กลับมารีวิวกระทู้ทริปตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเชียงใหม่ต่อเมืองลี้ ตอนที่ 4 เป็นตอนสุดท้ายของทริปแล้วครับ โดยกระทู้ตอนนี้จะเป็นการเล่าเรื่องประสบการณ์ท่องเที่ยวในวันที่ 7 - 8 ของทริปที่ผมได้ขี่รถไปเที่ยวรายทางระหว่างเดินทางจากเมืองลี้กลับไปเมืองเชียงใหม่ และเที่ยวเก็บตกในย่านอำเภอแม่ริมที่วันที่ 2 ผมเที่ยวได้ไม่หมด รวมทั้งส่งท้ายการเที่ยวที่ห้วยตึงเฒ่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ผมยังไม่เคยได้ไปชมในครั้งก่อน ๆ เมื่อมาเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ก่อนอื่นมาดูโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวของผมในทริปนี้กันก่อนนะครับ
วันแรก : เดินทางไปเชียงใหม่ เที่ยวย่านตัวเมืองเชียงใหม่และสันกำแพง
วันที่ 2 : เที่ยวย่านอำเภอแม่แตง
วันที่ 3 : เที่ยวขุนแปะ และน้ำตกบริเวณทางขึ้นดอยอินทนนท์
วันที่ 4 : เที่ยวดอยอินทนนท์
วันที่ 5 : เที่ยวย่านแม่แจ่มและฮอด
วันที่ 6 : เที่ยวย่านเมืองลี้
วันที่ 7 : เที่ยวย่านแม่ริม และเก็บตกขากลับ
วันที่ 8 : เที่ยวห้วยตึงเฒ่า และเดินทางกลับ
วันที่ 7 : เที่ยวย่านแม่ริม และเก็บตกขากลับ
วันนี้ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากโรงแรมที่พักในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูนกลับไปเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาราวเกือบ 2 ชั่วโมงก็มาถึง
เก๋าไม้ล้านนา คาเฟ่และที่พักชื่อดังในย่านอำเภอหางดง
เก๊าไม้ล้านนาหรือคาเฟ่โรงบ่ม เป็นคาเฟ่ที่จำหน่ายชา กาแฟ และเบอร์เกอรี่ โดยดัดแปลงมาจากโรงบ่มยาสูบ ภายในพื้นที่คาเฟ่จัดตกแต่งอาคารบ่มยาสูบด้วยการปลูกต้นไม้คลุมตึกจนมองเห็นเป็นสีเขียวไปหมด เป็นคาเฟ่ที่แปลกดูเก๋ไก๋ ที่นี่ขายดีมากมีนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นแวะเวียนเข้ามาคาเฟ่นี้อยู่ตลอด ต่างจับจองพื่นที่ภายในถ่ายรูปเก๋ ๆ
แม้ราคาเครื่องดื่มที่นี่จะสูงมากกว่าข้างนอก ก็เป็นธรรมดาเพราะเจ้าของลงทุนปรับปรุงพื้นที่ไปเยอะเพื่อหาจุดขายให้กับคาเฟ่ก็ต้องคิดราคาสินค้าที่จำหน่ายสูงเพิ่มตามไปด้วย
ที่นี่แม้จะมีลูกค้าสั่งเครื่องดื่มมากมาย แต่เจ้าของก็ทำไวบริการเร็ว แถมที่นี่ยังมีเครื่องส่งสัญญาณบอกเวลาเครื่องดื่มที่เราสั่งเสร็จแล้วให้เราได้รู้ เพื่อที่ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปจากจุดต่าง ๆ ในคาเฟ่ได้โดยไม่ต้องกังวล
ต่อมาผมขี่รถไปเที่ยวชม
หมู่บ้านหัตถกรรมบ้านถวาย เพราะตั้งใจว่าจะไปซื้องานไม้แกะสลักราคาไม่แพงจากที่นี่เป็นของฝากที่ระลึกให้กับตัวเองในทริปนี้
หมู่บ้านถวายถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นทีรู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นแหล่งกำเนิดของงานแกะสลักไม้ในจังหวัดเชียงใหม่ จนผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลักได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยเมื่อปี พ.ศ. 2547 รัฐบาลได้มีการส่งเสริมงานหัตถกรรม ภายใต้โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และบ้านถวายได้รับการคัดเลือกจากกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยให้เป็น "หมู่บ้าน OTOP ต้นแบบ" แห่งแรกในประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้รับเลือกเป็น "หมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP" จากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จากนั้นในการประกวด อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี พ.ศ.2550 หมู่บ้านถวายก็ได้รับรางวัล "ชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว" จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และในปี2553 หมู่บ้านถวายยังได้รับคัดเลือกให้เป็น "ย่านการค้าพาณิชย์ บ้านถวาย หมู่บ้านสร้างสรรค์" ล่าสุดในปี พ.ศ. 2554 หมู่บ้านได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ "สุดยอดย่านการค้าพาณิชย์ไทย" จากกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการช่วยอนุรักษ์วิถีชีวิตการประกอบการค้าของชุมชนแบบดั้งเดิมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน จึงทำให้ชื่อเสียงของหมู่บ้านแกะสลักไม้แห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
หมู่บ้านถวายแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายโซน มีงานไม้แกะสลักตั้งแต่ขนาดใหญ่ไม่ถึงขนาดเล็กเท่ามือให้เลือกซื้อหามากมาย หลายร้าน วันที่ผมไปชมเป็นวันธรรมดาร้านรวงหลายร้านได้ปิดตัวลง เพราะไม่ค่อยมีกรุ๊ปทัวร์และนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามามากนัก บรรยากาศจึงดูง๋อย ๆ เพราะเดี๋ยวนี้งานไม้แกะสลักพวกนี้ก็มีจำหน่ายแล้วที่ตลาดนัดจตุจักร หรือจะสั่งซื้อทางออนไลน์ก็ได้ตามสะดวก ลูกค้าชาวไทยจึงนิยมเข้ามาซื้องานไม้ถึงแหล่งที่นี่น้อยกว่าพวกนักท่องเที่ยวต่างชาตินะครับ
ผมเลือกซื้อนกยูงประดับกระจกสีจากที่นี่ได้ตัวหนึ่ง ราคาถูกมาก 450 บาท เคยไปถามที่กรุงเทพฯ ได้ความว่าขายตัวละ 700 - 800 บาท ได้ของฝากถูกใจก็เลยจัดของฝากพร้อมสัมภาระที่ไม่ใช้แล้วส่ง kerry กลับบ้านไม่เลย เวลาบินขึ้นเครื่องพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเสียค่าโหลดของใต้เครื่อง ค่าจัดส่งอยู่ที่ราคา 175 บาท ถูกกว่าเสียค่าโหลดของใต้เครื่องอีกแถมไม่ต้องถือของให้เมื่อยตุ้มด้วย ฮิฮิ...
ต่อมาผมขี่รถไปเที่ยว
ม่อนแจ่ม ระหว่างเสิร์จหาข้อมูลอยู่เห็นมีร้านอาหารริมลำธารน้ำตกแม่สาที่วิวดีบรรยากาศปัง น่าสนใจมาก เห็นคนเชียงใหม่ชอบนิยมไปนั่งกินกัน เลยถือโอกาสแวะไปชิมอาหารพร้อมชมบรรยากาศที่ร้านอาหารนี้สักหน่อย ร้านนี้อยู่ริมลำธารน้ำตกแม่สามีชื่อว่า
ร้านน้ำเหนือนั่งเล่น ตัวร้านตั้งอยู่ริมถนนทางซ้ายมือถ้าเราขี่รถจากเชียงใหม่ไปม่อนแจ่ม
ร้านอาหารริมลำธารน้ำตกแถวแม่สานี้ที่เห็นอยู่น่าจะมี 4 ร้าน อยู่ติด ๆ กันเลย แต่ร้านนี้ดูท่าจะมีชื่อเสียงมากกว่าเห็นแชร์กันในโลกโซเชียลกันมากมาย ร้านจะเปิดขายช่วง 8 โมงเช้าและปิดให้บริการเวลา 2 ทุ่มนะครับ
ผมมาช่วง 5 โมงเย็น บรรยากาศร้านดูเงียบสงบ มีแขกเข้ามานั่งรับประทานอาหารแค่ 2 โต๊ะ ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวดี ที่นี่จะมีที่นั่ง 2 แบบ แบบแรกอยู่ข้างบนติดครัว และใกล้ถนน กับแบบที่ 2 ที่จะขายดีกว่าคือ แบบติดริมน้ำที่ผมนั่ง ลักษณะทำเป็นแคร่เล็ก ๆ ยื่นลงไปในลำธารน้ำตก เราสามารถเอาขาจุ่มลงไปในน้ำได้ น้ำใสไหลเย็นดีจริง ๆ
ผมสั่งอาหารจำพวกส้มตำ ลาบ และข้าวเหนียว สั่งได้ไม่นานก็มาเสิร์ฟแล้ว อาหารออกไวดีนะ แถมรสชาติอร่อยกลมกล่อมสมกับคอมเม้นท์ที่แชร์กันในโลกโซเชียล ราคาอาหารไม่แพงอย่างที่คิดราคาธรรมดามาก ต้องเรียกว่า
"ราคาเหมาะสม อาหารอร่อย บรรยากาศปัง 555"
ที่นี่มีแจกตะคันจุดไฟ และสเปย์กันยุงให้พร้อมเพื่อนั่งยาวถึงมืด ผมรับประทานอาหารที่นี่ไม่นานมากเพราะกลัวว่าจะไปไม่ทันดูพระอาทิตย์ตกที่ม่อนแจ่มซะก่อน เลยรีบทำเวลาหน่อยช่วงนี้
ผมขี่รถจากร้านน้ำเหนือนั่งเล่นขึ้นไปทางม่อนแจ่ม ช่วงเย็นยามนี้นักท่องเที่ยวทยอยกันขึ้นไปถ่ายรูปที่ม่อนแจ่มและบางส่วนก็ขับรถขึ้นไปนอนค้างบนรีสอร์ทต่าง ๆ ของม่อนแจ่มเป็นจำนวนมาก แต่โชคดีผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปทำให้ขี่ง่ายรถไม่ติดแม้ทางจะแคบก็ตาม ผมขี่รถจากม่อนแจ่มขึ้นไปยังม่อนล่อง ซึ่งอยู่ห่างจากม่อนแจ่มไปราว 5 ก.ม. ถนนช่วงสุดท้ายก่อนถึงม่อนล่องเหมาะกับการเอารถโฟวิล หรือรถกระบะลุย ๆ เขามา เพราะทางไม่ดี มีแค่ทางซีเมนต์แคบ ๆ ทำไว้ให้รถมอเตอร์ไซค์ขี่เข้าไปได้ รถยนต์ไม่สมควรขับเข้ามาเลยนะครับ ไม่รอดแน่ทั้งชันและเป็นร่องลึก
ตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเชียงใหม่ต่อเมืองลี้ ตอนที่ 4 (ตอนจบ)
กลับมารีวิวกระทู้ทริปตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเชียงใหม่ต่อเมืองลี้ ตอนที่ 4 เป็นตอนสุดท้ายของทริปแล้วครับ โดยกระทู้ตอนนี้จะเป็นการเล่าเรื่องประสบการณ์ท่องเที่ยวในวันที่ 7 - 8 ของทริปที่ผมได้ขี่รถไปเที่ยวรายทางระหว่างเดินทางจากเมืองลี้กลับไปเมืองเชียงใหม่ และเที่ยวเก็บตกในย่านอำเภอแม่ริมที่วันที่ 2 ผมเที่ยวได้ไม่หมด รวมทั้งส่งท้ายการเที่ยวที่ห้วยตึงเฒ่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ผมยังไม่เคยได้ไปชมในครั้งก่อน ๆ เมื่อมาเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ก่อนอื่นมาดูโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวของผมในทริปนี้กันก่อนนะครับ
วันแรก : เดินทางไปเชียงใหม่ เที่ยวย่านตัวเมืองเชียงใหม่และสันกำแพง
วันที่ 2 : เที่ยวย่านอำเภอแม่แตง
วันที่ 3 : เที่ยวขุนแปะ และน้ำตกบริเวณทางขึ้นดอยอินทนนท์
วันที่ 4 : เที่ยวดอยอินทนนท์
วันที่ 5 : เที่ยวย่านแม่แจ่มและฮอด
วันที่ 6 : เที่ยวย่านเมืองลี้
วันที่ 7 : เที่ยวย่านแม่ริม และเก็บตกขากลับ
วันที่ 8 : เที่ยวห้วยตึงเฒ่า และเดินทางกลับ
วันที่ 7 : เที่ยวย่านแม่ริม และเก็บตกขากลับ
วันนี้ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากโรงแรมที่พักในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูนกลับไปเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาราวเกือบ 2 ชั่วโมงก็มาถึง เก๋าไม้ล้านนา คาเฟ่และที่พักชื่อดังในย่านอำเภอหางดง
เก๊าไม้ล้านนาหรือคาเฟ่โรงบ่ม เป็นคาเฟ่ที่จำหน่ายชา กาแฟ และเบอร์เกอรี่ โดยดัดแปลงมาจากโรงบ่มยาสูบ ภายในพื้นที่คาเฟ่จัดตกแต่งอาคารบ่มยาสูบด้วยการปลูกต้นไม้คลุมตึกจนมองเห็นเป็นสีเขียวไปหมด เป็นคาเฟ่ที่แปลกดูเก๋ไก๋ ที่นี่ขายดีมากมีนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นแวะเวียนเข้ามาคาเฟ่นี้อยู่ตลอด ต่างจับจองพื่นที่ภายในถ่ายรูปเก๋ ๆ
แม้ราคาเครื่องดื่มที่นี่จะสูงมากกว่าข้างนอก ก็เป็นธรรมดาเพราะเจ้าของลงทุนปรับปรุงพื้นที่ไปเยอะเพื่อหาจุดขายให้กับคาเฟ่ก็ต้องคิดราคาสินค้าที่จำหน่ายสูงเพิ่มตามไปด้วย
ที่นี่แม้จะมีลูกค้าสั่งเครื่องดื่มมากมาย แต่เจ้าของก็ทำไวบริการเร็ว แถมที่นี่ยังมีเครื่องส่งสัญญาณบอกเวลาเครื่องดื่มที่เราสั่งเสร็จแล้วให้เราได้รู้ เพื่อที่ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปจากจุดต่าง ๆ ในคาเฟ่ได้โดยไม่ต้องกังวล
ต่อมาผมขี่รถไปเที่ยวชม หมู่บ้านหัตถกรรมบ้านถวาย เพราะตั้งใจว่าจะไปซื้องานไม้แกะสลักราคาไม่แพงจากที่นี่เป็นของฝากที่ระลึกให้กับตัวเองในทริปนี้
หมู่บ้านถวายถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นทีรู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นแหล่งกำเนิดของงานแกะสลักไม้ในจังหวัดเชียงใหม่ จนผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลักได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยเมื่อปี พ.ศ. 2547 รัฐบาลได้มีการส่งเสริมงานหัตถกรรม ภายใต้โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และบ้านถวายได้รับการคัดเลือกจากกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยให้เป็น "หมู่บ้าน OTOP ต้นแบบ" แห่งแรกในประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้รับเลือกเป็น "หมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP" จากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จากนั้นในการประกวด อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี พ.ศ.2550 หมู่บ้านถวายก็ได้รับรางวัล "ชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว" จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และในปี2553 หมู่บ้านถวายยังได้รับคัดเลือกให้เป็น "ย่านการค้าพาณิชย์ บ้านถวาย หมู่บ้านสร้างสรรค์" ล่าสุดในปี พ.ศ. 2554 หมู่บ้านได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ "สุดยอดย่านการค้าพาณิชย์ไทย" จากกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการช่วยอนุรักษ์วิถีชีวิตการประกอบการค้าของชุมชนแบบดั้งเดิมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน จึงทำให้ชื่อเสียงของหมู่บ้านแกะสลักไม้แห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
หมู่บ้านถวายแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายโซน มีงานไม้แกะสลักตั้งแต่ขนาดใหญ่ไม่ถึงขนาดเล็กเท่ามือให้เลือกซื้อหามากมาย หลายร้าน วันที่ผมไปชมเป็นวันธรรมดาร้านรวงหลายร้านได้ปิดตัวลง เพราะไม่ค่อยมีกรุ๊ปทัวร์และนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามามากนัก บรรยากาศจึงดูง๋อย ๆ เพราะเดี๋ยวนี้งานไม้แกะสลักพวกนี้ก็มีจำหน่ายแล้วที่ตลาดนัดจตุจักร หรือจะสั่งซื้อทางออนไลน์ก็ได้ตามสะดวก ลูกค้าชาวไทยจึงนิยมเข้ามาซื้องานไม้ถึงแหล่งที่นี่น้อยกว่าพวกนักท่องเที่ยวต่างชาตินะครับ
ผมเลือกซื้อนกยูงประดับกระจกสีจากที่นี่ได้ตัวหนึ่ง ราคาถูกมาก 450 บาท เคยไปถามที่กรุงเทพฯ ได้ความว่าขายตัวละ 700 - 800 บาท ได้ของฝากถูกใจก็เลยจัดของฝากพร้อมสัมภาระที่ไม่ใช้แล้วส่ง kerry กลับบ้านไม่เลย เวลาบินขึ้นเครื่องพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเสียค่าโหลดของใต้เครื่อง ค่าจัดส่งอยู่ที่ราคา 175 บาท ถูกกว่าเสียค่าโหลดของใต้เครื่องอีกแถมไม่ต้องถือของให้เมื่อยตุ้มด้วย ฮิฮิ...
ต่อมาผมขี่รถไปเที่ยว ม่อนแจ่ม ระหว่างเสิร์จหาข้อมูลอยู่เห็นมีร้านอาหารริมลำธารน้ำตกแม่สาที่วิวดีบรรยากาศปัง น่าสนใจมาก เห็นคนเชียงใหม่ชอบนิยมไปนั่งกินกัน เลยถือโอกาสแวะไปชิมอาหารพร้อมชมบรรยากาศที่ร้านอาหารนี้สักหน่อย ร้านนี้อยู่ริมลำธารน้ำตกแม่สามีชื่อว่า ร้านน้ำเหนือนั่งเล่น ตัวร้านตั้งอยู่ริมถนนทางซ้ายมือถ้าเราขี่รถจากเชียงใหม่ไปม่อนแจ่ม
ร้านอาหารริมลำธารน้ำตกแถวแม่สานี้ที่เห็นอยู่น่าจะมี 4 ร้าน อยู่ติด ๆ กันเลย แต่ร้านนี้ดูท่าจะมีชื่อเสียงมากกว่าเห็นแชร์กันในโลกโซเชียลกันมากมาย ร้านจะเปิดขายช่วง 8 โมงเช้าและปิดให้บริการเวลา 2 ทุ่มนะครับ
ผมมาช่วง 5 โมงเย็น บรรยากาศร้านดูเงียบสงบ มีแขกเข้ามานั่งรับประทานอาหารแค่ 2 โต๊ะ ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวดี ที่นี่จะมีที่นั่ง 2 แบบ แบบแรกอยู่ข้างบนติดครัว และใกล้ถนน กับแบบที่ 2 ที่จะขายดีกว่าคือ แบบติดริมน้ำที่ผมนั่ง ลักษณะทำเป็นแคร่เล็ก ๆ ยื่นลงไปในลำธารน้ำตก เราสามารถเอาขาจุ่มลงไปในน้ำได้ น้ำใสไหลเย็นดีจริง ๆ
ผมสั่งอาหารจำพวกส้มตำ ลาบ และข้าวเหนียว สั่งได้ไม่นานก็มาเสิร์ฟแล้ว อาหารออกไวดีนะ แถมรสชาติอร่อยกลมกล่อมสมกับคอมเม้นท์ที่แชร์กันในโลกโซเชียล ราคาอาหารไม่แพงอย่างที่คิดราคาธรรมดามาก ต้องเรียกว่า "ราคาเหมาะสม อาหารอร่อย บรรยากาศปัง 555"
ที่นี่มีแจกตะคันจุดไฟ และสเปย์กันยุงให้พร้อมเพื่อนั่งยาวถึงมืด ผมรับประทานอาหารที่นี่ไม่นานมากเพราะกลัวว่าจะไปไม่ทันดูพระอาทิตย์ตกที่ม่อนแจ่มซะก่อน เลยรีบทำเวลาหน่อยช่วงนี้
ผมขี่รถจากร้านน้ำเหนือนั่งเล่นขึ้นไปทางม่อนแจ่ม ช่วงเย็นยามนี้นักท่องเที่ยวทยอยกันขึ้นไปถ่ายรูปที่ม่อนแจ่มและบางส่วนก็ขับรถขึ้นไปนอนค้างบนรีสอร์ทต่าง ๆ ของม่อนแจ่มเป็นจำนวนมาก แต่โชคดีผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปทำให้ขี่ง่ายรถไม่ติดแม้ทางจะแคบก็ตาม ผมขี่รถจากม่อนแจ่มขึ้นไปยังม่อนล่อง ซึ่งอยู่ห่างจากม่อนแจ่มไปราว 5 ก.ม. ถนนช่วงสุดท้ายก่อนถึงม่อนล่องเหมาะกับการเอารถโฟวิล หรือรถกระบะลุย ๆ เขามา เพราะทางไม่ดี มีแค่ทางซีเมนต์แคบ ๆ ทำไว้ให้รถมอเตอร์ไซค์ขี่เข้าไปได้ รถยนต์ไม่สมควรขับเข้ามาเลยนะครับ ไม่รอดแน่ทั้งชันและเป็นร่องลึก