"นิวซีแลนด์ เตรียมผ่อนปรนมาตรการ ล็อกดาวน์ ในประเทศในวันที่ 27 เมษายน นี้"
ทั่วโลกยกย่องผู้นำนิวซีแลนด์ พาประเทศพ้นวิกฤติโควิด
ข่าวต่างประเทศ
ไทยรัฐออนไลน์21 เม.ย. 2563 12:55 น.SHARE
นิวซีแลนด์ เตรียมเปิดประเทศ สื่อต่างชาติยกเครดิตให้ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
ที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนมาก่อนเศรษฐกิจ
วิกฤติโควิด-19 ที่กลายเป็นบททดสอบสุดหินสำหรับผู้นำทั่วโลกยังคงไม่จบง่ายๆ แต่สำหรับนางจาซินดา อาร์เดิร์น ผู้นำหญิงจากนิวซีแลนด์ วัย 39 ปี กำลังเขียนบทสรุปแบบทดสอบในครั้งนี้ และเตรียมนำพลเมืองของเธอกลับสู่การใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาเคยเป็น
เมื่อเดือนที่แล้วนิวซีแลนด์ได้บังคับใช้มาตรการปิดประเทศที่เรียกได้ว่าเข้มงวดที่สุดในโลก ทำให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศนิวซีแลนด์ทุกคนต้องกักตัว 14 วัน ก่อนที่จะประกาศล็อกดาวน์ประเทศ ซึ่งการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และจริงจัง ทำให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด
การที่นิวซีแลนด์เป็นเกาะและไม่มีชายแดนติดประเทศใดๆ ถือเป็นผลดีต่อการควบคุมการแพร่ระบาด แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าข้อความที่เด็ดขาดจากรัฐบาลมีส่วนสำคัญในการยับยั้งไวรัสมรณะ ในขณะที่ประเทศต่างๆ ได้ประกาศสงครามสู้โควิด-19 ด้วยท่าทีแข็งกร้าว แต่ผู้นำหญิงคนนี้เลือกที่จะส่งข้อความให้ชาวนิวซีแลนด์รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 โดยใช้คำพูดเรียกพลเมืองนิวซีแลนด์ว่า "ทีมที่มี 5 ล้านคนของพวกเรา" ทำให้นักวิชาการระบุว่านางอาร์เดิร์น มีวิธีสื่อสารกับประชาชนอย่างได้ผลผ่านการใช้วาทศิลป์ ที่แฝงด้วยความเข้มแข็งของผู้นำ ในการปลอบประโลมประชาชนท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติ
พร้อมกับอธิบายสถานการณ์ด้านสารธาณสุขได้อย่างเข้าใจง่าย จนทำให้ประชาชนทำตามมาตรการของรัฐอย่างเต็มที่
หลังจากประกาศล็อกดาวน์ นางอาร์เดิร์น ได้ไลฟ์สดในเฟซบุ๊กพูดคุยและตอบคำถามของประชาชน ทำให้เธอมีภาพลักษณ์ที่เข้าถึงง่าย เท่านั้นยังไม่พอเธอประกาศตัดเงินเดือนของตนเอง รวมไปถึงรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลปัจจุบัน 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 6 เดือนหลังจากนี้ เพื่อช่วงพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ถึงแม้ทางการนิวซีแลนด์จะได้รับคำชม แต่ก็มีเสียงจากผู้สื่อข่าวที่วิจารณ์การแถลงการณ์โควิด-19 ของนิวซีแลนด์ ที่ไม่ให้เวลาถามคำถามหรือให้ความชัดเจนของของข้อมูลเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งแพร่ระบาดในประเทศ ทำให้นิวซีแลนด์มีเคสโควิด-19 ถึง 230 เคส ที่ไม่สามารถระบุที่มาได้ ทำให้ถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของข้อมูล
นิวซีแลนด์เตรียมผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศในวันที่ 27 เมษายน และ
จะลดระดับการแจ้งเตือนเป็นระดับ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ โดยพบผู้ป่วยรวมทั่วประเทศ 1,440 ราย และเสียชีวิต 12 ศพ
นางอาเดิร์น เผยว่า แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในนิวซีแลนด์ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ "แต่เราต้องไม่ลืมว่าทุกคนอาจเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูงของใครบางคน และเป็นผู้ที่เราร่วมมือกันเพื่อปกป้องและช่วยเหลือ" ซึ่งข้อความที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจและเป็นที่พึ่งของคนในประเทศ บวกกับการให้ความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่งได้ส่งให้ผู้นำหญิงคนนี้ได้รับการยกย่องในการต่อสู้กับวิกฤติโรคระบาดมรณะ
อ้างอิง: www.theatlantic.com
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1826263
ทั่วโลกยกย่อง .. ผู้นำนิวซีแลนด์ พาประเทศ พ้น วิกฤติโควิด
ทั่วโลกยกย่องผู้นำนิวซีแลนด์ พาประเทศพ้นวิกฤติโควิด
ข่าวต่างประเทศ
ไทยรัฐออนไลน์21 เม.ย. 2563 12:55 น.SHARE
นิวซีแลนด์ เตรียมเปิดประเทศ สื่อต่างชาติยกเครดิตให้ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนมาก่อนเศรษฐกิจ
วิกฤติโควิด-19 ที่กลายเป็นบททดสอบสุดหินสำหรับผู้นำทั่วโลกยังคงไม่จบง่ายๆ แต่สำหรับนางจาซินดา อาร์เดิร์น ผู้นำหญิงจากนิวซีแลนด์ วัย 39 ปี กำลังเขียนบทสรุปแบบทดสอบในครั้งนี้ และเตรียมนำพลเมืองของเธอกลับสู่การใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาเคยเป็น
เมื่อเดือนที่แล้วนิวซีแลนด์ได้บังคับใช้มาตรการปิดประเทศที่เรียกได้ว่าเข้มงวดที่สุดในโลก ทำให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศนิวซีแลนด์ทุกคนต้องกักตัว 14 วัน ก่อนที่จะประกาศล็อกดาวน์ประเทศ ซึ่งการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และจริงจัง ทำให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด
การที่นิวซีแลนด์เป็นเกาะและไม่มีชายแดนติดประเทศใดๆ ถือเป็นผลดีต่อการควบคุมการแพร่ระบาด แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าข้อความที่เด็ดขาดจากรัฐบาลมีส่วนสำคัญในการยับยั้งไวรัสมรณะ ในขณะที่ประเทศต่างๆ ได้ประกาศสงครามสู้โควิด-19 ด้วยท่าทีแข็งกร้าว แต่ผู้นำหญิงคนนี้เลือกที่จะส่งข้อความให้ชาวนิวซีแลนด์รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 โดยใช้คำพูดเรียกพลเมืองนิวซีแลนด์ว่า "ทีมที่มี 5 ล้านคนของพวกเรา" ทำให้นักวิชาการระบุว่านางอาร์เดิร์น มีวิธีสื่อสารกับประชาชนอย่างได้ผลผ่านการใช้วาทศิลป์ ที่แฝงด้วยความเข้มแข็งของผู้นำ ในการปลอบประโลมประชาชนท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติ
พร้อมกับอธิบายสถานการณ์ด้านสารธาณสุขได้อย่างเข้าใจง่าย จนทำให้ประชาชนทำตามมาตรการของรัฐอย่างเต็มที่
หลังจากประกาศล็อกดาวน์ นางอาร์เดิร์น ได้ไลฟ์สดในเฟซบุ๊กพูดคุยและตอบคำถามของประชาชน ทำให้เธอมีภาพลักษณ์ที่เข้าถึงง่าย เท่านั้นยังไม่พอเธอประกาศตัดเงินเดือนของตนเอง รวมไปถึงรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลปัจจุบัน 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 6 เดือนหลังจากนี้ เพื่อช่วงพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ถึงแม้ทางการนิวซีแลนด์จะได้รับคำชม แต่ก็มีเสียงจากผู้สื่อข่าวที่วิจารณ์การแถลงการณ์โควิด-19 ของนิวซีแลนด์ ที่ไม่ให้เวลาถามคำถามหรือให้ความชัดเจนของของข้อมูลเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งแพร่ระบาดในประเทศ ทำให้นิวซีแลนด์มีเคสโควิด-19 ถึง 230 เคส ที่ไม่สามารถระบุที่มาได้ ทำให้ถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของข้อมูล
นิวซีแลนด์เตรียมผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศในวันที่ 27 เมษายน และจะลดระดับการแจ้งเตือนเป็นระดับ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ โดยพบผู้ป่วยรวมทั่วประเทศ 1,440 ราย และเสียชีวิต 12 ศพ
นางอาเดิร์น เผยว่า แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในนิวซีแลนด์ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ "แต่เราต้องไม่ลืมว่าทุกคนอาจเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูงของใครบางคน และเป็นผู้ที่เราร่วมมือกันเพื่อปกป้องและช่วยเหลือ" ซึ่งข้อความที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจและเป็นที่พึ่งของคนในประเทศ บวกกับการให้ความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่งได้ส่งให้ผู้นำหญิงคนนี้ได้รับการยกย่องในการต่อสู้กับวิกฤติโรคระบาดมรณะ
อ้างอิง: www.theatlantic.com
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1826263