เปิดของ All New Bentley Flying Spur แกรนด์ทัวริ่งซีดาน 4 ประตู สุดหรู ราคาแตะ 26 ล้านบาท

กระทู้ข่าว
                 

บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในเมืองไทย เปิดตัวแกรนด์ทัวริ่งซีดาน 4 ประตู สุดหรูสัญชาติอังกฤษ The All New Flying Spur (ดิออล์นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์) ณ โชว์รูมเบนท์ลีย์ CTI Tower ถนนรัชดาภิเษก สนนราคาเริ่มต้นที่ 25.99 ล้านบาท

 
ฟลายอิ้ง สเปอร์– นิยามใหม่แห่งการดีไซน์ 
 
ความโดดเด่นของการออกแบบของฟลายอิ้ง สเปอร์ นั้น ได้ถูกออกแบบมาอย่างใหม่หมดจด ด้วยรูปทรงที่ทันสมัยไร้ที่ติ โดยมีการเพิ่มความยาวของฐานล้อเพิ่ม 130 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ เจเนอเรชั่นที่ 2 ของโมเดลนี้ เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ นั้นถูกจัดให้มีความเข้มแข็งขึ้น บึกบึนในส่วนของเส้นหลัก ที่คมชัดและลากผ่านตัวรถ 
 
เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ได้ถูกยกพื้นและสร้างขึ้นใหม่ โดยมีโครงสร้างที่ทำจากอะลูมิเนียม และออกแบบประติมากรรม ของเส้น power line  ตามต้นแบบของรุ่น เดอะ คอนทิเนนเทิล จีที 
 
โดยทีมวิศวกรรมของเบนท์ลีย์ได้นำเทคโนโลยีล่าสุดในการ อัดอะลูมิเนียม และหล่อพร้อมกับเหล็กที่มีความแข็งแรงสูง จึงได้ออกมาเป็น ตัวรถที่มีความแข็งแรง หนึบแน่น เพิ่มความแข็งแรงและการทรงตัวที่ดีของรุ่นนี้ 
 
การรังสรรค์พิเศษสุดนี้ยังมีความโดดเด่นไปด้วยกันกับ ไฟหน้า LED ที่ยังคงรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างการออกแบบแบบคริสตัลคัท  พร้อมด้วยวัสดุโครเมี่ยม ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ไฟหน้ามีความเงา ประกายแม้จะไม่ได้เปิดไฟ  
 

ด้านหลังของไฟท้ายรถยังถูกออกแบบให้มีไฟท้ายที่มี ตัวอักษร กราฟิค B ล้อมไปด้วย ลวดลาย diamond knurling ที่พบในช่องแอร์ภายในรถ อีกทั้งนำเสนอยังออฟชั่นมาตรฐานของล้อขนาด 21 นิ้ว และตัวเลือกออฟชั่นพิเศษอย่าง ล้อ 22 นิ้วจาก Mulliner อีกด้วย 
 
เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ ยังนำเสนอหลังคาแก้วพาโนรามิครูฟ โดยแผงด้านหน้าสามารถสไลด์ไปคลุมเหนือ แผงด้านหลังได้อีกด้วย  ซึ่งในรุ่นนี้ยังเพิ่มในส่วนหนังแผงกัน Alcantara ที่เคลื่อนด้วยระบบอิเล็กทริคมาพร้อมกับสีวัสดุบุหลังคาที่มีให้เลือกแมช ถึง 15 สีอีกด้วย 
 
โลโก้ ฟลายอิ้งบี ที่ใช้ตกแต่งหน้าคันรถนั้น ยังถูกออกแบบใหม่หมดจดในสไตล์ทันสมัยโดยออกแบบมาเฉพาะ ในโอกาสที่เบนท์ลีย์เฉลิมฉลองครบ 100 ปี โดยเน้นไปยังความหมายของวิวัฒนาการของ   แบรนด์ในศตวรรษที่กำลังจะถึงนี้  โดยโลโก้ที่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์นี้ สัมพันธ์กับ ไฟหน้ากระพริบ เมื่อเจ้าของรถเดินเข้าไปใกล้ 
 
เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์นำเสนอ สีมาตรฐานของเบนท์ลีย์ถึง  17 สี โดยถูคัดสรรให้เหมาะเจาะกับ บุคลิกและลายเส้นที่ถูกออกแบบมาของรถ 


ห้องโดยสาร อันหรูหราด้วยฝีมือปราณีตบรรจง 
 
การออกแบบภายในของ เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ นั้นเป็นต้นแบบที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือชั้นครูของเบนท์ลีย์ โดยเป็นผู้นำของความหรูหรา และ เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอย่างไร้ซึ่งคู่เปรียบเทียบ ด้วยความโดดเด่นของสไตล์ ที่มาพร้อมกับเก้าอี้ที่ให้ความสบาย และแหวกแนวด้วยการปักที่นำเสนอสีด้ายกว่า 15 เฉดสี อีกทั้งคอนเซปต์ Bentley’s ‘Wing’ ที่สองข้างของปีกอันทรงพลังพาดผ่านคอนโซลหน้าและแผงหน้าปัดด้านหน้าของรถ 
 
นอกจากนั้นยังมีไม้วีเนียร์ ที่ประดับบริเวณแผงหน้าปัดรถยนต์ และบริเวณประตูของรถ ส่งผลให้รถดูกว้างขึ้นอีกด้วย  มาพร้อมกับ คอลโซลกลางที่มีหน้าจอขนาด 12.3-นิ้ว ในระบบสัมผัสทัชสกรีนแบบ HD  ที่ดูสมดุลย์ไปกับช่องแอร์ทั้งด้านหน้าและหลัง ที่นำเสนอความไร้ที่ติของเทคโนโลยี กับที่ชาร์ต wireless และ ปลั๊กชาร์ต USB อีกสองจุดสำหรับอุปกรณ์สื่อสารอีกด้วย 
 
อีกทั้ง ยังมีจอดิจิทัลอเนกประสงค์สุดล้ำของเบนท์ลีย์คือ Bentley Rotating Display ที่ประกอบด้วยทัชสกรีน 12.3 นิ้ว ติดตั้งบนหน้าปัด 3 ด้านแบบหมุนได้ ผู้ขับจึงสามารถสลับผลัดเปลี่ยนระหว่างลายไม้วีเนียร์, ทัชสกรีนอเนกประสงค์ หรือมาตรวัดแบบอนาล็อก 3 ช่องสุดคลาสสิค ที่แสดงผลของ อุณหภูมิ เข็มทิศ และนาฬิกา  ซึ่งความหรูหรา สง่างาม พร้อมรายละเอียดสุดประณีตซึ่งจะพบได้ใน เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์อีกด้วย 
 
การปักของหนังเบาะรถลายใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Bentley EXP 10 Speed 6 ถูกนำเสนอผ่านลาย Three-dimensional diamond นั้นยังสามารถพบได้บริเวณประตูเป็นครั้งแรก เท่านั้นยังไม่พอเบนท์ลีย์ยังนำเสนอลาย Diamond knurling ในส่วนช่องแอร์ และยังถูกประดับไว้ล้อมรอบนาฬิกาอีกด้วยรวมไปถึง ชุดของคำสั่งของชุดซอฟแวร์ใหม่ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นสำหรับความโค้งของท่อต่างๆ 
 
ลายไม้วีเนียร์ลายใหม่ Crown Cut Walnut ได้ถูกนำเสนอให้เป็นออฟชั่นหนึ่งของฟลายอิ้ง สเปอร์ โดยลายนี้มีความโดดเด่นในความทันสมัย และยังมีตัวเลือกเพิ่มกับ Dark Fiddleback และ Piano Black สำหรับท่านที่ชอบ ลายไม้ทูโทนยังสามารถสั่งได้ตามใจนึก โดยสามารถเลือกประเภทไม้ที่ประดับห้องโดยสารได้อย่างใจ 
 
ทางเลือกแดชบอร์ดออกแบบให้ยาวและดูพลิ้วไหว คล้ายโลโก้รูปปีกนกของเบนท์ลีย์ยังมีให้เลือก พร้อมสีที่สวยงดงามสง่า ที่เชื่อมต่อระหว่างด้านหน้าและด้านหลัง อีกทั้งยังมีออฟชั่นใหม่ล่าสุด Mood Lighting ที่สามารถเลือกสีไฟภายในสร้างบรรยากาศได้ถึง 7 สีด้วยกัน 
เก้าอี้ใหม่ของ เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์นั้น ยังมีระบบฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ ระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ, ระบบเก้าอี้นวด ระบบปรับเบาะเอียงด้านบน ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกของ Mulliner Driving Specification ที่ละเมียดละไมไปด้วย การปักและถักทอของปรมาจารย์ชั้นครูจากเบนท์ลีย์ 
 
โดยเบาะหลังยังให้ความรู้สึกกว้าง พร้อมที่จะปกป้องทุกที่ที่ไป โดยเบาะหลังนั้นยังมีที่พักแขนในส่วนกลาง และที่พักคอที่สามารถพับเก็บได้อีกด้วย 
 
เจนเนอร์เรชั่นที่สามของ ดิออลนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์นั้น ถูกพัฒนาให้ใช้ระบบ แอร์สปิงแบบสามห้อง ที่ประกอบไปด้วย ลมกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ระบบนี้ส่งผลให้รถ สามารถเน้นการทำงานในระบบสปอร์ตได้ดีขึ้น เกาะพื้นถนนได้ดี แถมยังคงรูปแบบของรถลีมูซีนอันหรูหรา ตามโหมดการทำงานที่ผู้ขับได้เลือก ในรุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มในระบบฟีเจอร์ CDC (Continuous Damping Control) ที่ลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์อีกด้วย 
 
นอกจากนี้ ฟลายอิ้ง สเปอร์ยังได้นำเสนอ ระบบเซ็นเซอร์รอบคัน ที่สามารถวัด ระยะระหว่างแกนกลางกับตัวรถ ในกรณีที่ระบบจับความแตกต่างในระดับความสูงปรกติ ระบบอากาศ ในสปริงจะถูกฟื้นฟูให้เหมาะกับระดับปรกติอย่างสมบูรณ์ 
 
ระบบ Bentley Dynamic Ride System ได้ถูกออกแบบและพัฒนาระบบการทรงตัว และ ความนุ่มสบายมากขึ้น ระบบนี้มาพร้อมกับการควบคุมของกระแสไฟ 48 โวลต์ โดยจัดการความหนึบแน่น ของเหล็กกันโคลงเพิ่มการเกาะตัวของรถ ตามคำสั่งของการเข้าโค้ง และปรับให้ฟลายอิ้ง สเปอร์นั้นมีความเสถียรเช่นเดิม 
 
ในรุ่นนี้ยังนำเสนอความพิเศษที่ได้นำจุดเด่นของ จากเบรคทำจากวัสดุเหล็ก ที่ใหญ่ที่สุดของรุ่น Continental GT ที่มีขนาด 420 มิลลิเมตร โดยจานเบรคคาลิปเปอร์ ยังมีชื่อของเบนท์ลีย์ อยู่บนตัวจาน ทั้งในแบบมาตรฐานสีดำเงา และ ออฟชั่นในสีแดงเงาอีกด้วย 
 

นอกจากนั้น เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ ยังให้เสียงท่อที่เร้าใจไม่แพ้ดีไซน์ของมัน ซึ่งได้ผลพวงมาจาก ท่อไอเสียแบบ adaptive  ที่ควบคุมระบบลิ้นลูกสูบ และการเคลื่อนตัวของทางเดินลมและแก๊ส ในช่วงการควบคุมด้านหลังของตัวรถที่ถูกจูนมาแล้ว ให้มีการแสดงผลของท่อไอเสีย ให้คนขับได้ทราบถึงสภาวะต่างๆของรถอีกด้วย 
 

เทคโนโลยี อัน ชาญฉลาด ของ ดิออลนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ 
 

เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ คือยนตกรรมที่บ่งบอกถึงความล้ำหน้า และวิวัฒนาการของเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากเบนท์ลีย์ แผงหน้าปัทม์ดิจิตอลเต็มรูปแบบ 


และ  Bentley Rotating Display หน้าจอแสดงผลสำหรับการสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่ ความคมชัดจากหน้าจอระบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ในระบบHD ที่มีเซนเซอร์โดยหน้าจออัจฉริยะสามารถนำเสนอทั้งหน้าจอเดียวและ หน้าจอในอัตราสวน 2:1 หรือ สามารถโชว์ ผลได้ถึง 3 ฟังก์ชั่น ในHome screen 
 

เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์นั้น  ประกอบด้วยระบบการช่วยเหลือผู้ขับที่ครบครัน ทั้ง Traffic Assist, City Assist  และ Blind Spot Warning  พร้อมกับระบบช่วยเหลือการมองยามค่ำคืนที่เพิ่ม Head Up Display ที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถโฟกัสถนนข้างหน้า Top View Camera กล้องติดรถคุณภาพสูงที่ช่วยทำให้ผู้ขับขี่บันทึกเหตุการณ์บนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นขณะขับขี่โดยรอบหรือจอดรถ และระบบถอยจอดรถอัตโนมัติอีกด้วย 
 

นอกเหนือจานั้นยังมีเทคโนโลยี  LED Matrix แต่ในส่วนของดีไซน์รูปทรงโคมไฟหน้ากลับรักษาความคลาสสิกและลำแสงไฟ พื้นผิวภายในโคมไฟโปร่งใส สวยงาม ให้ความสว่างสดใส และการตัดแสงโดยหลีกเลี่ยงแสงแยงตาจากรถฝั่งตรงข้าม 
 

ด้านหลังของผู้โดยสาร เบนท์ลีย์ได้เพิ่มหน้าจอที่มาพร้อมกับรีโมตคอนโทรล ที่ทำจากวัสดุชั้นดี ที่ใช้สะดวก วางไว้แนบกับคอนโซล โดยสามารถกดปุ่มเพื่อดึงออกมาหากต้องการใช้เป็นรีโมต นอกจากนี้รีโมตคอนโครลอัจฉะริยะยัง สามารถควบคุมระบบอื่นๆของ รถได้อีก ด้วยอาทิ  ฉากกั้น เก้าอี้นวดด้านหลัง ระบบควบคุมอุณหภูมิของผู้โดยสาร และ ควบคุมไฟ Mood Lighting ในรถอีกด้วย 
 

เดอะนิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ใหม่นั้น นำเสนอ ระบบเสียงทั้งสิ้น 3 แบบ ไม่ว่าจะมาตรฐาน ที่ให้ลำโพง 10 ตัว ระบบไฟ 650 วัตต์ หรือเครื่องเสียงชั้นนำ Bang & Olufsen 1,500 วัตต์ ที่มาพร้อมกับลำโพง16 ตัว กับแผงประดับ ที่ให้ความสวยงาม นอกจากนี้ ยังเพิ่มระบบ BeoSonic system ทางเลือกใหม่ที่ปรับระดับเสียงเพียงสัมผัส และแน่นอนกับระบบเครื่องเสียง Naim 2,2000 โวลต์  กับลำโพงถึง 19 ตัว พร้อมเครื่องแปลงความถี่ของเสียง โดยติดตั้งไว้หน้าที่นั่งทั้ง 2 ข้าง ให้ความคมชัดของเสียงและสามารถปรับเสียงได้ถึง 8 โหมดด้วยกัน 


ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ เป็นบล็อก W12 สูบ ความจุ 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ชาร์จ ระบบเกียร์ DCT 8 Speed ระบบ TSI เพิ่มพละกำลังที่ 635 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร 
มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที และ TopSpeed 333 กม./ชม.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่