หญิงแกร่ง ลุยเดี่ยว เที่ยวนิวยอร์คครั้งแรก (New York first time)

Part 0 : จุดเริ่มต้นของการผจญภัย
สวัสดีค่ะ เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ในตอนนี้ เลยทำให้มีเวลาว่างมาเล่าเรื่องราว แบ่งปันประสบการณ์ที่เราจะจดจำไม่มีวันลืมเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เราได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองใหญ่ในต่างแดนคนเดียวเป็นครั้งแรก และเราเชื่อว่าจะมีครั้งต่อๆไปอีกแน่นอนน การไปนิวยอร์คคนเดียวครั้งนี้ ทำให้เราได้เจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอหลายๆเรื่องค่ะ เป็นอะไรที่ถือว่าเป็นรสชาติชีวิตมากๆ ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตเลยค่ะ เราหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆนะคะ ^_____^

จุดเริ่มต้นของการเดินทางของเราในครั้งนี้คือ หลังจากที่เราเรียนจบเราได้วางแผนเอาไว้ว่าเราอยากจะพัก คล้ายๆเป็นการ Take a gap after graduated นั่นแหละค่ะ เราอยากจะออกเดินทางไปที่ไหนซักที่นึงเพื่อหาแรงบันดาลใจ ก็คนมันเหนื่อยจากการเรียนอ่ะเนอะ ก็อยากจะพัก อยากจะเที่ยวให้เต็มที่ก่อนที่จะเริ่มต้นวัยทำงาน และประเทศที่เราเลือกก็คือ "ประเทศสหรัฐอเมริกา" ค่ะ

ประเทศนี้น่าจะเป็น Dream country ของใครหลายๆคน ที่ซักครั้งนึงในชีวิตก็อยากจะมาเยือนใช่มั้ยคะ.. เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่การไปประเทศนี้ มันจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงพอสมควรสำหรับนศ.ฐานะปานกลางอย่างเรา และเราเองก็ไม่อยากจะรบกวนพ่อกับแม่เรามาก เราเลยตัดสินใจเข้าโครงการ Work and Travel เพื่อที่จะทำงานแล้วนำเงินที่หามาได้เองไปเที่ยวค่ะ อย่างไรก็ตามตอนแรกพ่อเราก็ต้องลงทุนให้เราก่อนอยู่ดีแฮะๆ แต่สุดท้ายแล้วเราก็สามารถหาเงินมาคืนทุนให้พ่อเราได้ มีเงินพอเที่ยว แถมยังมีเงินเก็บกลับบ้านมาอีกจำนวนนึงอีกด้วยยย

ปล.เพื่อนๆหรือน้องๆคนไหนสงสัยเกี่ยวกับโครงการ Work and Travel เราได้ทำคลิปอธิบายและบอกเล่าประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าต่างๆไว้ใน Youtube นะคะ สามารถดูกันได้เผื่อจะเป็นประโยชน์น้าา เราแทรกลิ้งไว้ใน Spoil นะคะ
 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความจริงแล้วก่อนหน้าที่เราจะไป New York หลังจากที่เราทำงานอย่างบากบั่นมาประมาณ 3 เดือน เราก็ได้ไปเที่ยว West Coast road trip กับเพื่อนๆที่ไป WAT ด้วยกันค่ะ แล้วหลังจากนั้น เพื่อนเราก็แยกไปเที่ยวญี่ปุ่น ส่วนเราเกิดติสอะไรก็ไม่รู้ค่ะ คือคิดว่ามาอเมริกาทั้งทีก็ต้องไปเหยียบ New York ซักครั้งสิ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสได้มาอีกเมื่อไหร่ เราเลยตัดสินใจไปคนเดียว ลุยเดี่ยวเลยค่ะ ถามว่ากลัวมั้ยก็มีกลัวนะคะ เพราะสาวน้อยตัวคนเดียวอย่างเรา ไปเที่ยวเมืองใหญ่อย่างมหานครนิวยอร์คจะรอดมั้ย แต่เรากลัวไม่ได้เที่ยวมากกว่าค่ะ555555555 เลยตัดสินใจเอาวะ เป็นไงเป็นกันน!
ลุยยยยยยยย
___________________________________________________________________________________

Part 1 : New York is calling
หลังจากที่เราแยกกับเพื่อนที่ Los Angles, California เราก็บินมาต่อเครื่องไป New York คนเดียวที่ Dallas, Taxes ค่ะ ในตอนนั้นที่จองตั๋วคือพี่ๆ Agency จองตัวให้ตั้งแต่แรกก่อนมาอเมริกาค่ะ แล้วไฟลท์นี้น่าจะเป็นไฟลท์ที่ราคาถูกกก แต่ถ้าเพื่อนๆจะจองไฟลท์ที่บินตรงเลยก็มีนะคะ แต่แล้วแต่จังหวะด้วย จังหวะนั้นคือเอาไฟลท์ที่ราคาถูกสุดค่ะ555555555
และแล้วเราก็มาถึง New York ค่ะ เยยยยย้ หลังจากที่นั้งเครื่องบินมาร่วมวัน เหนื่อยมาก ปวดหลังมากกก5555555555 สนามบินใน New York จะมีทั้งหมด 3 ที่ค่ะ คือ  John F. Kennedy International Airport (JFK), LaGuardia Airport (LGA) และ Newark Liberty International Airport (EWR). เราบินมาลงที่ John F. Kennedy International Airport (JFK) ค่ะ เพราะเครื่องบินที่บินภายในประเทศส่วนมากจะมาลงที่สนามบินนี้
   
เวลาที่เรามาถึงสนามบินก็ประมาณ 5 โมงเย็นแล้วค่ะ เราเลยตัดสินใจเข้าที่พักก่อนเลยเพราะเหนื่อยจากการเดินทางและคิดว่าเวลานี้ไปไหนก็คงไม่ทัน ต้องบอกก่อนเลยว่าการที่เรามา New York ครั้งนี้ เรามีแค่รายชื่อสถานที่ที่เราจะไปเท่านั้นค่ะ เพราะที่ผ่านมาเราทำงานหนักมากและก่อนหน้านี้ก็วางแผนการเดินทางกับเพื่อนๆช่วง Roadtrip เลยไม่มีเวลามานั้งวางแผนการเดินทางของตัวเองที่ New York เลย ซึ่งอยากจะบอกเพื่อนๆว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลยนะคะ55555555555
บทเรียนที่ 1 : การที่เราจะไปเที่ยวที่ไหนซักที่นึงเราควรจะมีการวางแผนในทุกๆอย่างค่ะ ควรหาข้อมูลวาง Plan A Plan B เอาไว้ ยิ่งเป็นต่างแดนด้วยยิ่งต้องวางแผนดีๆเลยค่ะ เพราะการวางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง มันจะทำให้เราไม่เสียเวลาและเที่ยวได้คุ้มค่าที่สุด แต่ถ้าหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นจริงๆ เราก็ควรที่จะมีสติค่ะ เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ 

เราจองที่พักผ่านแอพ Airbnb ค่ะ เพราะราคาถูกและที่พักก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร อยู่ได้สบายมากๆ เราตัดสินใจเลือกที่พักที่ใกล้สนามบินเพราะกลัวตกเครื่องค่ะซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรทำตามเป็นอย่างยิ่งงงง เพราะสนามบินอยู่ Queens แต่ที่ท่องเที่ยวหลักๆของ New York จะอยู่ฝั่ง Manhattan และ Brooklyn ซึ่งทำให้เดินทางเหนื่อยมากๆค่ะ แต่ถามว่าลำบากมั้ย ก็ไม่ได้ลำบากอะไร เพราะ Subway ที่ New York คือทุกที่แทบจะเชื่อมกันหมดเลยค่ะ เพียงแต่ว่าแต่ละที่คือห่างกันมากพอสมควรเพราะ New York มันใหญ่มากจริงๆ ทำให้เสียเวลาในการเดินทางพอสมควรเลย T______T
บทเรียนที่ 2 : ความจริงแล้วการหาที่พักที่ถูกต้องควรจะพักใกล้สถานที่ท่องเที่ยวค่ะ เพราะในวันที่เราเที่ยวเราจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล ไม่เหนื่อยมาก และไม่เสียเวลาด้วยค่ะ ยอมฮึ่บเผื่อเวลาแค่วันไปกับวันกลับดีกว่า
การเดินทางจากสนามบินไปที่พักง่ายมากๆค่ะ เรียก Uber สิคะ รออะไร55555555555 หรือจะใช้ Lyft ก็ได้ค่ะ ราคาจะถูกกว่า Uber อยู่พอสมควรเลย
แต่พื้นที่การให้บริการไม่กว้างขวางเท่ากับ Uber นะคะ อย่างใน New Yorkนี้ก็ไม่มี Lyft เลยค่ะ หรืออาจจะมีในบางพื้นที่ แต่น้อยกว่า Uber แน่ๆ เพราะงั้นก่อนที่เพื่อนๆจะไปเที่ยวอเมริกา อย่าลืมโหลดแอพ 2 แอพนี้ไว้นะคะ สะดวกมากๆ หน้าตาแอพก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ
                    
พอกลับมาถึงที่พักก็ไม่รีรอที่จะอาบน้ำแล้ววางแผนของวันพรุ่งนี้เลยค่ะว่าเราจะต้องเดินทางไปอะไรยังไง ใช้เวลาเท่าไหร่ เป็นการวางแพลนเที่ยวที่กระชั้นชิดมาก ห้ามนำไปทำตามเลยนะคะ5555555555555555 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่