https://www.naewna.com/local/486027
หนุ่มคลั่งถูกพี่สาวยกเลิกสิทธิ์เงิน5พัน ตร.พังประตูช่วยขณะกำลังแขวนคอตาย
วันจันทร์ ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2563, 09.54 น.
13 เมษายน 2563 เมื่อเวลา 02.00 น. ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งว่า มีชายคลั่งเสพยาอย่างหนัก และถืออาวุธปืนอยู่ในมือ ขู่ยิงใส่ผู้เข้าใกล้ตลอดเวลา ที่บ้านเลขที่ 102 ถนนรัตนอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่
ทาง พ.ต.ท.มาชา แก้วทอง รอง ผกก. และ พ.ต.ท.ธนวัฒน์ ใบหมาดปันจอ สวป.จึงได้นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเวหาและชุดวิหคของงานปราบปราม สภ.หาดใหญ่ รวม 10 นายได้ เข้าไปตรวจสอบและควบคุมเหตุการณ์ โดยพบว่าผู้ที่คุ้มคลั่งได้ขังตัวอยู่ในห้องนอนชั้นสองของบ้าน และล็อคประตูเอาไว้ ทราบชื่อนายปณภัทร หนูทอง อายุ 40 ปี
ทั้งเจ้าหน้าที่และนางอนงค์ หนูทอง ผู้เป็นแม่พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นผลและคุยไม่รู้เรื่อง เพราะอยู่ในอาการมึนเมาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และระหว่างนั้นได้ยินเสียงคล้ายกันมีการเหนี่ยวไกปืนเพื่อยิงตัวเอง แต่กระสุนด้านและมีเสียงกระสุนปืนตกบนพื้น เหมือนกับเปลี่ยนกระสุนใหม่
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไปภายในห้องก็พบว่า นายปณภัทร์ ได้ใช้เชือกผูกคอตัวเองกับขื่อหลังคา จึงได้ช่วยปลดเชือกนำตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย ในสภาพที่ลำคอมีรอยแดง และพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ตกอยู่ที่พื้นที่ ในลำกล้องมีกระสุนปืน 9 มม.1 นัด และกระสุนปืน 9 มม.อีก 2 นัด กระสุนปืน .357 อีก 1 นัดตกอยู่ที่พื้นและอุปกรณ์เสพยาไอซ์1ชุด
จากนั้นได้ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักพร้อมกับสอบถามสาเหตุที่คุ้มคลั่ง ซึ่งนายปณภัทร ยอมรับว่าในช่วงเที่ยงได้เสพยาไอซ์มาด้วย และก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์ 3 กระป๋อง เพราะเครียดและไม่พอใจพี่สาวที่ไปยกเลิกเงินเยียวยาโควิด-19 จำนวน 5,000 บาท ซึ่งตนได้ใช้โทรศัพท์พี่สาวลงทะเบียนไว้ แต่เมื่อถามพี่สาวว่ายกเลิกทำไมก็ไม่ยอมบอก ตนจึงเสพไอซ์และดื่มเบียร์เข้าไปเพื่อระบายอารมณ์
นายปณภัทร บอกว่า ปกติมีอาชีพขายน้ำมันขวดอยู่หน้าบ้านและเดือดร้อนเหมือนกัน จึงได้ลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาท แต่พี่สาวก็มายกเลิกสิทธิ์ของตนไปโดยไม่มีเหตุผล
ด้านคดีเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 นอกจากนี้ทราบว่าก่อนหน้านี้ก็เคยใช้อาวุธปืนขู่ยิงพี่ชายมาแล้วครั้งหนึ่ง
เข้าใจชัดเอาเป็นว่า เข้าใจจริง ๆ
หนุ่มคลั่งถูกพี่สาวยกเลิกสิทธิ์เงิน5พัน ตร.พังประตูช่วยขณะกำลังแขวนคอตาย
วันจันทร์ ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2563, 09.54 น.
13 เมษายน 2563 เมื่อเวลา 02.00 น. ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งว่า มีชายคลั่งเสพยาอย่างหนัก และถืออาวุธปืนอยู่ในมือ ขู่ยิงใส่ผู้เข้าใกล้ตลอดเวลา ที่บ้านเลขที่ 102 ถนนรัตนอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่
ทาง พ.ต.ท.มาชา แก้วทอง รอง ผกก. และ พ.ต.ท.ธนวัฒน์ ใบหมาดปันจอ สวป.จึงได้นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเวหาและชุดวิหคของงานปราบปราม สภ.หาดใหญ่ รวม 10 นายได้ เข้าไปตรวจสอบและควบคุมเหตุการณ์ โดยพบว่าผู้ที่คุ้มคลั่งได้ขังตัวอยู่ในห้องนอนชั้นสองของบ้าน และล็อคประตูเอาไว้ ทราบชื่อนายปณภัทร หนูทอง อายุ 40 ปี
ทั้งเจ้าหน้าที่และนางอนงค์ หนูทอง ผู้เป็นแม่พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นผลและคุยไม่รู้เรื่อง เพราะอยู่ในอาการมึนเมาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และระหว่างนั้นได้ยินเสียงคล้ายกันมีการเหนี่ยวไกปืนเพื่อยิงตัวเอง แต่กระสุนด้านและมีเสียงกระสุนปืนตกบนพื้น เหมือนกับเปลี่ยนกระสุนใหม่
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไปภายในห้องก็พบว่า นายปณภัทร์ ได้ใช้เชือกผูกคอตัวเองกับขื่อหลังคา จึงได้ช่วยปลดเชือกนำตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย ในสภาพที่ลำคอมีรอยแดง และพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ตกอยู่ที่พื้นที่ ในลำกล้องมีกระสุนปืน 9 มม.1 นัด และกระสุนปืน 9 มม.อีก 2 นัด กระสุนปืน .357 อีก 1 นัดตกอยู่ที่พื้นและอุปกรณ์เสพยาไอซ์1ชุด
จากนั้นได้ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักพร้อมกับสอบถามสาเหตุที่คุ้มคลั่ง ซึ่งนายปณภัทร ยอมรับว่าในช่วงเที่ยงได้เสพยาไอซ์มาด้วย และก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์ 3 กระป๋อง เพราะเครียดและไม่พอใจพี่สาวที่ไปยกเลิกเงินเยียวยาโควิด-19 จำนวน 5,000 บาท ซึ่งตนได้ใช้โทรศัพท์พี่สาวลงทะเบียนไว้ แต่เมื่อถามพี่สาวว่ายกเลิกทำไมก็ไม่ยอมบอก ตนจึงเสพไอซ์และดื่มเบียร์เข้าไปเพื่อระบายอารมณ์
นายปณภัทร บอกว่า ปกติมีอาชีพขายน้ำมันขวดอยู่หน้าบ้านและเดือดร้อนเหมือนกัน จึงได้ลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาท แต่พี่สาวก็มายกเลิกสิทธิ์ของตนไปโดยไม่มีเหตุผล
ด้านคดีเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 นอกจากนี้ทราบว่าก่อนหน้านี้ก็เคยใช้อาวุธปืนขู่ยิงพี่ชายมาแล้วครั้งหนึ่ง