ชาวไทยมุสลิมกลุ่มดะวะห์ ที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย ภายหลังจากการไปประชุม การดะวะห์ที่อินโดนิเซีย ได้แสดงความดื้อดึงและ
เห็นแก่ตัวและก็ ได้รับคำตำหนิจากชาวไทย ทุกหัวระแหง ตามข่าวและสื่อมวลชน, สื่อโซเชียล ต่างๆ พวกเขาได้ทำให้สังคมมุสลิม
อับอาย แต่ว่าการประณาม มุสลิมกลุ่มดะวะห์นี้ เป็นเพียงแต่ การประณามผู้ที่เป็นพาหะของโรคเท่านั้น ซึ่งไม่มีผลเท่าใด นอกจากจะเป็นการ
สร้างความแตกแยกภายในสังคมไทยเรา เพราะการประณามมุ่งแต่กลุ่มมุสลิมโดยเฉพาะ นอกเหนือไปจาก ชาวไทยกลุ่มอื่นๆ ที่มีการ
กระทำที่ดิ้อดึง และอาจจะมี การแพร่เชื้อ Covid-19 จำนวน 152 คน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า กลุ่มไทยมุสลิมดะวะห๋เหล่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองกลุ่มนี้ทำผิดกฏหมายทั้งคู่ "มีความดิ้อดึงและเห็นแก่ตัวเช่นกัน" แต่กลุ่มหนึ่งถูกด่าประณาม เนื่องจากความ
ลำเอียงในสังคมของเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และที่สำคัญที่สุด คือ คนไทย152 กลุ่มนี้ ที่เข้ามาทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทางการสาธารณสุข ไม่มีโอกาสได้ทราบเลยว่า คนกลุ่มนี้มีการติด
เชื้อหรือไม่ และหากมี จะมีจำนวนเท่าใด? และขณะนี้พวกนี้เขาไปอยํ่กันที่ไหน?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/874494
แต่ผู้ที่สมควรจะได้รับการประณามอีกกลุ่มก็คือ ผู้ที่บริโภคเนื้อเนื้องูและเนื้อค้างคาว และเจ้าของ ตลาดสดขายเนื้อสัตว์ป่า ในเมือง หวู่ฮัน
ประเทศจีน แต่ก็อีกนั้นแหละ เขาผู้กินสัตว์และค้าขาย เป็นเพียงแค่ พาหะของโรคดังกล่าว เขาทำไปด้วยความ Ignoranceและขาดปัญญา
แต่ผู้ผิดที่ชาวอเมริกัน เขากำลังประณามในขณะนี้ ก็คือ CHINA และองค์การอนามัยโลก ที่ได้สมรู้ร่วมคิดกันปกปิดความ ร้ายแรง ของ
โรคระบาด หวู่ฮันไวรัสหรือ Covid-19
หากปราศจากการหลอกลวงของ "จีน" และความร่วมมือขององค์การอนามัยโลก WHO ที่ตกเป็นเครื่องมือของจีน ในการเป็นกระบอกเสียง
ช่วยจีนปกปิดความร้ายแรงของเชื้อ หวู่ฮันไวรัส(Covid-19) โดยการให้คำอธิบายต่อชาวโลกว่า โรคหวู่ฮันไวรัส(Covid-19) นี้ เป็นไวรัสที่
มาจากสัตว์และติดต่อมาถึงคนเท่านั้น, ไม่มีการติดต่อ ระหว่าง คน จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง การแพร่กระจายของหวู่ฮันไวรัส(Covid-19)
ก็คงจะถูกควบคุมอยู่ในเฉพาะ เมือง หวู่ฮัน หรือ ภายในประเทศจีนเท่านั้น และจะไม่แพร่กระจายไปทั่วโลก สร้างความเดือดร้อนทำลายชีวิต
มนุษย์และเศรษฐกิจของทุกๆประเทศ
เมื่อราวๆเดือน วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2020 นพ.หลี่เหวินเหลียน คือแพทย์ที่พยายามให้เสียงเตือนว่ากลุ่มที่ติดเชื้อไวรัสใน “จังหวัดหวู่ฮั่น” มี
ปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถที่จะควบคุมได้ หลังจากที่เขากล่าวเตือนและในคืนวันนั้นเอง เขาก็ถูกเรียกตัวไปตำหนิติเตียนจากคณะ
พรรคคอมมิวนิสต์ในกลางดึก นพ. หลี่เหวินเหลียน เสียชีวิตหลังจากที่ ได้ติดเชื้อ หวู่ฮั่นไวรัส (Covid-19)
ถึงแม้กระนั้นก่อนการตายของ นพ.หลี่เหวินเหลียน เขาได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาวจีนจำนวนมาก หลังจากข่าวได้เปิดเผยออกมาว่าเขาได้รับ
การรักษา ตัวจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ. ในต้นเดือนมกราคมเขาถูกเรียกตัวโดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และตำรวจและถูกบังคับให้ลงนามในแถลง
การณ์ประณามการเตือนของเขาว่าเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลและผิดกฎหมาย
ในขณะที่เขาป่วย เขาได้เขียนบอกเพื่อนร่วมชั้น ในโรงเรียนแพทย์ เกี่ยวกับ เรื่องนี้ผ่าน Chat room online เขาได้กล่าวถึง ความร้ายแรงของ
หวู่ฮันไวรัส(Covid-19) หรือ ”โคโรนาไวรัส” แพทย์หลี่เหวินเหลียน เป็นหนึ่งในจำนวนชาวจีน กว่า 600 คนที่เสียชีวิตจากโรคระบาดของโรค
“หวู่ฮั่นไวรัส” หรือ Covid-19 ซึ่งตอนนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก
พรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ปิดปาก หมอ และ พยาบาล รวมทั้งนักข่าว ที่หายสาบศูนย์ไป เนื่องจาก การเปิดเผยเรื่องการระบาด
ของ หวู่ฮันไวรัส(Covid-19) ในจีนโดยผ่าน internet และเมื่ออเมริกาทราบข่าวนี้ ได้เสนอให้ความช่วยเหลือ ในการควบคุม
หวู่ฮั่นไวรัส (Covid-19) เพื่อให้การระบาด จำกัดอยู่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น แต่ว่าพรรคคอมมิสนิสต์จีน ปฏิเสธและไม่ยอมให้แพทย์และ
นักวิทยาศาสตร์การแพทย์จากกองควบคุมโรคติดต่อ CDC ของ อเมริกาเข้าประเทศจีน แต่ยอมรับให้ แพทย์จาก WHO เข้าไปเท่านั้น
ทั้งนี้อาจจะเพราะว่า องค์การอนามัยโลก W-H-O is in China's pocket?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ รายละเอียดขั้นตอนเวลาที่ครอบคลุมการโกหกของรัฐบาลจีนในเรื่อง "หวู่ฮันไวรัส(Covid-19)"
https://www.nationalreview.com/the-morning-jolt/chinas-devastating-lies/
ความลำเอียงของสังคมตั้งแต่ ระดับชาวบ้าน ไปจนถึงระดับชาติมหาอำนาจ