สารคดีกีฬาที่ต่อให้เราไม่เคยดู ไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับกีฬานั้นๆ เลย แต่ยังทำให้เรานั่งดูเรื่อยๆ แล้วยังสนุกได้ นั่นคือสารคดีกีฬาที่ดี เรื่องนี้คือหนึ่งในนั้น
สารภาพว่าไม่เคยดูการแข่งขันรถ Formula 1 หรือ F1 มาก่อน แต่ขอยืนยันว่าสารคดีเกี่ยวกับ F1 เรื่องนี้ดูได้ทุกคน ขนาดแม่ของจขกท.ดูด้วยกันยังสนุกและลุ้นตื่นเต้นไปทุกตอนเลย เพราะเนื้อหาสาระของเรื่องนี้ ไม่ได้เน้นการแข่งรถอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างเดียว แต่มันจะมีทั้งเรื่องราวการต่อสู้ของนักขับแต่ละคน ที่ในแต่ละปี จะมีพื้นที่การมีสถานะนักขับ F1 ได้เพียงแค่ 20 คนในโลกเท่านั้น ใครทำผลงานไม่ดีมีเสียวสันหลังตกงานเมื่อไหร่ก็ได้ รวมถึงผู้จัดการ และแนวทางการทำงานของแต่ละทีม ที่เป็นแก่นของ F1 เช่นกัน การเล่าจะเล่าสลับไปเรื่อยๆ เรื่องคนนั้นที คนนี้ที ให้เราคอยลุ้น จนท้ายที่สุด เดี๋ยวเราจะจำได้เองว่าคนนี้ชื่ออะไร ขับให้ทีมไหนอยู่ และขอบอกว่าการเก็บภาพ และการตัดต่อออกมา คุณภาพดีและเรียลมากๆ ถึงมากที่สุด ควรค่าแก่การดูได้ยาวๆ 2 ซีซั่นๆ ละ 10 ตอน
เซอร์ไพรส์เข้าไปอีก! อย่างที่บอก เป็นคนไม่ได้ติดตามข่าวสารของ F1 มาก่อน แต่พอมาดูเรื่องนี้จนถึงซีซั่น 2 ตอน 6 บอกเลยมันภูมิใจ #คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ประโยคนี้จะยืนยันได้เป็นอย่างดี ไม่เล่ามากดีกว่าว่าเค้าคือใคร เดี๋ยวเข้าข่ายสปอยล์ (แต่แฟน F1 ก็รู้อยู่แล้วแหละ) ให้ไปดูเองดีกว่านะ
สรุปความดีงามที่ชวนดู FORMULA 1 Drive to Survive
· ดูได้สนุกมาก โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับการแข่ง F1 มาก่อนเลย
· หลากหลายเรื่องราวนอกเหนือจากการแข่งรถ ทั้งคาแรคเตอร์นักขับแต่ละคน, ดราม่าในวงการธุรกิจ, เรื่องเศร้า ฯลฯ แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งความมันส์ของการแข่งรถสูตร 1 แต่อย่างใด
· ภาพสวยมาก เก็บ footage ดี ตัดต่อดี บทสัมฯ ดี ทุกคนในวงการ F1 ดูโปรฯ และเป็นธรรมชาติมาก
· ซีซั่น 2 ตอน 6 (Raging Bulls) เหมือนทำมาให้คนไทยได้ภูมิใจเลยอะ ดีงาม
· ดูจบแล้วน้าอยากหาโอกาสไปดูแข่ง F1 ในสนามจริงสักครั้งในชีวิต ไม่รู้ใครเป็นบ้าง ^^
เอาจริงๆ คิดว่าใน Netflix มี Documentaries หรือสารคดีดีๆ เพียบ และสำหรับคนที่ทำงาน และชอบเกี่ยวกับกีฬาอยู่แล้วอย่างจขกท. เลยมีแนวนี้ผ่านตาเข้ามาบ้าง ใน Netflix ที่ชอบ ก็จะมี LOSERS (2019) ที่รวบรวมเรื่องความพ่ายแพ้และเฟลแบบชวนเหวอของนักกีฬาชนิดต่างๆ ที่เรารู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง เช่นตอนนึงที่ชอบเพราะเป็นกีฬาที่ตัวเองเล่นอยู่แล้ว คือวิ่งเทรล แล้วนักวิ่งคนนั้นไปลงแข่งวิ่งเทรลรายการสุดโหดของโลกกลางทะเลทราย แล้วเกิดหลงทางอยู่นาน 9 วัน แต่โชคดีที่เจออาคารร้างและสามารถจับค้างคาวในนั้นมากินประทังชีวิตได้ โค๊ะ! (ตอนนั้นยังไม่รู้จักไวรัสโคโรนากันสินะ)
ส่วนอีกเรื่องที่ชอบคือ THE GAME CHANGERS (2018) ที่ว่าด้วยการพิสูจน์ว่าการกินผักกินมังฯ ล้วน โดยไม่กินเนื้อสัตว์เลย ให้ผลลัพธ์ด้านโภชนาการที่ดีกว่าต่อร่างกายนักกีฬายังไง ด้วยความที่เล่าสนุก และเล่าผ่านนักกีฬาระดับโปรฯ ทั่วโลกที่ยึดแนวทางชีวิตแบบนี้จริงๆ บอกเลยว่าดูจบแล้วแทบอยากกินแต่ผักเลยอะ
ส่วนหนังที่เกี่ยวกับ F1 ที่ชอบที่สุดคือเรื่อง RUSH อัดเต็มสปีด นำแสดงโดยเทพเจ้าธอร์ และบารอนซีโม่ 555 ... สายสปอร์ต ลองดูเป็นทางเลือกนะครับ
[CR] รีวิว Formula 1 Drive to Survive จาก Netflix
สารคดีกีฬาที่ต่อให้เราไม่เคยดู ไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับกีฬานั้นๆ เลย แต่ยังทำให้เรานั่งดูเรื่อยๆ แล้วยังสนุกได้ นั่นคือสารคดีกีฬาที่ดี เรื่องนี้คือหนึ่งในนั้น
สารภาพว่าไม่เคยดูการแข่งขันรถ Formula 1 หรือ F1 มาก่อน แต่ขอยืนยันว่าสารคดีเกี่ยวกับ F1 เรื่องนี้ดูได้ทุกคน ขนาดแม่ของจขกท.ดูด้วยกันยังสนุกและลุ้นตื่นเต้นไปทุกตอนเลย เพราะเนื้อหาสาระของเรื่องนี้ ไม่ได้เน้นการแข่งรถอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างเดียว แต่มันจะมีทั้งเรื่องราวการต่อสู้ของนักขับแต่ละคน ที่ในแต่ละปี จะมีพื้นที่การมีสถานะนักขับ F1 ได้เพียงแค่ 20 คนในโลกเท่านั้น ใครทำผลงานไม่ดีมีเสียวสันหลังตกงานเมื่อไหร่ก็ได้ รวมถึงผู้จัดการ และแนวทางการทำงานของแต่ละทีม ที่เป็นแก่นของ F1 เช่นกัน การเล่าจะเล่าสลับไปเรื่อยๆ เรื่องคนนั้นที คนนี้ที ให้เราคอยลุ้น จนท้ายที่สุด เดี๋ยวเราจะจำได้เองว่าคนนี้ชื่ออะไร ขับให้ทีมไหนอยู่ และขอบอกว่าการเก็บภาพ และการตัดต่อออกมา คุณภาพดีและเรียลมากๆ ถึงมากที่สุด ควรค่าแก่การดูได้ยาวๆ 2 ซีซั่นๆ ละ 10 ตอน
เซอร์ไพรส์เข้าไปอีก! อย่างที่บอก เป็นคนไม่ได้ติดตามข่าวสารของ F1 มาก่อน แต่พอมาดูเรื่องนี้จนถึงซีซั่น 2 ตอน 6 บอกเลยมันภูมิใจ #คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ประโยคนี้จะยืนยันได้เป็นอย่างดี ไม่เล่ามากดีกว่าว่าเค้าคือใคร เดี๋ยวเข้าข่ายสปอยล์ (แต่แฟน F1 ก็รู้อยู่แล้วแหละ) ให้ไปดูเองดีกว่านะ
สรุปความดีงามที่ชวนดู FORMULA 1 Drive to Survive
· ดูได้สนุกมาก โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับการแข่ง F1 มาก่อนเลย
· หลากหลายเรื่องราวนอกเหนือจากการแข่งรถ ทั้งคาแรคเตอร์นักขับแต่ละคน, ดราม่าในวงการธุรกิจ, เรื่องเศร้า ฯลฯ แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งความมันส์ของการแข่งรถสูตร 1 แต่อย่างใด
· ภาพสวยมาก เก็บ footage ดี ตัดต่อดี บทสัมฯ ดี ทุกคนในวงการ F1 ดูโปรฯ และเป็นธรรมชาติมาก
· ซีซั่น 2 ตอน 6 (Raging Bulls) เหมือนทำมาให้คนไทยได้ภูมิใจเลยอะ ดีงาม
· ดูจบแล้วน้าอยากหาโอกาสไปดูแข่ง F1 ในสนามจริงสักครั้งในชีวิต ไม่รู้ใครเป็นบ้าง ^^
เอาจริงๆ คิดว่าใน Netflix มี Documentaries หรือสารคดีดีๆ เพียบ และสำหรับคนที่ทำงาน และชอบเกี่ยวกับกีฬาอยู่แล้วอย่างจขกท. เลยมีแนวนี้ผ่านตาเข้ามาบ้าง ใน Netflix ที่ชอบ ก็จะมี LOSERS (2019) ที่รวบรวมเรื่องความพ่ายแพ้และเฟลแบบชวนเหวอของนักกีฬาชนิดต่างๆ ที่เรารู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง เช่นตอนนึงที่ชอบเพราะเป็นกีฬาที่ตัวเองเล่นอยู่แล้ว คือวิ่งเทรล แล้วนักวิ่งคนนั้นไปลงแข่งวิ่งเทรลรายการสุดโหดของโลกกลางทะเลทราย แล้วเกิดหลงทางอยู่นาน 9 วัน แต่โชคดีที่เจออาคารร้างและสามารถจับค้างคาวในนั้นมากินประทังชีวิตได้ โค๊ะ! (ตอนนั้นยังไม่รู้จักไวรัสโคโรนากันสินะ)
ส่วนอีกเรื่องที่ชอบคือ THE GAME CHANGERS (2018) ที่ว่าด้วยการพิสูจน์ว่าการกินผักกินมังฯ ล้วน โดยไม่กินเนื้อสัตว์เลย ให้ผลลัพธ์ด้านโภชนาการที่ดีกว่าต่อร่างกายนักกีฬายังไง ด้วยความที่เล่าสนุก และเล่าผ่านนักกีฬาระดับโปรฯ ทั่วโลกที่ยึดแนวทางชีวิตแบบนี้จริงๆ บอกเลยว่าดูจบแล้วแทบอยากกินแต่ผักเลยอะ
ส่วนหนังที่เกี่ยวกับ F1 ที่ชอบที่สุดคือเรื่อง RUSH อัดเต็มสปีด นำแสดงโดยเทพเจ้าธอร์ และบารอนซีโม่ 555 ... สายสปอร์ต ลองดูเป็นทางเลือกนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้