกจะอิงหุ้นที่พอมีปันผลและอยู่ในกระแส ก็พอได้กำไรนิดๆหน่อยๆ ดีกว่าเงินฝากไม่มาก

ตอนนี้ก็พยายามศึกษา หาแนวของตัวเองแบบชัดๆอยู่ ก็เลยศึกษามันทุกแนว 

มาติดใจตรงแนวเทคนิค ที่ตำราบอกว่า เมื่อหุ้นตกถึงจุดที่ตั้งไว้ให้ตัดขายหยุดการขาดทุนทันที อันนี้ล่ะครับคือปัญหา

เช่น หุ้นตัวนึงร้อยบาท ผมตั้งตัดขาดทุนเอาไว้ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ ก็แปลว่า หากราคาตกมาถึง 95 บาท ผมต้องขายทิ้งทันทีโดยอัตโนมัติ

แต่ปัญหาคือระหว่างวันนั้น หุ้นอาจจะมีวิ่งขึ้นวิ่งลง หรือเหวี่ยงหนักมาก กว่าจะรู้ผลก็ตอนปิดตลาดว่าหุ้นตัวนั้นต่ำกว่าจุด Stop Loss ของเราเปล่า 

ถ้าแบบนี้แปลว่า เราต้องเฝ้าจอตลอดเวลาใช่เปล่าครับ หากระหว่างนั้นหุ้นเหวี่ยงไปมาแล้วเลยจุด เราต้องตัดขายทิ้งทันที แม้ว่าพอขายแล้วหุ้นจะกลับไปที่เดิมหรือมากกว่าเดิม ก็ต้องทำใจ ไม่ใช่มาดูราคาปิดในวัน เพราะไม่งั้นหากไปเจอหุ้นตกหนักๆแบบว่าติดฟลอร์เลย คราวนี้เจ็บหนักแน่ ผมเข้าใจแบบนี้ถูกต้องไหมครับ 

และอีกข้อครับ สมมุติว่าวันนั้นหุ้นลงไปเกือบถึงจุด Stop Loss เช่นลงไป 4เปอร์เซ็นต์แล้วปิดตลาด โดยทางทฤษฎีแล้วเราจะยังไม่ขาย 

แต่ถ้าหุ้นน้นมีแนวโน้มลงต่อ(ซึ่งแปลว่าอาจจะไม่ลงก็ได้) เราจะรอให้ลงไปจนถึงจุด Stop Loss แล้วขาย หรือชิงขายก่อนดีครับ เพราะอย่างที่บอก หากมีแนวโน้มที่จะลง แล้วรอให้ลงจริงๆ มันจะไม่ได้ลงแค่ 1 เปอรืเซ็นต์ที่เหลือนะสิครับ มันอาจจะดิ่งลงไปทีเดียว 3 หรือ 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์เลย ก็แปลว่าเราขาดทุนหนักเลย ต้องตัดขายหุ้นทิ้งทั้งน้ำตาโดยหุ้นตัวนั้นขาดทุนไปประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องยอมรับใช่เปล่าครับ ถ้าถือวินัยเคร่งครัดจริงๆ ถ้ายังลงไม่ถึง 5 ก็ห้ามขาย 

หรือใครมีอะไรแนะนำเพิ่มก็แนะนำได้นะครับ กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ครับ ขอบคุณครับ