ช่วงโควิดคือว่างมากเลยเอากองผ้าเก่าๆ ตุ๊กตาฝุ่นตัวใหญ่ที่ฝุ่นเขรอะๆ และผ้านวมผืนเบอเริ่มมาซักจ้า พอมีโอกาสออกมาซื้อของตุนเข้าบ้านเลยได้ซื้อน้ำยาซักผ้าหลายๆ อันมาลอง ทีแรกก็ว่าจะเปิดเพจทำรีวิว แต่พอมาคิดอีกทีเดี๋ยวโควิดหายเราก็กลับมาทำงานปกติวุ่นวายไม่มีเวลาทำต่อเนื่องเลยคิดว่าเป็นรีวิวเล่นๆ ในพันทิปนี้ละกัน 😊

เพื่อความยุติธรรมทุกน้ำยาซักผ้าเราลองซักด้วยเครื่องรุ่นเดียวกันและใช้ประมาณน้ำยาซักผ้าตามคำแนะนำหลังซองจ้า ว่าแล้วก็มาดูเกณฑ์การให้คะแนนเพราะนี่เป็นรีวิว เราก็หวังว่าเพื่อนๆ เข้ามาอ่านกระทู้เราแล้วจะได้อะไรกลับไปบ้าง (ถึงแม้จะได้จริงรึป่าวไม่รู้นะ 555)

บอกก่อนเลยว่าตอนที่คิดเกณฑ์นี้มา เราคิดเยอะมากๆ ว่าจะทดลองยังไงเพื่อให้ได้คะแนนแบบแฟร์ๆ เราเลยขออธิบายส่วนนี้นิดนึงน้า 
 
ความสะอาดขจัดคราบ >> พวกผ้าห่มผ้าปูที่นอนปลอกหมอนกับเสื้อผ้าเก่าๆ บางทีชอบมีคราบเหลืองๆ ถ้าน้ำยาซักผ้าอันไหนขจัดได้ดีสุด ก็ให้คะแนนเยอะสุด
ลดกลิ่นอับผ้า >> ข้อนี้แหละที่ให้คะแนนยาก เราเลยใช้เกณฑ์จากการใส่บราออกกำลังกายแล้ววิ่งในสวนหมู่บ้านถ้าเหงื่อออกเยอะแล้วผ้ามีกลิ่นอับมากก็ได้คะแนนน้อย ถ้ามีกลิ่นอับน้อยก็ได้คะแนนมาก สลับซักกับน้ำยาซักผ้าแต่ล่ะแบรนด์ ข้อนี้เป็นการซักมือนะ
กลิ่นหอม >> ข้อนี้กลิ่นหอมแอบดูจับต้องไม่ได้ เพราะหอมของแต่ล่ะคนชอบไม่เหมือนกัน เราเลยตัดสินจากหลังซักแล้วกลิ่นน้ำยาซักผ้าอันไหนติดผ้ามากน้อยขนาดไหน และติดนานเท่าไหร่มาเป็นเกณฑ์นะ
 
พร้อมแล้วเอากองผ้ามหาศาลกับกองตุ๊กตาตัวเล็กตัวใหญ่ไปซักเลย นี่ที่เห็นยังมีผ้าที่เบาะหลังอีกนะ แต่ที่พับเบาะรถเสียอยากจิให้ทุกคนเห็นมากกกก 55

ขับมาถึงร้านซักผ้าอัตโนมัติแล้วตอนขับมาถนนก็โล่ง ที่ร้านซักผ้าก็ไม่มีคนมีแค่เรากับน้องชายที่มาช่วยแบกของ เราเลยได้โอกาสถ่ายรูปถ่ายจากที่ร้านเยอะเลย ร้านนี้ดีมากเครื่องซักผ้าเค้ามีหลายขนาดแถมมีหลายเครื่อง แล้วผ้าเราเยอะเลยได้จัดไป 4 เครื่อง 4 น้ำยาซักผ้ามาทดลองไปพร้อมๆ กันเลย  

Downy สำหรับตากผ้าในที่ร่ม
(ขนาด 630 ml. ราคา 79 บาท)
มาถึงตัวแรกยี่ห้อนี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในเรื่องของน้ำยาปรับผ้านุ่ม มาดูความสะอาดเราว่าพอประมาณคราบเหลืองบนเสื้อที่สีสว่างยังคงเหลืออยู่บ้างแต่เข้าใจได้เพราะคราบคงฝังลึกถึงเส้นใยผ้าจริงๆ ก็นะมันเก็บไว้นานมากแล้ว ส่วนการลดกลิ่นอับผ้าถือว่าทำได้ดีตามที่เค้าเคลมเลย ส่วนกลิ่นเรารู้สึกมีความคล้ายๆ ดอกมะลิให้ความหอมอ่อนๆ แต่กลิ่นไม่ค่อยติดผ้านะ


Fineline Plus Sunny Gold 
(ขนาด 400 ml. ราคา 60 บาท)
มาต่อกันที่อีกแบรนด์เรื่องความสะอาดเราว่าเหมือนกันกับตัวแรก การลดกลิ่นอับผ้าทำได้ดีมากคือกลิ่นอับหาย แต่สิ่งที่เซอไพรส์เราสุดๆ คือกลิ่นที่หอมหลังเราซักแล้วไปออกกำลังกายกลิ่นยังหอมติดทนผ้า แล้วไม่ค่อยมีกลิ่นเหงื่อเลย ความหอมกลิ่นสะอาดๆ เหมือนดอกไม้รู้สึกสดชื่น ส่วนตัวเราชอบกลิ่นนี้นะ


Essence Laundry Detergent กลิ่น Blossom
(ขนาด 650 ml. ราคา 89 บาท)
ตัวนี้เราว่าความสะอาดขจัดคราบเราว่าสู้ 2 ตัวข้างบนไม่ได้ อันนี้ไม่รู้คิดไปเองรึป่าวนะ แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะคราบเหลืองดูออกน้อยกว่าตัวอื่นแบบชัดเจนเลย การลดกลิ่นอับผ้าของตัวนี้ทำได้ดี กลิ่นหอมมีความหอมดอกไม้กลิ่นนุ่มนวลติดทนใช้ได้เลย


 
Attack 3D Clean Action Concentrated Liquid  
(ขนาด 770 ml. ราคา 79 บาท)
ตัวนี้ความสะอาดขจัดคราบชนะเลิศ ขนาดคราบปจด.ติดผ้าปูที่นอนยังหาย ในส่วนของกลิ่นอับผ้าก็หายนะ แต่เสียดายเรื่องกลิ่นหอมของผ้าคือกลิ่นตัวนี้เป็นกลิ่นน้ำยาๆ เคมีบอกไม่ถูกส่วนตัวไม่ถูกใจเรื่องกลิ่น แต่เราประทับใจเรื่องขจัดคราบ

และแล้วก็ถึงเวลาสรุปผลคะแนน ในด้านความสะอาดขจัดคราบ Attack 3D ผลคะแนนชนะขาดลอย แต่เอาจริงเราว่าถ้าได้ขยี้ผ้าซักหน่อยไม่แน่ผลตรงนี้อาจจะเท่ากันก็ได้นะ ในด้านลดกลิ่นอับผ้า เราว่า Fineline กับ Attack ดีกว่า Downy กับ Essence แต่ในด้านกลิ่นหอมเราว่า Fineline กับ Essence ทำได้ดีมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ล่ะคนด้วยน้า ส่วนตัวเราแอบชอบกลิ่นไฟน์ไลน์มากกว่า รู้สึกสะอาด หอม สดชื่นดี

จบไปแล้วกับรีวิวแรก รีวิวต่อไปจะทำไรต่อยังไม่รู้ แต่เราก็แอบหวังว่ารีวิวนี้ของเราจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลัง WFH ที่ดูซีรย์จบแล้วอาจจะกำลังหาซีรี่ย์เรื่องใหม่ ลองเบรคตัวเองซักแปปแล้วเอาผ้าเก่าๆ ตุ๊กตาเก่าๆ ที่บางทีตั้งแต่ซื้อมาไม่รู้ตั้งกี่ปียังไม่เคยซักเลย มาทำความสะอาดมันบ้าง ทั้งนี้รีวิวนี้เป็นความเห็นจากเราเพียงคนเดียว ถ้าผิดพลาดไปกระทบยี่ห้อใด ขออภัย ณ ที่นี่ด้วยน้า ถือว่าเป็นความเห็นผู้บริโภคคนนึงละกันน้า 😊