แม่พักอาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงที่จังหวัดลพบุรี
แม่ป่วยมาสักระยะนึงแล้วตั้งแต่ปีใหม่
ไปหาหมอตามระยะ ด้วยความที่เรากับแม่อยู่คนล่ะที่ โทร.ไปถามบ้างเป็นครั่งคราวแต่แม่ก็ผอมลงเรื่อยๆ ด้วยสาเหตุกินข้าวไม่ได้ ไอเรื้อรัง ซึ่งตอนนั้นเราไม่ทราบสาเหตุว่าไอเรื้อรังคือกำลังจะเป็น โรคถุงลมโป่งพอง แต่!แม่ก็ยังไม่ยอมเลิกบุหรี่แต่แกสูบน้อยลง เราก็เลยบอกกับแม่ไห้เลิกสูบจะดีกว่า แม่แกบอกเลิกไม่ได้ ลมแดง พอประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ เราไปเยี่ยมแม่ เห็นแกผอมมากแต่ไม่ติดกระดูกยังลุกเดินได้ แกบอกว่าไปหาหมอมา หมอบอกว่าเป็นโรคถุงลมโป่งพอง แต่!ตอนนั้นแม่ลุกนั่ง เดิน ได้ปกติมีแต่กินค่อยไม่ได้ ก้เลยไห้แม่กินนม กินข้าวสัก3-5คำ หลังจากนั้นเราก็กลับมาทำงานต่อ พอหลายวันต่อมาแม่อาการทรุดหนัก กินไม่ได้ หายไจไม่คล่องแม่เลยโทร.บอกพี่ไฟ้มารับแล้วพาไปหมอหน่อย พี่ชายก็เลยนัดเราแล้วไปพร้อมกันเมื่อวันที่17มีนาคม พอไปถึงเข่าเราแทบทรุด แม่อาการทรุดลงมาก แกผอมจนผิดสังเกตุ แบบผอมเห็นกระดูก เรากับพี่ชายเลยพาแกไปร.พ.พระนารายมหาราช หมอตรวจเลือด เสร็จเรียกเราไปภามว่าทางบ้านมีใครเป็นวัณโรคหรือเปล่า เราบอกไม่มี แล้วก็พาแม่เราไปตึกอายุรกรรมชาย ไปนอนค้าง หมอเรียกไปคุยว่า"แม่เป็นถุงลมโป่งพองระยะที่2-3 " ถ้าปอดพองมากๆอาจะทำไห้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว เรากับพี่ชายไม่รู้โรคนี้สักเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเกิดจากบุหรี่ แต่!คืนนั้นเราเฝ้าแม่ทั้งคืน ไห้กินยาใส่เครื่องหายใจไห้ รวมถึงดูแลในเรื่องการปัสวะ อุจจาระ วินาทีนั้นถ้าทำมากกว่านั้นได้ก็จะทำ พอเช้ามากินข้าวได้แล้วเราก็ป้อนแม่ แต่แม่กินได้แค่3คำ เราพยายามไห้แม่กินอีก แกก็กินได้อีก3คำ แล้วนอน แกบอกเหนื่อย หลังจากนั้นเราก็หาซื้อขนม น้ำส้มไห้แม่กิน แม่กินได้ แล้วเราก็ส่งหน้าที่นี้ไห้พ่อเลี้ยงดูต่อเพราะเราต้องกลับไปทำงาน ผ่านไป7วันกับที่แม่นอนโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือแย่ลง หมอบอกไห้แม่กลับบ้านได้ พ่อเลี้ยงก็ไม่ได้เอะใจอะไร? แม่กลับมาบ้านวันที่24 มีนาคม 63 แม่นั่งพักและได้ไห้เพื่อนบ้านไปซื้อก๊วยเตี๋ยวไห้กินแกกินได้ครึ่งชาม สักพักก็ไปนอน เมื่อเวลา15.00 แม่ก็ช็อค หายใจไม่ออกและได้จากไปอย่างกะทันหัน เพื่อนบ้านแม่ได้โทร.มาบอกพี่ชายเรา พี่ชายเราร้องไห้หนักมากแล้วได้โทร.มาบอกเรา วินาทีนั้นเราทำไรไม่ถูก ช็อค!!!หนักมาก แล้วได้ร้องโห่ขึ่นมาทันที อยากถามว่า? แม่ไม่ดีหรืออาการแย่อ่ะ หมอไห้กลับมาพักฟื้นที่บ้านทำไม? เรางงมาก และเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ผ่านมา2อาทิตย์ก็ยังข้างคาใจกับเรื่องแม่ แต่เราคิดนะที่แม่ไปอาจจะหมดกรรม หมดห่วงแล้วจริงๆ เราเลยทำหน้าที่ทำทุกอย่างในงานศพไห้ออกมาดี ทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำแขก จุดธูป โปรยทาน หรือแม้กระทั่งเรียกแม่กลับบ้าน ทำทุกอย่างจริงๆ ซึ่งต่างจากพี่ชายที่ไม่กล้าทำสักเท่าไร?
(ไม่เคยสูญเสียก็เลยเพ้อหนักมากค่ะ) 😢
แม่เสียกะทันหันด้วยโรคถุงลมโป่งพอง
แม่ป่วยมาสักระยะนึงแล้วตั้งแต่ปีใหม่
ไปหาหมอตามระยะ ด้วยความที่เรากับแม่อยู่คนล่ะที่ โทร.ไปถามบ้างเป็นครั่งคราวแต่แม่ก็ผอมลงเรื่อยๆ ด้วยสาเหตุกินข้าวไม่ได้ ไอเรื้อรัง ซึ่งตอนนั้นเราไม่ทราบสาเหตุว่าไอเรื้อรังคือกำลังจะเป็น โรคถุงลมโป่งพอง แต่!แม่ก็ยังไม่ยอมเลิกบุหรี่แต่แกสูบน้อยลง เราก็เลยบอกกับแม่ไห้เลิกสูบจะดีกว่า แม่แกบอกเลิกไม่ได้ ลมแดง พอประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ เราไปเยี่ยมแม่ เห็นแกผอมมากแต่ไม่ติดกระดูกยังลุกเดินได้ แกบอกว่าไปหาหมอมา หมอบอกว่าเป็นโรคถุงลมโป่งพอง แต่!ตอนนั้นแม่ลุกนั่ง เดิน ได้ปกติมีแต่กินค่อยไม่ได้ ก้เลยไห้แม่กินนม กินข้าวสัก3-5คำ หลังจากนั้นเราก็กลับมาทำงานต่อ พอหลายวันต่อมาแม่อาการทรุดหนัก กินไม่ได้ หายไจไม่คล่องแม่เลยโทร.บอกพี่ไฟ้มารับแล้วพาไปหมอหน่อย พี่ชายก็เลยนัดเราแล้วไปพร้อมกันเมื่อวันที่17มีนาคม พอไปถึงเข่าเราแทบทรุด แม่อาการทรุดลงมาก แกผอมจนผิดสังเกตุ แบบผอมเห็นกระดูก เรากับพี่ชายเลยพาแกไปร.พ.พระนารายมหาราช หมอตรวจเลือด เสร็จเรียกเราไปภามว่าทางบ้านมีใครเป็นวัณโรคหรือเปล่า เราบอกไม่มี แล้วก็พาแม่เราไปตึกอายุรกรรมชาย ไปนอนค้าง หมอเรียกไปคุยว่า"แม่เป็นถุงลมโป่งพองระยะที่2-3 " ถ้าปอดพองมากๆอาจะทำไห้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว เรากับพี่ชายไม่รู้โรคนี้สักเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเกิดจากบุหรี่ แต่!คืนนั้นเราเฝ้าแม่ทั้งคืน ไห้กินยาใส่เครื่องหายใจไห้ รวมถึงดูแลในเรื่องการปัสวะ อุจจาระ วินาทีนั้นถ้าทำมากกว่านั้นได้ก็จะทำ พอเช้ามากินข้าวได้แล้วเราก็ป้อนแม่ แต่แม่กินได้แค่3คำ เราพยายามไห้แม่กินอีก แกก็กินได้อีก3คำ แล้วนอน แกบอกเหนื่อย หลังจากนั้นเราก็หาซื้อขนม น้ำส้มไห้แม่กิน แม่กินได้ แล้วเราก็ส่งหน้าที่นี้ไห้พ่อเลี้ยงดูต่อเพราะเราต้องกลับไปทำงาน ผ่านไป7วันกับที่แม่นอนโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือแย่ลง หมอบอกไห้แม่กลับบ้านได้ พ่อเลี้ยงก็ไม่ได้เอะใจอะไร? แม่กลับมาบ้านวันที่24 มีนาคม 63 แม่นั่งพักและได้ไห้เพื่อนบ้านไปซื้อก๊วยเตี๋ยวไห้กินแกกินได้ครึ่งชาม สักพักก็ไปนอน เมื่อเวลา15.00 แม่ก็ช็อค หายใจไม่ออกและได้จากไปอย่างกะทันหัน เพื่อนบ้านแม่ได้โทร.มาบอกพี่ชายเรา พี่ชายเราร้องไห้หนักมากแล้วได้โทร.มาบอกเรา วินาทีนั้นเราทำไรไม่ถูก ช็อค!!!หนักมาก แล้วได้ร้องโห่ขึ่นมาทันที อยากถามว่า? แม่ไม่ดีหรืออาการแย่อ่ะ หมอไห้กลับมาพักฟื้นที่บ้านทำไม? เรางงมาก และเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ผ่านมา2อาทิตย์ก็ยังข้างคาใจกับเรื่องแม่ แต่เราคิดนะที่แม่ไปอาจจะหมดกรรม หมดห่วงแล้วจริงๆ เราเลยทำหน้าที่ทำทุกอย่างในงานศพไห้ออกมาดี ทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำแขก จุดธูป โปรยทาน หรือแม้กระทั่งเรียกแม่กลับบ้าน ทำทุกอย่างจริงๆ ซึ่งต่างจากพี่ชายที่ไม่กล้าทำสักเท่าไร?
(ไม่เคยสูญเสียก็เลยเพ้อหนักมากค่ะ) 😢