ปาเลสไตน์ อิสราเอล ใครเป็นเจ้าของแผ่นดิน จริงๆ พิจารณาแง่ประวัติศาสตร์ และศาสนา
. บางคนบอกว่า คนปาเลสไตน์ ถูกบังคับให้ออกจากแผ่นดินของเขา และว่าคนปาเลสไตน์ ถูกแย่งสิทธิโดยชอบของพวกเขา
อีกคนยืนยันว่า คนอิสราเอลเป็นผู้มีสิทธิตามกม.กับชาติของเขา รวมทั้งแผ่นดิน ที่ยึดไว้ตอนทำสงคราม
สภาสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเริ่มใช้คำว่า ”เข้ายึดครอง” เมื่อหมายถึงการปรากฏของทหารอิสราเอลในเมืองปาเลสไตน์
เป็นนัยว่า คนอิสราเอลได้รุกรานดินแดนของผู้มีอำนาจปกครอง
. ดินแดนนี้เป็นของใคร จริงๆ,
. คำตอบอาจทำให้คุณแปลกใจ
. คำว่า”ปาเลสไตน์” เป็นคำที่มีความสำคัญ หมายถึง ส่วนของแผ่นดิน ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ตรงปลายสุดด้านตะวันออก ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนเดียวกันนั้น ประกอบด้วยรัฐอิสราเอลปัจจุบัน ที่เป็นชาติในปี 1948 คนอิสราเอล ได้พัฒนาทะเลทรายที่รกร้างว่างเปล่า จนเป็นประชาชาติที่อุดมสมบูรณ์ ได้ผลผลิตจากดินแดนนั้น คนอิสราเอลเป็นผู้ปกป้องแผ่นดินมาตุภูมิของพวกเขาอย่างชัดเจน
. แต่นั่น เป็นแผ่นดินมาตุภูมิของคนอิสราเอล จริงหรือ?
. หรือเป็นแผ่นดินมาตุภูมิของคนปาเลสไตน์?
. คำว่า “ชาวปาเลสไตน์” โดยทั่วไป ใช้เรียกชื่อลูกหลานของคนอาหรับจำนวนประมาณ 780000 คน(เจ็ดแสนแปดหมื่น) ที่อพยพออกไป ตอนเกิดสงครามระหว่างห้าชาติอาหรับและรัฐอิสราเอล ในปี 1948 ที่ประกาศการเกิดรัฐอิสราเอลใหม่
. เมื่อเริ่มสงคราม คนอาหรับจำนวนหนึ่งละทิ้งถิ่นฐานเนื่องจากความกลัว ในขณะที่อาหรับอื่น เชื่อว่าอพยพออกไปก่อน ไม่นาน ค่อยกลับมา แต่ คนอาหรับไม่ได้คิดว่า อิสราเอลจะชนะสงคราม อย่างน้อยก็ตรงความไม่เท่ากันของฝ่ายที่ทำสงคราม นับแต่เวลานั้น คนที่ย้ายออกไป และลูกหลานอาหรับผู้อพยพ ไปอาศัยในค่ายอพยพชั่วคราว ปราศจากแผ่นดิน ที่เรียกว่า แผ่นดินของตนเอง
. การโต้แย้งความเป็นเจ้าของ(แผ่นดิน)ปาเลสไตน์ อย่างขมขื่น ยังคงมีจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีฝ่ายใดเต็มใจที่จะยอมรับ การประกาศของอีกฝ่ายหนึ่งถึงสิทธิการควบคุมดินแดนของตนแต่เพียงฝ่ายเดียว การโต้แย้งสิทธิมีความซับซ้อน มีหลายวิถีทางในการแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่โต้แย้ง
. คนอิสราเอลมาครอบครองแผ่นดินอย่างไร
. คนอิสราเอลเชื่อว่า คนอิสราเอลมีสิทธิตามกม.ด้วยเหตุผลต่างๆ
. ไม่ใช่ คนอิสราเอลประสบความสำเร็จในการปกป้องตนเอง ต่อสู้กับ(อาหรับ)ที่มีจำนวนที่เหนือกว่า ปลายทศวรรษปี 1940 และในสงคราม(หกวัน)ในเวลาต่อมา หรือเป็นแผ่นดินของอิสราเอล เพราะคนอิสราเอลสามารถป้องกันแผ่นดินไว้ได้ คนอิสราเอลมาอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเป็นสถานที่แรก ได้อย่างไร?
. ให้เราย้อนเวลากลับไปสัก 25 ปี ก่อนนำไปสู่การก่อตั้งชาติอิสราเอล อังกฤษครอบครองแผ่นดินปาเลสไตน์ ด้วยเหตุผลทางการเมือง อังกฤษสัญญาจะยกแผ่นดินมาตุภูมิปาเลสไตน์ให้กับ คนอาหรับที่อยู่ และยกแผ่นดินให้ผู้อพยพชาวยิว ด้วยเหตุผลว่า
อาหรับช่วยอังกฤษโค่นออตโตมาน อังกฤษสัญญาว่าจะยกดินแดนให้อาหรับ เพื่อตอบแทนความเป็นมิตรแท้ของอาหรับ ดังนั้น อาหรับปาเลสไตน์ จึงมีสิทธิ์ โดยชอบที่จะอ้างสิทธิในแผ่นดิน ที่มีคนอาหรับอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ความจริงนั้น ทำให้แผ่นดินนั้น เป็นของชาวอาหรับหรือไม่?
. ในเวลาเดียวกัน กับที่อังกฤษ (สัญญาจะ) มอบแผ่นดินให้กับเพื่อนอาหรับของอังกฤษ อังกฤษยังสนใจคะแนนในทางการเมืองที่จะได้รับจากคนยิวที่อยู่ในอังกฤษ ดังนั้นอังกฤษก็สัญญา จะยกแผ่นดินให้ยิวด้วย! ดังนั้น คนทั้งสองสามารถอ้างสิทธิ ว่า ดินแดนนั้นมีการมอบให้กับตนเอง!
อังกฤษ ไม่เข้าใจ ความต้องการในจิตใจของคนทั้งสองกลุ่ม อังกฤษมิได้คิดไว้ล่วงหน้าว่า อาหรับปาเลสไตน์ และคนยิวต้องการแผ่นดินผืนเดียวกัน
. เมื่อพันธมิตรอาหรับและอังกฤษ ปลดปล่อยเยรูซาเล็มจากผู้ปกครองออตโตมาน ในปี 1917 ปาเลสไตน์อาหรับมีจำนวนมากกว่าคนยิวที่อยู่ในปาเลสไตน์มาก ทั้งๆ ที่ ตั้งแต่ทศวรรษปี 1880 คนยิวหลั่งไหล เข้าไปในพื้นที่นี้จำนวนมาก เนื่องจากมีการต่อต้านคนเซมิติค ในประเทศต่างๆ เทโอดอร์ แฮร์ทเซิล ได้ก่อตั้ง องค์การไซออนิสต์โลก ในปี 1897 เสนอให้คนยิวที่อาศัยยุโรป อพยพไปยังปาเลสไตน์ เพื่อให้หลุดพ้นจากการถูกข่มเหง
. การอพยพเพิ่มขึ้นอย่างมากในทศวรรษปี1930 เมื่อลักธินาซี ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด โลกรู้สึกสงสารคนยิว เมื่อเป็นดังนั้น อังกฤษ เห็นคนยิวหลั่งไหล เข้าไปในปาเลสไตน์จำนวนมาก อังกฤษพยายามจำกัดการอพยพของคนยิวไปยังแผ่นดินพันธมิตรอาหรับ แผ่นดินปาเลสไตน์ ตอนนี้เข้าสู่ตอนสำคัญที่อังกฤษรู้ว่า ตนเองสัญญาว่าจะยกดินแดนปาเลสไตน์ให้ทั้งอาหรับและคนยิว
. การกระทำก่อการร้ายฆ่าตัวตายในปาเลสไตน์ เป็นข่าวพาดหัวในหนังสือเกือบทุกวัน ระเบิดฆ่าตัวตาย เป็นการระเบิดตนเอง ในที่สาธารณะ ในประเทศอิสราเอล สังหารและทำให้คนบริสุทธิ์บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ลักธิก่อการร้าย ถูกนำมาใช้ทั้งสองชาติ ในปีที่เกิดความไม่สงบ, สงครามอาหรับ-ยิว เกิดขึ้นช่วงปี 1947-1948 ยุติลง ด้วยการที่อิสราเอลควบคุมดินแดนปาเลสไตน์ ได้เป็นส่วนใหญ่ ผู้ก่อการร้ายยิวคนหนึ่งเป็นคนวางแผนและดำเนินการโจมตี กองทหารอังกฤษ ที่ตั้งอยู่ในปาเลสไตน์ ต่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเมนาเฮม เบกิน เขามีชื่อเสียง ในการกล่าวว่า แผ่นดินปาเลสไตน์ คือแผ่นดิน “ยูเดีย” และ”สะมาเรีย” (ชื่อนี้ปรากฏในไบเบิลของ คริสเตียน) ซึ่งเป็นชื่อแผ่นดินที่คนอิสราเอลโบราณ ครอบครอง
. เมื่ออังกฤษเห็นว่า ไม่สามารถเจรจาให้การตั้งถิ่นฐาน สามารถยอมรับกันได้ทั้งสองฝ่าย อังกฤษก็ส่งเรื่องให้ยูเอ็นแก้ปัญหาประเด็นที่ซับซ้อน
. ปี 1947 ยูเอ็นเสนอวิธีแก้ปัญหา ที่ดูว่าสมเหตุสมผล โดยการแบ่งแผ่นดินให้กับคนสองฝ่าย นักกม.ของเยรูซาเล็ม, และโฆษกของอาหรับปาเลสไตน์ ผู้อพยพชาวยิว ในเวลานั้น ยอมรับแนวคิด คนยิวในเวลานั้นอยู่ภายใต้การนำของ นายเดวิด เบน คูเรียน ประกาศตั้งรัฐอิสราเอล วันที่ 14 พค.1948 ทั้งๆ ที่อาหรับปาเลสไตน์มีจำนวนมากกว่า คนอาหรับปาเลสไตน์อพยพออกจากแผ่นดินหวังพึ่งพี่น้องชาวอาหรับ เข้าบดขยี้ ชาติอิสราเอลที่เพิ่มก่อตั้งได้ไม่กี่วัน คิดว่าเมื่อชาติอาหรับควบคุมแผ่นดินปาเลสไตน์ เรียบร้อยแล้ว จะได้อพยพกลับ
แต่เหตุการณ์ ไม่ได้เป็นไปตามคาด
. คำกล่าวอ้างว่า เป็นผู้ตั้งถิ่นฐานก่อน ไม่สามารถนำมาอ้างในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
. ถ้าเราพยายาม ตอบคำถามของคนปาเลสไตน์ คำถาม ที่ถามว่า “ใครมาตั้งถิ่นฐานก่อน” เราจะพบความยุ่งยากมาก ถ้าย้อนกลับไปปลายศต.ที่19 และต้นศต.ที่20 คนอาหรับ อยู่ในปาเลสไตน์ เป็นอันดับแรก ดังนั้น แผ่นดินของเป็นของคนอาหรับโดยชอบหรือไม่?
ไม่, อย่างนั้น เร็วเกินไป
. ให้ย้อนไปอีกสักหลายพันปี
. นักประวัติศาสตร์ เชื่อว่าประชากรกลุ่มใหญ่ลำดับแรกสุด ที่อยู่ในแผ่นดิน คือชาวคานาอัน
ถ้ามีกฎหมายสักฉบับ บอกว่า “ใครมีประชากรครอบครอง แผ่นดิน จำนวน 9 ใน 10 ส่วน” ถือว่าแผ่นดิน เป็นของพวกนั้นและลูกหลานของคนนั้น ชาวคานาอัน จะได้ครอบครองแผ่นดิน
. แต่ มีคนที่มีอำนาจทางทหารเหนือกว่า - คนฟิลิสติน ที่ได้อพยพเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน, และชื่อนี้ ที่คิดว่าพัฒนา มาเป็น”ปาเลสไตน์” ดังนั้น ลูกหลานของคนฟิลิสติน จึงมีสิทธิในแผ่นดินโดยชอบด้วยกฎหมาย
. ใครสามารถอ้างสิทธิ์แผ่นดินปาเลสไตน์ ได้โดยชอบ
. คำตอบ ของคำถามนี้ ไม่ง่ายด้วย
. ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อพยพเข้าไปในแผ่นดินคานาอันคนกลุ่มนี้ เป็นลูกหลานของชายที่มีนามว่า “อีเบอร์” ชื่อนี้แปลว่า อีกด้านหนึ่ง” คนกลุ่มนี้ เรียกว่า “คนฮีบรู” มาจาก ”อีกด้านหนึ่ง ” ของยูเฟรตีส เข้าสู่แผ่นดินคานาอัน หัวหน้าครอบครัวคนกลุ่มนี้ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คืออับราฮัม
. ใครอยากทราบรายละเอียดการเดินทางของอับราฮัม แนะนำอ่านไบเบิล ภาคปฐมกาล ตั้งแต่บทที่ 12 พอ อับราฮัมและครอบครัว เดินทางมาถึงดินแดน ก็เกิดเรื่องไม่น่าเชื่อต่างๆ มากมาย พระเจ้าปรากฏกับอับราม(ชื่อเดิม ภายหลังเปลี่ยนเป็น อับราฮัม) พระเจ้าสัญญาจะมอบแผ่นดินให้แก่ลูกหลานของอับราม ดูข้อ7
. เจ้าจะไม่ได้สิทธิอำนาจสูงไปกว่านั้น ยิ่งใหญ่กว่าฟิลิสตินที่เป็นทหาร, เหนือกว่าจักรวรรดิ์อังกฤษ, เหนือกว่ายูเอ็น. พระเจ้าจะพรากแผ่นดินออกไป การครอบครอง ไม่ได้เป็นปัจจัยตัดสิน สิทธิการเป็นเจ้าของ เมื่อคนคานาอัน ถูกชาวฟิลิตตินแย่งชิงการครอบครองแผ่นดิน
. เนื่องจาก ยิวเป็นลูกหลานของอับราฮัม, ตั้งแต่นั้นมา แผ่นดินนั้น เป็นสิทธิของยิว หรือไม่ ?
. ไม่เป็น
. ไม่ง่ายขนาดนั้น
. ลูกหลานของอับราฮัมมีสองกลุ่มใหญ่ อิสอัค และอิสมาเอล จากอิสอัค มา ยาโคบ, ยาโคปได้เชื่อว่าอิสราเอล จากยาโคป ให้กำเนิดคนอีก 12 เผ่า ( หรือ 13 เผ่า อยู่ที่ว่าจะนับ ยาโคป รวมด้วยหรือไม่) คนยิวเป็นลูกหลานเพียงหนึ่งเผ่าจากหลายเผ่านั้น นั่นคือเผ่ายูดา
. นอกจากนั้น ลูกหลานของอิสมาเอล คืออาหรับ และอาหรับมีสิทธิในปาเลสไตน์ หรือไม่ สัญญาของพระเจ้ากระทำกับอับราฮัม อิสอัค และยาโคป แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าตั้งใจมอบแผ่นดินให้กับสายตระกูลของอิสอัค
.
. ทั้งยิวและมุสลิม ต่างนำศาสนามาอ้างสิทธิ์บนแผ่นดิน
. ประวัติศาสตร์ ไม่ใจดี หรือเข้าข้างอิสราเอล อิสราเอลจำต้องต่อสู้เพื่อครอบครองและยึดครองแผ่นดิน สงครามกลางเมืองอิสราเอลแบ่งประเทศออกเป็นสองชาติ เรียกว่า ยูเดีย และสะมาเรีย เป็นช่วงเวลาแห่งความยุ่งยาก และยุ่งเหยิง ของปวศ.ปาเลสไตน์ ที่เมนาเฮม เบกิน ไม่เรียกปาเลสไตน์ ตามชื่อปาเลสไตน์ เบกิน เน้น คนยิวนำศาสนามาอ้างสิทธิ์บนแผ่นดิน
. ศาสนาเป็นปัจจัยหนึ่ง ในความคิดของชาวปาเลสไตน์ ตามข้อมูลจากเพสบุ๊ค CIA ชาวปาเลสไตน์ จำนวน 75% เป็นมุสลิม ตั้งแต่ศต.ที่เจ็ด มุสลิมปกครองปาเลสไตน์ เป็นเวลา 1300 ปี ปกครองคน ที่เรียกว่า “ฟิลาสติน Filastin,” เป็นที่มาของชื่อปาเลสไตน์“Palestine.” (มีความเกี่ยวเนื่องกับฟิลิสตินโบราณอย่างชัดเจน)
. “ปาเลสไตน์ มีความศักดิ์สิทธิ กับคนมุสลิม เห็นจากที่ผู้พยากรณ์มุฮัมมัด กำหนดให้เยรูซาเล็มเป็นทิศทางแรกที่คนมุสลิมหันหน้า เวลานมัสการ (เป็นทิศทางที่มุสลิมหันหน้าเมื่อนมัสการ) และเป็นสถานที่เชื่อว่า มุฮัมมัด ขึ้นสวรรค์ ในเวลากลางคืน จากวิหารของโซโลมอน ที่ภายหลังมีการสร้างโดมแห่งศิลา ขึ้นมา เยรูซาเล็มกลายเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่สุดลำดับที่สามของอิสลาม” (อ้างอิง Encarta Online Encyclopedia, 2002, “Palestine,” p. 4)
การต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนปาเลสไตน์(ตอนที่3)
. บางคนบอกว่า คนปาเลสไตน์ ถูกบังคับให้ออกจากแผ่นดินของเขา และว่าคนปาเลสไตน์ ถูกแย่งสิทธิโดยชอบของพวกเขา
อีกคนยืนยันว่า คนอิสราเอลเป็นผู้มีสิทธิตามกม.กับชาติของเขา รวมทั้งแผ่นดิน ที่ยึดไว้ตอนทำสงคราม
สภาสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเริ่มใช้คำว่า ”เข้ายึดครอง” เมื่อหมายถึงการปรากฏของทหารอิสราเอลในเมืองปาเลสไตน์
เป็นนัยว่า คนอิสราเอลได้รุกรานดินแดนของผู้มีอำนาจปกครอง
. ดินแดนนี้เป็นของใคร จริงๆ,
. คำตอบอาจทำให้คุณแปลกใจ
. คำว่า”ปาเลสไตน์” เป็นคำที่มีความสำคัญ หมายถึง ส่วนของแผ่นดิน ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ตรงปลายสุดด้านตะวันออก ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนเดียวกันนั้น ประกอบด้วยรัฐอิสราเอลปัจจุบัน ที่เป็นชาติในปี 1948 คนอิสราเอล ได้พัฒนาทะเลทรายที่รกร้างว่างเปล่า จนเป็นประชาชาติที่อุดมสมบูรณ์ ได้ผลผลิตจากดินแดนนั้น คนอิสราเอลเป็นผู้ปกป้องแผ่นดินมาตุภูมิของพวกเขาอย่างชัดเจน
. แต่นั่น เป็นแผ่นดินมาตุภูมิของคนอิสราเอล จริงหรือ?
. หรือเป็นแผ่นดินมาตุภูมิของคนปาเลสไตน์?
. คำว่า “ชาวปาเลสไตน์” โดยทั่วไป ใช้เรียกชื่อลูกหลานของคนอาหรับจำนวนประมาณ 780000 คน(เจ็ดแสนแปดหมื่น) ที่อพยพออกไป ตอนเกิดสงครามระหว่างห้าชาติอาหรับและรัฐอิสราเอล ในปี 1948 ที่ประกาศการเกิดรัฐอิสราเอลใหม่
. เมื่อเริ่มสงคราม คนอาหรับจำนวนหนึ่งละทิ้งถิ่นฐานเนื่องจากความกลัว ในขณะที่อาหรับอื่น เชื่อว่าอพยพออกไปก่อน ไม่นาน ค่อยกลับมา แต่ คนอาหรับไม่ได้คิดว่า อิสราเอลจะชนะสงคราม อย่างน้อยก็ตรงความไม่เท่ากันของฝ่ายที่ทำสงคราม นับแต่เวลานั้น คนที่ย้ายออกไป และลูกหลานอาหรับผู้อพยพ ไปอาศัยในค่ายอพยพชั่วคราว ปราศจากแผ่นดิน ที่เรียกว่า แผ่นดินของตนเอง
. การโต้แย้งความเป็นเจ้าของ(แผ่นดิน)ปาเลสไตน์ อย่างขมขื่น ยังคงมีจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีฝ่ายใดเต็มใจที่จะยอมรับ การประกาศของอีกฝ่ายหนึ่งถึงสิทธิการควบคุมดินแดนของตนแต่เพียงฝ่ายเดียว การโต้แย้งสิทธิมีความซับซ้อน มีหลายวิถีทางในการแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่โต้แย้ง
. คนอิสราเอลมาครอบครองแผ่นดินอย่างไร
. คนอิสราเอลเชื่อว่า คนอิสราเอลมีสิทธิตามกม.ด้วยเหตุผลต่างๆ
. ไม่ใช่ คนอิสราเอลประสบความสำเร็จในการปกป้องตนเอง ต่อสู้กับ(อาหรับ)ที่มีจำนวนที่เหนือกว่า ปลายทศวรรษปี 1940 และในสงคราม(หกวัน)ในเวลาต่อมา หรือเป็นแผ่นดินของอิสราเอล เพราะคนอิสราเอลสามารถป้องกันแผ่นดินไว้ได้ คนอิสราเอลมาอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเป็นสถานที่แรก ได้อย่างไร?
. ให้เราย้อนเวลากลับไปสัก 25 ปี ก่อนนำไปสู่การก่อตั้งชาติอิสราเอล อังกฤษครอบครองแผ่นดินปาเลสไตน์ ด้วยเหตุผลทางการเมือง อังกฤษสัญญาจะยกแผ่นดินมาตุภูมิปาเลสไตน์ให้กับ คนอาหรับที่อยู่ และยกแผ่นดินให้ผู้อพยพชาวยิว ด้วยเหตุผลว่า
อาหรับช่วยอังกฤษโค่นออตโตมาน อังกฤษสัญญาว่าจะยกดินแดนให้อาหรับ เพื่อตอบแทนความเป็นมิตรแท้ของอาหรับ ดังนั้น อาหรับปาเลสไตน์ จึงมีสิทธิ์ โดยชอบที่จะอ้างสิทธิในแผ่นดิน ที่มีคนอาหรับอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ความจริงนั้น ทำให้แผ่นดินนั้น เป็นของชาวอาหรับหรือไม่?
. ในเวลาเดียวกัน กับที่อังกฤษ (สัญญาจะ) มอบแผ่นดินให้กับเพื่อนอาหรับของอังกฤษ อังกฤษยังสนใจคะแนนในทางการเมืองที่จะได้รับจากคนยิวที่อยู่ในอังกฤษ ดังนั้นอังกฤษก็สัญญา จะยกแผ่นดินให้ยิวด้วย! ดังนั้น คนทั้งสองสามารถอ้างสิทธิ ว่า ดินแดนนั้นมีการมอบให้กับตนเอง!
อังกฤษ ไม่เข้าใจ ความต้องการในจิตใจของคนทั้งสองกลุ่ม อังกฤษมิได้คิดไว้ล่วงหน้าว่า อาหรับปาเลสไตน์ และคนยิวต้องการแผ่นดินผืนเดียวกัน
. เมื่อพันธมิตรอาหรับและอังกฤษ ปลดปล่อยเยรูซาเล็มจากผู้ปกครองออตโตมาน ในปี 1917 ปาเลสไตน์อาหรับมีจำนวนมากกว่าคนยิวที่อยู่ในปาเลสไตน์มาก ทั้งๆ ที่ ตั้งแต่ทศวรรษปี 1880 คนยิวหลั่งไหล เข้าไปในพื้นที่นี้จำนวนมาก เนื่องจากมีการต่อต้านคนเซมิติค ในประเทศต่างๆ เทโอดอร์ แฮร์ทเซิล ได้ก่อตั้ง องค์การไซออนิสต์โลก ในปี 1897 เสนอให้คนยิวที่อาศัยยุโรป อพยพไปยังปาเลสไตน์ เพื่อให้หลุดพ้นจากการถูกข่มเหง
. การอพยพเพิ่มขึ้นอย่างมากในทศวรรษปี1930 เมื่อลักธินาซี ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด โลกรู้สึกสงสารคนยิว เมื่อเป็นดังนั้น อังกฤษ เห็นคนยิวหลั่งไหล เข้าไปในปาเลสไตน์จำนวนมาก อังกฤษพยายามจำกัดการอพยพของคนยิวไปยังแผ่นดินพันธมิตรอาหรับ แผ่นดินปาเลสไตน์ ตอนนี้เข้าสู่ตอนสำคัญที่อังกฤษรู้ว่า ตนเองสัญญาว่าจะยกดินแดนปาเลสไตน์ให้ทั้งอาหรับและคนยิว
. การกระทำก่อการร้ายฆ่าตัวตายในปาเลสไตน์ เป็นข่าวพาดหัวในหนังสือเกือบทุกวัน ระเบิดฆ่าตัวตาย เป็นการระเบิดตนเอง ในที่สาธารณะ ในประเทศอิสราเอล สังหารและทำให้คนบริสุทธิ์บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ลักธิก่อการร้าย ถูกนำมาใช้ทั้งสองชาติ ในปีที่เกิดความไม่สงบ, สงครามอาหรับ-ยิว เกิดขึ้นช่วงปี 1947-1948 ยุติลง ด้วยการที่อิสราเอลควบคุมดินแดนปาเลสไตน์ ได้เป็นส่วนใหญ่ ผู้ก่อการร้ายยิวคนหนึ่งเป็นคนวางแผนและดำเนินการโจมตี กองทหารอังกฤษ ที่ตั้งอยู่ในปาเลสไตน์ ต่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเมนาเฮม เบกิน เขามีชื่อเสียง ในการกล่าวว่า แผ่นดินปาเลสไตน์ คือแผ่นดิน “ยูเดีย” และ”สะมาเรีย” (ชื่อนี้ปรากฏในไบเบิลของ คริสเตียน) ซึ่งเป็นชื่อแผ่นดินที่คนอิสราเอลโบราณ ครอบครอง
. เมื่ออังกฤษเห็นว่า ไม่สามารถเจรจาให้การตั้งถิ่นฐาน สามารถยอมรับกันได้ทั้งสองฝ่าย อังกฤษก็ส่งเรื่องให้ยูเอ็นแก้ปัญหาประเด็นที่ซับซ้อน
. ปี 1947 ยูเอ็นเสนอวิธีแก้ปัญหา ที่ดูว่าสมเหตุสมผล โดยการแบ่งแผ่นดินให้กับคนสองฝ่าย นักกม.ของเยรูซาเล็ม, และโฆษกของอาหรับปาเลสไตน์ ผู้อพยพชาวยิว ในเวลานั้น ยอมรับแนวคิด คนยิวในเวลานั้นอยู่ภายใต้การนำของ นายเดวิด เบน คูเรียน ประกาศตั้งรัฐอิสราเอล วันที่ 14 พค.1948 ทั้งๆ ที่อาหรับปาเลสไตน์มีจำนวนมากกว่า คนอาหรับปาเลสไตน์อพยพออกจากแผ่นดินหวังพึ่งพี่น้องชาวอาหรับ เข้าบดขยี้ ชาติอิสราเอลที่เพิ่มก่อตั้งได้ไม่กี่วัน คิดว่าเมื่อชาติอาหรับควบคุมแผ่นดินปาเลสไตน์ เรียบร้อยแล้ว จะได้อพยพกลับ
แต่เหตุการณ์ ไม่ได้เป็นไปตามคาด
. คำกล่าวอ้างว่า เป็นผู้ตั้งถิ่นฐานก่อน ไม่สามารถนำมาอ้างในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
. ถ้าเราพยายาม ตอบคำถามของคนปาเลสไตน์ คำถาม ที่ถามว่า “ใครมาตั้งถิ่นฐานก่อน” เราจะพบความยุ่งยากมาก ถ้าย้อนกลับไปปลายศต.ที่19 และต้นศต.ที่20 คนอาหรับ อยู่ในปาเลสไตน์ เป็นอันดับแรก ดังนั้น แผ่นดินของเป็นของคนอาหรับโดยชอบหรือไม่?
ไม่, อย่างนั้น เร็วเกินไป
. ให้ย้อนไปอีกสักหลายพันปี
. นักประวัติศาสตร์ เชื่อว่าประชากรกลุ่มใหญ่ลำดับแรกสุด ที่อยู่ในแผ่นดิน คือชาวคานาอัน
ถ้ามีกฎหมายสักฉบับ บอกว่า “ใครมีประชากรครอบครอง แผ่นดิน จำนวน 9 ใน 10 ส่วน” ถือว่าแผ่นดิน เป็นของพวกนั้นและลูกหลานของคนนั้น ชาวคานาอัน จะได้ครอบครองแผ่นดิน
. แต่ มีคนที่มีอำนาจทางทหารเหนือกว่า - คนฟิลิสติน ที่ได้อพยพเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน, และชื่อนี้ ที่คิดว่าพัฒนา มาเป็น”ปาเลสไตน์” ดังนั้น ลูกหลานของคนฟิลิสติน จึงมีสิทธิในแผ่นดินโดยชอบด้วยกฎหมาย
. ใครสามารถอ้างสิทธิ์แผ่นดินปาเลสไตน์ ได้โดยชอบ
. คำตอบ ของคำถามนี้ ไม่ง่ายด้วย
. ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อพยพเข้าไปในแผ่นดินคานาอันคนกลุ่มนี้ เป็นลูกหลานของชายที่มีนามว่า “อีเบอร์” ชื่อนี้แปลว่า อีกด้านหนึ่ง” คนกลุ่มนี้ เรียกว่า “คนฮีบรู” มาจาก ”อีกด้านหนึ่ง ” ของยูเฟรตีส เข้าสู่แผ่นดินคานาอัน หัวหน้าครอบครัวคนกลุ่มนี้ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คืออับราฮัม
. ใครอยากทราบรายละเอียดการเดินทางของอับราฮัม แนะนำอ่านไบเบิล ภาคปฐมกาล ตั้งแต่บทที่ 12 พอ อับราฮัมและครอบครัว เดินทางมาถึงดินแดน ก็เกิดเรื่องไม่น่าเชื่อต่างๆ มากมาย พระเจ้าปรากฏกับอับราม(ชื่อเดิม ภายหลังเปลี่ยนเป็น อับราฮัม) พระเจ้าสัญญาจะมอบแผ่นดินให้แก่ลูกหลานของอับราม ดูข้อ7
. เจ้าจะไม่ได้สิทธิอำนาจสูงไปกว่านั้น ยิ่งใหญ่กว่าฟิลิสตินที่เป็นทหาร, เหนือกว่าจักรวรรดิ์อังกฤษ, เหนือกว่ายูเอ็น. พระเจ้าจะพรากแผ่นดินออกไป การครอบครอง ไม่ได้เป็นปัจจัยตัดสิน สิทธิการเป็นเจ้าของ เมื่อคนคานาอัน ถูกชาวฟิลิตตินแย่งชิงการครอบครองแผ่นดิน
. เนื่องจาก ยิวเป็นลูกหลานของอับราฮัม, ตั้งแต่นั้นมา แผ่นดินนั้น เป็นสิทธิของยิว หรือไม่ ?
. ไม่เป็น
. ไม่ง่ายขนาดนั้น
. ลูกหลานของอับราฮัมมีสองกลุ่มใหญ่ อิสอัค และอิสมาเอล จากอิสอัค มา ยาโคบ, ยาโคปได้เชื่อว่าอิสราเอล จากยาโคป ให้กำเนิดคนอีก 12 เผ่า ( หรือ 13 เผ่า อยู่ที่ว่าจะนับ ยาโคป รวมด้วยหรือไม่) คนยิวเป็นลูกหลานเพียงหนึ่งเผ่าจากหลายเผ่านั้น นั่นคือเผ่ายูดา
. นอกจากนั้น ลูกหลานของอิสมาเอล คืออาหรับ และอาหรับมีสิทธิในปาเลสไตน์ หรือไม่ สัญญาของพระเจ้ากระทำกับอับราฮัม อิสอัค และยาโคป แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าตั้งใจมอบแผ่นดินให้กับสายตระกูลของอิสอัค
.
. ทั้งยิวและมุสลิม ต่างนำศาสนามาอ้างสิทธิ์บนแผ่นดิน
. ประวัติศาสตร์ ไม่ใจดี หรือเข้าข้างอิสราเอล อิสราเอลจำต้องต่อสู้เพื่อครอบครองและยึดครองแผ่นดิน สงครามกลางเมืองอิสราเอลแบ่งประเทศออกเป็นสองชาติ เรียกว่า ยูเดีย และสะมาเรีย เป็นช่วงเวลาแห่งความยุ่งยาก และยุ่งเหยิง ของปวศ.ปาเลสไตน์ ที่เมนาเฮม เบกิน ไม่เรียกปาเลสไตน์ ตามชื่อปาเลสไตน์ เบกิน เน้น คนยิวนำศาสนามาอ้างสิทธิ์บนแผ่นดิน
. ศาสนาเป็นปัจจัยหนึ่ง ในความคิดของชาวปาเลสไตน์ ตามข้อมูลจากเพสบุ๊ค CIA ชาวปาเลสไตน์ จำนวน 75% เป็นมุสลิม ตั้งแต่ศต.ที่เจ็ด มุสลิมปกครองปาเลสไตน์ เป็นเวลา 1300 ปี ปกครองคน ที่เรียกว่า “ฟิลาสติน Filastin,” เป็นที่มาของชื่อปาเลสไตน์“Palestine.” (มีความเกี่ยวเนื่องกับฟิลิสตินโบราณอย่างชัดเจน)
. “ปาเลสไตน์ มีความศักดิ์สิทธิ กับคนมุสลิม เห็นจากที่ผู้พยากรณ์มุฮัมมัด กำหนดให้เยรูซาเล็มเป็นทิศทางแรกที่คนมุสลิมหันหน้า เวลานมัสการ (เป็นทิศทางที่มุสลิมหันหน้าเมื่อนมัสการ) และเป็นสถานที่เชื่อว่า มุฮัมมัด ขึ้นสวรรค์ ในเวลากลางคืน จากวิหารของโซโลมอน ที่ภายหลังมีการสร้างโดมแห่งศิลา ขึ้นมา เยรูซาเล็มกลายเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่สุดลำดับที่สามของอิสลาม” (อ้างอิง Encarta Online Encyclopedia, 2002, “Palestine,” p. 4)