คิดถึงวันวาน! "บีบีซี" เผยโฉม20ชุดแข่งสุดคลาสสิกที่ตราตรึงใจแฟนบอล

ชุดแข่งถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของกีฬาฟุตบอล ซึ่งแต่ละทีมก็มีชุดแข่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แถมมีความคลาสสิกในตัว โดยเฉพาะชุดแข่งที่มีความพิเศษหรือเกี่ยวโยงกับเรื่องราวสำคัญในอดีต ซึ่งล่าสุดทาง บีบีซี สื่อดังของอังกฤษ ได้ลิสต์ 20 ชุดแข่งที่เป็นไอคอนของวงการลูกหนัง โดยงานนี้แฟนๆ สามารถเข้าไปร่วมโหวตชุดแข่งที่ตัวเองชื่นชอบได้ด้วย



 - อังกฤษ 1966



  เสื้อแขนยาวสีแดงสดในภาพนี้ ย่อมอยู่ในความทรงจำของแฟนบอล "สิงโตคำราม" อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนี่คือยูนิฟอร์มของทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เซอร์ อัลฟ์ แรมซี่ย์ ที่ผงาดคว้าแชมป์โลกมาครองเมื่อปี 1966 ด้วยการเอาชนะ เยอรมนีตะวันตก 4-2 

 - เซลติก 1967



น่าจะเป็นชุดแข่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของ เซลติก เลยก็ว่าได้ เพราะนี่คือชุดที่พวกเขาพิชิต อินเตอร์ มิลาน 2-1 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1967 ทำให้พวกเขาเป็นสโมสรจากสหราชอาณาจักรรายแรก ที่ได้สัมผัสกับถ้วย "บิ๊กเอียร์"

 - บราซิล 1970



  ชุดแข่งของทีมชาติบราซิลแต่ละยุค อาจดูไม่แตกต่างกันมาก แต่ชุดนี้ถือเป็นชุดสุดคลาสสิกของจริง เพราะเป็นชุดแข่งที่พวกเขาคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1970 ซึ่งนำทัพโดย เปเล่ 

- เชลซี 1970 



เป็นชุดที่ เชลซี ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ สำหรับเกมรอบชิงฯ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1970 ที่เจอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด (เชลซี ชนะ 2-1) โดยเป็นการปรับเปลี่ยนสีถุงเท้า, เบอร์เสื้อ และตราสโมสร จากสีขาวเป็นสีเหลือง ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีนี้พวกเขาก็รำลึกการครบรอบ 50 ปี ด้วยการทำชุดแข่งแนวนี้ออกมาอีกครั้ง และใช้แบบนัดเดียวจบในเกม เอฟเอ คัพ รอบสาม ที่เจอกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 
 
 - อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1971



เรียบง่ายแต่โคตรสวย นี่คือชุดแข่งสุดคลาสสิกของ อาแจ็กซ์ ยุคที่นำทัพโดย โยฮัน ครัฟฟ์ คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ มาครองเป็นสมัยแรกในปี 1971 ด้วยการพิชิต พานาธิไนกอส 2-0 ในเกมรอบชิงฯ ที่สนาม เวมบลีย์ 

 - เม็กซิโก 1978



  อย่างเท่ห์... ทีมชาติเม็กซิโก สู้ศึก เวิลด์ คัพ 1978 อย่างมีสไตล์ เพราะชุดแข่งของพวกเขาตอนนั้น ใช้แบรนด์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการยีนส์สัญชาติอเมริกันอย่าง ลีวายส์ (Levi's) 
 
 - โบคา จูเนียร์ส 1981



 ชุดแข่งของ โบคา จูเนียร์ส เมื่อปี 1981 ที่ ดีเอโก้ มาราโดน่า สวมอยู่นี้ มีความพิเศษไม่น้อย เพราะนี่คือครั้งแรกที่มี "ดาว 4 ดวง" ประดับอยู่บนเสื้อสีน้ำเงิน-ทองอันเป็นเอกลักษณ์ของสโมสร 

 - เบลเยียม 1984



  ศึก ยูโร 1984 อาจไม่เป็นที่น่าจดจำสำหรับ ทีมชาติเบลเยียม (ตกรอบแบ่งกลุ่ม) แต่ชุดแข่งของพวกเขาตอนนั้นถือว่าสวยและแปลกตามากๆ จึงเป็นเหตุให้พวกเขาหวนกลับมาใช้ลายเพชรแบบนี้อีกครั้งในศึก เวิลด์ คัพ 2018 
  
 - ลิเวอร์พูล 1984



  ลิเวอร์พูล ใช้ชุดแข่งแนวนี้ในช่วงระหว่างปี 1983-1985 แต่เวอร์ชั่นไร้สปอนเซอร์บนหน้าอกเสื้อ ตอนที่ลงเตะเกม ยูโรเปี้ยน คัพ รอบชิงฯ กับ อาแอส โรม่า เมื่อปี 1984 (ลิเวอร์พูล ชนะดวลจุดโทษ 4-2 หลังเสมอกันในเกม 1-1) ถือเป็นชุดแข่งในตำนานของสโมสรเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่า ยูนิฟอร์มของ "หงส์แดง" ฤดูกาลปัจจุบันได้แรงบันดาลใจจากชุดนี้เต็มๆ

 - เดนมาร์ก 1986



 ทีมชาติเดนมาร์ก ได้ไปโชว์ฝีเท้าในศึก เวิลด์ คัพ เป็นหนแรกเมื่อปี 1986 อย่างมีสไตล์ ด้วยลายชุดแข่งที่ดูสวยแปลกตา ซึ่งหลังจากนั้นชุดแข่งของสโมสร เซาธ์แฮมป์ตัน และ โคเวนทรี ซิตี้ ก็ออกมาในแนวนี้ 

 - ฮอลแลนด์ 1988



นี่คือหนึ่งในชุดแข่งที่ได้รับการยกย่องว่า "เป็นที่ต้องการมากที่สุด" ของเหล่านักสะสม เพราะมันคือชุดแข่งของทีมชาติฮอลแลนด์ ยุคสามทหารเสือ (มาร์โก ฟาน บาสเท่น, รุด กุลลิท และ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด) ที่ผงาดคว้าแชมป์ ยูโร 1988 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังพิชิต สหภาพโซเวียต 2-0 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ  

 - โคลอมเบีย 1990 



  ทีมชาติโคลอมเบีย มักจะมีชุดแข่งเจ๋งๆ ออกมาให้เห็นเสมอ และชุดแข่งของพวกเขาในศึก เวิลด์ คัพ 1990 ที่ประเทศอิตาลี (หลังหายจากทัวร์นาเมนต์ไปนานร่วม 28 ปี) ถือเป็นชุดแข่งที่ตราตรึงใจมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ทำให้พวกเขานำลายนี้กลับมาใช้อีกครั้งใน เวิลด์ คัพ 2018 ที่ประเทศรัสเซีย 

 - อังกฤษ 1990 



เป็นชุดแข่งของทีมชาติอังกฤษที่มีความทรงจำมากมายจากศึก เวิลด์ คัพ 1990 เพราะนอกจากทัพ "สิงโตคำราม" ของกุนซือ บ็อบบี้ ร็อบสัน ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว ยังมีชอตที่ พอล แกสคอยน์ หลั่งน้ำตา หลังถูกไล่ออกจากสนามระหว่างเกมรอบตัดเชือก ที่เจอกับ เยอรมนีตะวันตก ด้วย 

 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1990



  "ปีศาจแดง" มีชุดแข่งสวยๆ ออกมาเป็นประจำทุกยุคทุกสมัย แต่ชุดเยือนเมื่อปี 1990 ถือว่าแปลกตามากๆ ด้วยลายกราฟฟิกแบบ "Aztec-style" ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" จนถึงทุกวันนี้ 

 - เยอรมนีตะวันตก 1990



 ถือเป็นอีกหนึ่งชุดแข่งที่ป็อปปูลาร์มากๆ สำหรับยูนิฟอร์มของทัพ "อินทรีเหล็ก" ชุดคว้าแชมป์ เวิลด์ คัพ 1990 เพราะนอกจากมีลวดลายสีธงชาติสุดคลาสสิกแล้ว ยังเป็นชุดแข่งที่สะท้อนถึงความสำเร็จของทีมชาติเยอรมนีได้เป็นอย่างดี 

 - อาร์เซน่อล 1991



 แม้จะเรียกกันว่าเป็นลาย "กล้วยช้ำ" แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งชุดแข่งที่เป็นตำนานของ อาร์เซน่อล ซึ่งมีให้เห็นช่วงยุค 90 และก็แน่นอนว่า มันคือแรงบันดาลใจในการออกแบบชุดเยือนของสโมสรในฤดูกาลปัจจุบัน  

 - บาร์เซโลน่า 1997  



ได้รับคำชื่นชมว่า เป็นชุดแข่งเกมเยือนที่ยอดเยี่ยมที่สุดชุดหนึ่งของ บาร์เซโลน่า โดยภาพทรงจำที่ชัดเจนสุดของยูนิฟอร์มนี้คือ ตอนที่พวกเขาได้แชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อฤดูกาล 1996/97 หลังพิชิต ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-0 ในเกมรอบชิงฯ ที่ ร็อตเตอร์ดัม ซึ่งพวกเขาได้ประตูชัยจากการสังหารลูกจุดโทษของ "โล้นทองคำ" โรนัลโด้ นาทีที่ 37

 - แคเมอรูน 2002 



 เรียกได้ว่าฉีกกฎการเป็นเสื้อฟุตบอลอย่างแท้จริง สำหรับชุดแข่งของทีมชาติแคเมอรูน ตอนสู้ศึก เวิลด์ คัพ 2002 ที่ออกแบบเสื้อในแนวเสื้อไร้แขน ซึ่งแน่นอนว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นมากมาย แถมโดน ฟีฟ่า แบนด้วย เพราะมองว่า มันคือ "เสื้อกล้าม ไม่ใช่เสื้อฟุตบอล" เลยทำให้พวกเขาแก้ลำด้วยการใส่เสื้อดำเข้าไปข้างในตอนลงแข่งขัน เพื่อให้เสื้อดูมีแขน

 - ไนจีเรีย 2018



  เป็นชุดแข่งที่สร้างความฮือฮามากๆ ในช่วงก่อนถึงศึก เวิลด์ คัพ 2018 เพราะหลังจากที่ ไนกี้ เปิดตัวได้ไม่นาน ก็ขายดีแบบเทน้ำเทท่าทันที มียอดพรี-ออเดอร์ร่วม 3 ล้านตัว ส่วนที่ร้าน ไนกี้ ในกรุงลอนดอน ก็ขายหมดเกลี้ยงแทบจะทันทีหลังการเปิดตัว
 
 - อังกฤษ (หญิง) 2019



ถือว่าตื่นเต้นกันมากๆ ในช่วงที่จะมีการเปิดตัวก่อนถึงศึกฟุตบอลโลกหญิง 2019 เพราะนี่คือครั้งแรกที่ทีมชาติอังกฤษหญิง มีชุดแข่งเป็นแบบของตัวเอง หลังจากที่แชร์ร่วมกับแบบของทีมชายมาตลอด โดยรายละเอียดของเสื้อสีแดงเข้มมีลายดอกกุหลาบแฝงอยู่ ซึ่งถือว่าสวยมากๆ

*ลิงค์ร่วมโหวตชุดแข่งขันสุดโปรด : www.bbc.com

credit : www.siamsport.co.th