แมนยูก็โดนมาแล้ว!เปิดบันทึก 5 สุดยอดเกม ชปล. ของ "เมสซี่" (มีคลิป)
ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวยิงอัจฉริยะของ บาร์เซโลน่า ได้ฝากความทรงจำดีๆ ไว้มากมายในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นถ้วยที่เจ้าตัวได้มาครองแล้วถึง 4 สมัย และนี่คือ 5 สุดยอดเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์วัย 32 ปี เค้นฟอร์มอันน่าทึ่งออกมา
- บาร์เซโลน่า 4-1 อาร์เซน่อล (รอบก่อนรองฯ นัดสอง 2009/10)
เกมแรก บาร์ซ่า บุกไปเสมอ อาร์เซน่อล สุดมันส์ 2-2 ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งถือว่าได้เปรียบพอสมควรในการกลับมาเตะเลกสองที่บ้านตัวเอง แต่กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 18 จาก นิคลาส เบนท์เนอร์ และหลังจากนั้นคือ เมสซี่ โชว์!!!
เมสซี่ เหมาทำคนเดียวสี่ประตู พร้อมช่วย บาร์ซ่า พลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเข้าสู่รอบตัดเชือก ด้วยสกอร์รวมสองนัด 6-3 ซึ่งแต่ละประตูของ เมสซี่ ในเกมนี้ บอกเลยว่าสุดๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะลูกแฮตทริกที่เจ้าตัวหลุดเข้าไปยกบอลข้ามตัว มานูเอล อัลมูเนีย นายด่าน "ไอ้ปืนใหญ่" อย่างเหนือชั้น ส่วนลูกสุดท้ายเล่นเอา อัลมูเนี่ย Dark ใหม่เลยทีเดียว
- เรอัล มาดริด 0-2 บาร์เซโลน่า (รอบรองฯ นัดแรก 2010/11)
ถือเป็นศึก "เอล กลาซิโก" เวอร์ชั่น แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเกมนี้สกอร์อยูที่ 0-0 จนเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย และก็เป็น เมสซี่ ที่กระทุ้งระยะเผาขนให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 76 ก่อนมาจัดอีกลูกเป็นประตูปิดท้าย 2-0 ในนาทีที่ 87 ซึ่งบอกเลยว่า ประตูนี่สุดยอดมากๆ เพราะ เมสซี่ โซโล่เดี่ยว ลากบอลผ่านผู้เล่น "ราชันชุดขาว" ถึง 3-4 ราย ก่อนล้มตัวแปบอลผ่านการป้องกันของ อีเกร์ กาซียาส อย่างสุดยอด ทำให้ บาร์เซโลน่า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถือว่าได้เปรียบอย่างมหาศาล ก่อนกลับไปเตะเลกสองที่ คัมป์ นู ซึ่งจบลงด้วยการเจ๊า 1-1 (บาร์ซ่า เข้ารอบชิงฯ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-1)
- บาร์เซโลน่า 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (รอบชิงฯ 2010/11)
ทั้งสองทีมโคจรมาเจอกันในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง และผู้ชนะก็ยังคงเป็นทีมเดิม ไม่ต่างกับเมื่อฤดูกาล 2008/09 ซึ่งเกมนั้น เมสซี่ ก็เป็นคนโหม่งทำประตูย้ำชัย 2-0 แต่หากพูดถึงในแง่ของฟอร์มการเล่นแล้ว รอบชิงดำฤดูกาลที่ว่านี้ ดูดีกว่าเยอะ เพราะเจ้าตัวปั่นป่วนแนวรับ "ปีศาจแดง" ได้ตลอดทั้งเกม และเป็นคนทำประตูให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำ 2-1 ซึ่งถือว่าสำคัญมากๆ แถมเป็นลูกยิงสุดเฉียบทรงพลังจากระยะ 25 หลา ก่อนที่ ดาบิด บีย่า จะมาปั่นโค้งๆ เป็นประตูปิดท้ายให้ทีมคว้าชัยด้วยสกอร์ 3-1 ซึ่งจุดเริ่มต้นก็มาจาก เมสซี่ ที่โยกตัวหลอกเล่นงาน นานี่ จนเสียท่า
- บาร์เซโลน่า 7-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง 2011/12)
แม้เลกแรกบุกไปคว้าชัย 3-1 แต่ บาร์เซโลน่า ก็ยังคงใส่เต็มสูบในเกมเลกสองที่ คัมป์ นู และจบด้วยการไล่ยำ 7-1 พร้อมตบเท้าเข้าสู่รอบก่อนรองฯ ด้วยสกอร์รวมสองนัดสุดมโหฬาร 10-2 แต่ประเด็นสำคัญของเกมนี้คือ เมสซี่ จัดหนักยิงคนเดียว 5 ประตู!!! ซึ่งถือเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทำ 5 ลูกในเกมเดียว และมีถึงสองลูกที่ เมสซี่ ทำประตูด้วยลูกยิงแบบยกบอลข้ามตัวนายทวาร ซึ่งผู้รักษาประตูของ เลเวอร์คูเซ่น ตอนนั้น ก็คือมือหนึ่งคนปัจจุบันของ อาร์เซน่อล อย่าง แบร์นด์ เลโน่ นั่นเอง
- บาร์เซโลน่า 3-0 บาเยิร์น มิวนิค (รอบรองฯ นัดแรก 2014/15)
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คัมแบ็กสู่ถิ่น คัมป์ นู ในฐานะกุนซือ บาเยิร์น แต่สุดท้ายโดน เมสซี่ และผองเพื่อน ให้การต้อนรับชนิดลืมไม่ลง ซึ่งจริงๆ แล้วเกมนี้ "เสือใต้" ยันเสมอ 0-0 ได้จนเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แต่ เมสซี่ ก็แผลงฤทธิ์ ทำประตูให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 77 ด้วยการกดเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายจากบริเวณกรอบเขตโทษ
หลังจากนั้นแค่ 3 นาที บาร์ซ่า ก็หนีเป็น 2-0 ด้วยการทำประตูที่หลายๆ คนน่าจะยังจำได้ดี ที่ เมสซี่ เล่นงาน เยโรม บัวเต็ง จนหงายหลัง ก่อนหลุดเข้าไปงัดบอลผ่านตัว มานูเอล นอยเออร์ แบบสุดเหนือชั้น ก่อนที่ บาร์ซ่า จะมาได้ประตูย้ำชัย 3-0 จากการหลุดเข้าไปยิงของ เนย์มาร์ นาทีที่ 90+4 ถือความได้เปรียบอย่างมหาศาลก่อนบุกไปเตะเกมเลกสองที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า (บาร์ซ่า บุกไปแพ้ 2-3 แต่เข้ารอบชิงฯ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-3)
credit ; www.siamsport.co.th
ย้อนดูความเทพของ เมสซี่ เมื่อ 10 ปีที่แล้วกด4ตุงใส่อาร์เซน่อล
credit : www.siamsport.co.th
กาก้าเผยอยากเลือกใครติดทีมตัวเองมากกว่าระหว่างเมสซี่-โรนัลโด้
ริคาร์โด้ กาก้า โดนถามว่าถ้าเป็นเขาจะเลือกใครมาติดทีมระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเจ้าตัวเลือก เมสซี่ โดยบอกว่าแข้งชาวอาร์เจนไตน์มีสไตล์การเล่นที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็ชม โรนัลโด้ เช่นกันว่ามีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งสุดๆ
ริคาร์โด้ กาก้า อดีตยอดกองกลางชาวบราซิเลียน แสดงความเห็นว่าถ้าให้ตนจัดทีมของตัวเองแล้วนั้น ตนขอเลือก ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิง บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน มาร่วมทีมมากกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส
กาก้า กับ โรนัลโด้ เคยร่วมงานด้วยกันที่ เรอัล มาดริด แต่ดาวเตะเลือดแซมบ้าไม่ค่อยมีผลงานที่ยอดเยี่ยมเท่าไหร่กับ "ราชันชุดขาว" ต่างกับอีกฝ่ายที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ก่อนที่สุดท้าย กาก้า จะย้ายออกจากที่นั่นแล้วกลับไปอยู่กับ เอซี มิลาน ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2013
ลังจากโดนถามว่าเขาจะเลือกใครติดทีมของตัวเองระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ในระหว่างร่วมกิจกรรมถาม-ตอบกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แล้วนั้น กาก้า ก็ตอบว่า "ผมเคยเล่นร่วมกับ คริสเตียโน่ มาแล้ว เขาเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์มากๆ แต่ผมคงจะเลือก เมสซี่ มากกว่า เขา (เมสซี่) เป็นอัจฉริยะ เขามีพรสวรรค์ที่สุดยอดอย่างแท้จริง แนวทางการเล่นของเขามันน่าเหลือเชื่อมากๆ"
"คริสเตียโน่ เป็นเหมือนเครื่องจักร มันไม่ใช่แค่ว่าเขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง, ทรงพลัง และมีความเร็วสูงเท่านั้น แต่สภาพจิตใจของเขาก็แข็งแกร่งสุดๆ เช่นกัน เขาอยากเป็นฝ่ายชนะและเล่นแบบดุดันอยู่เสมอ เขาอยากเป็นคนที่เจ๋งที่สุด ซึ่งสำหรับผมแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขามี ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลน่ะ ทั้งคู่จะต้องมีชื่ออยู่ใน 5 อันดับแรก (ของนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล) อย่างแน่นอน พวกเราโชคดีมากๆ ที่ได้เห็นฝีเท้าของทั้ง 2 คน"
cr : www.siamsport.co.th
แมนยูก็โดนมาแล้ว! เปิดบันทึก 5 สุดยอดเกมชปล. ของ เมสซี่ (คลิป) & ย้อนดูความเทพของเมสซี่ เมื่อ 10 ปีที่แล้วกด 4 ตุงใส่ปืน
ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวยิงอัจฉริยะของ บาร์เซโลน่า ได้ฝากความทรงจำดีๆ ไว้มากมายในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นถ้วยที่เจ้าตัวได้มาครองแล้วถึง 4 สมัย และนี่คือ 5 สุดยอดเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์วัย 32 ปี เค้นฟอร์มอันน่าทึ่งออกมา
- บาร์เซโลน่า 4-1 อาร์เซน่อล (รอบก่อนรองฯ นัดสอง 2009/10)
เกมแรก บาร์ซ่า บุกไปเสมอ อาร์เซน่อล สุดมันส์ 2-2 ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งถือว่าได้เปรียบพอสมควรในการกลับมาเตะเลกสองที่บ้านตัวเอง แต่กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 18 จาก นิคลาส เบนท์เนอร์ และหลังจากนั้นคือ เมสซี่ โชว์!!!
เมสซี่ เหมาทำคนเดียวสี่ประตู พร้อมช่วย บาร์ซ่า พลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเข้าสู่รอบตัดเชือก ด้วยสกอร์รวมสองนัด 6-3 ซึ่งแต่ละประตูของ เมสซี่ ในเกมนี้ บอกเลยว่าสุดๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะลูกแฮตทริกที่เจ้าตัวหลุดเข้าไปยกบอลข้ามตัว มานูเอล อัลมูเนีย นายด่าน "ไอ้ปืนใหญ่" อย่างเหนือชั้น ส่วนลูกสุดท้ายเล่นเอา อัลมูเนี่ย Dark ใหม่เลยทีเดียว
- เรอัล มาดริด 0-2 บาร์เซโลน่า (รอบรองฯ นัดแรก 2010/11)
ถือเป็นศึก "เอล กลาซิโก" เวอร์ชั่น แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเกมนี้สกอร์อยูที่ 0-0 จนเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย และก็เป็น เมสซี่ ที่กระทุ้งระยะเผาขนให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 76 ก่อนมาจัดอีกลูกเป็นประตูปิดท้าย 2-0 ในนาทีที่ 87 ซึ่งบอกเลยว่า ประตูนี่สุดยอดมากๆ เพราะ เมสซี่ โซโล่เดี่ยว ลากบอลผ่านผู้เล่น "ราชันชุดขาว" ถึง 3-4 ราย ก่อนล้มตัวแปบอลผ่านการป้องกันของ อีเกร์ กาซียาส อย่างสุดยอด ทำให้ บาร์เซโลน่า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถือว่าได้เปรียบอย่างมหาศาล ก่อนกลับไปเตะเลกสองที่ คัมป์ นู ซึ่งจบลงด้วยการเจ๊า 1-1 (บาร์ซ่า เข้ารอบชิงฯ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-1)
- บาร์เซโลน่า 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (รอบชิงฯ 2010/11)
ทั้งสองทีมโคจรมาเจอกันในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง และผู้ชนะก็ยังคงเป็นทีมเดิม ไม่ต่างกับเมื่อฤดูกาล 2008/09 ซึ่งเกมนั้น เมสซี่ ก็เป็นคนโหม่งทำประตูย้ำชัย 2-0 แต่หากพูดถึงในแง่ของฟอร์มการเล่นแล้ว รอบชิงดำฤดูกาลที่ว่านี้ ดูดีกว่าเยอะ เพราะเจ้าตัวปั่นป่วนแนวรับ "ปีศาจแดง" ได้ตลอดทั้งเกม และเป็นคนทำประตูให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำ 2-1 ซึ่งถือว่าสำคัญมากๆ แถมเป็นลูกยิงสุดเฉียบทรงพลังจากระยะ 25 หลา ก่อนที่ ดาบิด บีย่า จะมาปั่นโค้งๆ เป็นประตูปิดท้ายให้ทีมคว้าชัยด้วยสกอร์ 3-1 ซึ่งจุดเริ่มต้นก็มาจาก เมสซี่ ที่โยกตัวหลอกเล่นงาน นานี่ จนเสียท่า
- บาร์เซโลน่า 7-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง 2011/12)
แม้เลกแรกบุกไปคว้าชัย 3-1 แต่ บาร์เซโลน่า ก็ยังคงใส่เต็มสูบในเกมเลกสองที่ คัมป์ นู และจบด้วยการไล่ยำ 7-1 พร้อมตบเท้าเข้าสู่รอบก่อนรองฯ ด้วยสกอร์รวมสองนัดสุดมโหฬาร 10-2 แต่ประเด็นสำคัญของเกมนี้คือ เมสซี่ จัดหนักยิงคนเดียว 5 ประตู!!! ซึ่งถือเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทำ 5 ลูกในเกมเดียว และมีถึงสองลูกที่ เมสซี่ ทำประตูด้วยลูกยิงแบบยกบอลข้ามตัวนายทวาร ซึ่งผู้รักษาประตูของ เลเวอร์คูเซ่น ตอนนั้น ก็คือมือหนึ่งคนปัจจุบันของ อาร์เซน่อล อย่าง แบร์นด์ เลโน่ นั่นเอง
- บาร์เซโลน่า 3-0 บาเยิร์น มิวนิค (รอบรองฯ นัดแรก 2014/15)
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คัมแบ็กสู่ถิ่น คัมป์ นู ในฐานะกุนซือ บาเยิร์น แต่สุดท้ายโดน เมสซี่ และผองเพื่อน ให้การต้อนรับชนิดลืมไม่ลง ซึ่งจริงๆ แล้วเกมนี้ "เสือใต้" ยันเสมอ 0-0 ได้จนเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แต่ เมสซี่ ก็แผลงฤทธิ์ ทำประตูให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 77 ด้วยการกดเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายจากบริเวณกรอบเขตโทษ
หลังจากนั้นแค่ 3 นาที บาร์ซ่า ก็หนีเป็น 2-0 ด้วยการทำประตูที่หลายๆ คนน่าจะยังจำได้ดี ที่ เมสซี่ เล่นงาน เยโรม บัวเต็ง จนหงายหลัง ก่อนหลุดเข้าไปงัดบอลผ่านตัว มานูเอล นอยเออร์ แบบสุดเหนือชั้น ก่อนที่ บาร์ซ่า จะมาได้ประตูย้ำชัย 3-0 จากการหลุดเข้าไปยิงของ เนย์มาร์ นาทีที่ 90+4 ถือความได้เปรียบอย่างมหาศาลก่อนบุกไปเตะเกมเลกสองที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า (บาร์ซ่า บุกไปแพ้ 2-3 แต่เข้ารอบชิงฯ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-3)
credit ; www.siamsport.co.th
ย้อนดูความเทพของ เมสซี่ เมื่อ 10 ปีที่แล้วกด4ตุงใส่อาร์เซน่อล
credit : www.siamsport.co.th
กาก้าเผยอยากเลือกใครติดทีมตัวเองมากกว่าระหว่างเมสซี่-โรนัลโด้
ริคาร์โด้ กาก้า โดนถามว่าถ้าเป็นเขาจะเลือกใครมาติดทีมระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเจ้าตัวเลือก เมสซี่ โดยบอกว่าแข้งชาวอาร์เจนไตน์มีสไตล์การเล่นที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็ชม โรนัลโด้ เช่นกันว่ามีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งสุดๆ
ริคาร์โด้ กาก้า อดีตยอดกองกลางชาวบราซิเลียน แสดงความเห็นว่าถ้าให้ตนจัดทีมของตัวเองแล้วนั้น ตนขอเลือก ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิง บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน มาร่วมทีมมากกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส
กาก้า กับ โรนัลโด้ เคยร่วมงานด้วยกันที่ เรอัล มาดริด แต่ดาวเตะเลือดแซมบ้าไม่ค่อยมีผลงานที่ยอดเยี่ยมเท่าไหร่กับ "ราชันชุดขาว" ต่างกับอีกฝ่ายที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ก่อนที่สุดท้าย กาก้า จะย้ายออกจากที่นั่นแล้วกลับไปอยู่กับ เอซี มิลาน ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2013
ลังจากโดนถามว่าเขาจะเลือกใครติดทีมของตัวเองระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ในระหว่างร่วมกิจกรรมถาม-ตอบกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แล้วนั้น กาก้า ก็ตอบว่า "ผมเคยเล่นร่วมกับ คริสเตียโน่ มาแล้ว เขาเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์มากๆ แต่ผมคงจะเลือก เมสซี่ มากกว่า เขา (เมสซี่) เป็นอัจฉริยะ เขามีพรสวรรค์ที่สุดยอดอย่างแท้จริง แนวทางการเล่นของเขามันน่าเหลือเชื่อมากๆ"
"คริสเตียโน่ เป็นเหมือนเครื่องจักร มันไม่ใช่แค่ว่าเขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง, ทรงพลัง และมีความเร็วสูงเท่านั้น แต่สภาพจิตใจของเขาก็แข็งแกร่งสุดๆ เช่นกัน เขาอยากเป็นฝ่ายชนะและเล่นแบบดุดันอยู่เสมอ เขาอยากเป็นคนที่เจ๋งที่สุด ซึ่งสำหรับผมแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขามี ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลน่ะ ทั้งคู่จะต้องมีชื่ออยู่ใน 5 อันดับแรก (ของนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล) อย่างแน่นอน พวกเราโชคดีมากๆ ที่ได้เห็นฝีเท้าของทั้ง 2 คน"
cr : www.siamsport.co.th