ขึ้นชื่อว่าหน้าร้อน ก็ต้องร้อนเป็นธรรมดา ถึงแม้ว่าเธอจะน่ารักก็ตาม (ฮั่นแหน่ะ !!!) เมื่อร้อนแล้ว เราก็ต้องเปิดแอร์ หรือถ้ายังไม่ได้ติดแอร์ ก็ต้องหาซื้อแอร์มาติดกันบ้างล่ะ !!! แต่หลายคนน่าจะยังไม่รู้ ว่าขนาดห้องเท่าไหร่ ต้องติดแอร์ขนาดไหนกันแน่ ซึ่งก็ไม่ยากเลยครับ วันนี้เราจะแชร์วิธีการคำนวณ BTU แอร์ ให้ทุกคนได้รู้กันครับ 
 
แต่ก่อนอื่น อยากให้รู้กันก่อน ว่า BTU คืออะไร ซึ่ง BTU ก็คือหน่วยที่ใช้วัดปริมาณความร้อนหน่วยหนึ่ง ที่ย่อมาจาก British Thermal Unit โดยที่ความร้อน 1 BTU คือปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 ปอนด์มีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง 1 องศาฟาเรนไฮท์ โดยแอร์นั้นจะวัดกำลังความเย็นหรือความสามารถในการดึงความร้อน (ถ่ายเทความร้อน) ออกจากห้องปรับอากาศในหน่วยบีทียู (BTU) เช่น แอร์ขนาด 14,000 บีทียูต่อชั่วโมง หมายความว่าแอร์เครื่องนั้นมีความสามารถในการดึงความร้อนออกจากห้องปรับอากาศ 14,000 บีทียูภายในเวลา 1 ชั่วโมง
 
แล้วทำไมต้องเลือก BTU แอร์ให้พอดีด้วย ข้อนี้มีเหตุผลครับ ก็คือ ถ้าเราเลือก BTU สูงไป ทำให้ห้องมีความชื้นที่มากเกินไป ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเท่าไหร่ แถมมีราคาแพงด้วย แต่ถ้าเราเลือก BTU ที่ต่ำไป ก็จะกินไฟเยอะขึ้น แถมทำให้ห้องเย็นได้ช้าลงด้วย

 
วิธีการคำนวณ BTU โดยใช้สูตรพื้นที่ห้อง
BTU = [กว้าง(เมตร) x ยาว(เมตร)] x ตัวแปร
ตัวแปร
- 750 สำหรับห้องนอนปกติ ไม่โดดแดด
- 800 สำหรับห้องนอนปกติ โดดแดด
- 850 สำหรับห้องทำงาน ไม่โดดแดด
- 900 สำหรับห้องทำงาน โดดแดด
 
ตัวอย่างการคำนวณ
ห้องนอนไม่ค่อยโดดแดด กว้าง 5.5 เมตร, ยาว 6 เมตร 
BTU = [5.5 เมตร x 6 เมตร] x 750
       = 33 ตารางเมตร x 750
       = 24,500 => 25,000
เพราะฉะนั้น ผู้ซื้อแอร์ ควรใช้แอร์ขนาด 25,000 บีทียู (สามารถสูง-ต่ำได้นิดหน่อย แต่ไม่ควรเกิน 1,000 บีทียู)
 
โดยเราจะมีปัจจัยเพิ่มเติมสำหรับการเลือกแอร์อีก ดังนี้
1. ทิศทางของห้อง
ห้องแต่ละห้องนั้นร้อน และเย็นไม่เท่ากัน เพราะหน้าห้องจะหันหน้าไปตามทิศต่าง ๆ โดนแดดมากน้อยต่างกันไป ดังนั้น คิดถึงเรื่องของทางแดดส่องด้วย
2. ความสูงของห้อง
เราต้องคิดด้วยว่าห้องที่เราติดแอร์นั้นเพดานสูงรึเปล่า ซึ่งถ้าเพดานสูง ห้องก็จะมีพื้นที่ที่มากขึ้น ก็อาจจะทำให้ห้องเย็นได้ช้าลงได้อีก ซึ่งเดี๋ยวเราจะแปะสูตรคำนวณ BTU ที่มีเรื่องของความสูงให้อีกที่ด้านท้ายก็แล้วกัน
3. ประตู หน้าต่าง เป็นยังไง เปิดบ่อยมั้ย
แน่นอนถ้าเราเปิดประตูบ่อย แอร์ก็ออกบ่อย ซึ่งนั่นก็จะทำให้แอร์เย็นช้าลงไปได้อีก และหน้าต่างเป็นแบบไหน รับแดดได้เยอะแค่ไหน เราก็ต้องมาคิดถึงเรื่องตรงนี้ด้วย
4. ในห้องคนเยอะหรือไม่
เพราะถ้าคนเยอะ ก็จะแย่งอากาศกันหายใจมากขึ้น และเมื่อคนยิ่งเยอะ แอร์ก็จะปรับความเย็นได้น้อยลงด้วย
5. เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ 
เราต้องดูด้วยว่าเรามีเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ หรือไม่ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถคายความร้อนได้เหมือนกัน ซึ่งก็จะมีส่วนทำใฟ้ฟ้องเย็นช้าลงได้ด้วย
 
สูตรคำนวณโดยใช้ปริมาตรของห้อง สำหรับห้องที่มีฝ้าเพดานสูง
BTU = [[กว้าง(เมตร) x ยาว(เมตร) x สูง(เมตร)] x ตัวแปร] / 3
ตัวอย่างการคำนวณห้องที่มีเพดานสูง
ห้องทำงานโดดแดด กว้าง 4 เมตร, ยาว 8 เมตร, สูง 3.5 เมตร
BTU = [[4 เมตร x 8.5 เมตร x 3.5 เมตร ] x 900] / 3
       = [112 ตารางเมตร x 900] / 3
       = 107,100 / 3
       = 35,700 => 36,000
เพราะฉะนั้น จึงควรใช้แอร์ขนาด 36,000 บีทียู (สามารถสูง-ต่ำได้นิดหน่อย แต่ไม่ควรเกิน 1,000 บีทียู)
 
ก็จบแล้วนะครับ สำหรับเรื่องการคำนวณ BTU แอร์ ซึ่งสิ่นี้ จะช่วยให้เราสามารถเลือกแอร์ได้ดีขึ้น และเหมาะสมได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : CondoNewb