สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน เรากลับมาแล้ววววววว ทริปนี้เราไปกันตั้งแต่ ปีที่แล้ว 2019 กับมหากาพย์รีวิวรถไฟนำเที่ยวของไทย (น้ำเสียงแบบยิ่งใหญ่) ถ้าวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน(เพราะต้องกักตัวช่วยชาติ) เราเลยจะอาสาพาทุกท่านเดินทางไปกับ One Day Trip โดยรถไฟน้ำเที่ยวกาญจนบุรีขบวน 909 ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยยยยยย
ก่อนไปอ่านรีวิวรับชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่
รับชมคลิปกันก่อน
สะพายกล้องเที่ยว_กาญจนบุรี Kanchanaburi
ดูรูปเพิ่มเติม (เพราะเราถ่ายมาเยอะมาจนไม่สามรถลงได้หมด)
สะพายกล้องเที่ยว_กาญจนบุรี
ถ้าชอบฝากกดไลค์กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook สะพายกล้องเที่ยว Camera Travel ด้วยนะคะ
ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยยยย
เช้านี้เราเดินทางมาขึ้นรถไฟที่สถานีบางซื่อ เวลาประมาณ 06.30 น. เป็นทริปแรกที่เราเดินทางด้วยรถไฟ โดยขบวนนำเที่ยวนี้จะมีเฉพาะวันหยุดเท่านั้น แอบบอกไว้ก่อนเลยว่าขบวนนี้จองยากมากแนะนำให้ จองล่วงหน้าก่อนวันไป มีทั้งแบบแอร์ และพัดลมสำหรับคนที่อยากชิวกับบรรยากาศแบบเต็มที เอกสารที่ใช้มีแค่บัตรประชาชนใบเดียวกับเงิน 240 บาทสำหรับขบวนรถแอร์ และ 120 บาทสำหรับขบวนพัดลม
ทริปนี้เราเลือกจองขบวนรถแอร์ เพราะคิดว่าถ้าลงไปเที่ยวแล้วอากาศร้อน ยังมีรถไฟเย็นๆเป็นที่พึ่งได้ และด้วยความโชคดีอะไรก็ไม่รู้ ในวันที่เราไปพี่ๆรถไฟได้นำตู้นอนมาเป็นขบวนรถแอร์ บอกเลยว่าชิวมากก แทบจะนอนกลิ้งกันบนรถไฟเลยทีเดียว

ระหว่างทางรถไฟก็จะจอดตามสถานีหลังต่างๆ ใครสะดวกสถานีไหนสามารถเลือกได้เลยค่ะ
การรถไฟแห่งประเทศไทย
และแล้วเราก็มาถึงที่หมายแรกของเรา สถานีนครปฐม หรือ พระปฐมเจดีย์
สถานีนี้พี่ๆรถไฟจะจอดให้เรา ซื้อของกิน และ สักการะองค์พระปฐมเจดีย์ แต่! อยากบอกเพื่อนๆว่าจุดนี้
พี่ๆรถไฟจะจอดให้เรา 40 นาที เท่านั้นต้องบริหารจัดการเวลากันเอาเองหนาา ส่วนพวกเรา เดินถ่ายรูปซื้อของกินก็หมดเวลาแล้ว 5555 ขอยกมือไหว้จากที่ไกลๆแล้วกัน
จุดนี้แนะนำว่าให้ตุนน้ำและเสบียงให้พร้อม กดเงินให้พอ เพราะบอกเลยว่าจะไม่ได้เจอตู้ ATM อีกตลอดทริป
ใครว่ารถไฟไทยไม่ตรงเวลา ขอเถียงเลยค่ะว่าตรงมากกกกกก วิ่งกันมาแล้ว ถ้าใครได้ดูคลิป
และต่อไปนี้จะเป็นช่วงที่ทำให้ทุกคนหิวววววววว รีวิวของกินนั้นเองค่ะ
หลังจากวิ่งขึ้นรถไฟด้วยความเหนื่อยหอบเราก็นั่งตากแอร์เย็นๆ พูดคุยกันถึงจุดต่อไปที่เราจะไปแวะ และทานข้าวเช้ากัน สักพักใหญ่ๆเราก็มาถึงจุดหมายต่อไปของเรา สะพานข้ามแม่น้ำแคว
จุดนี้รถไฟจะจอดแค่ 25 นาทีเท่านั้น
แต่ทุกท่านอย่าพึ่งตกใจว่าโหยยย คนเยอะขนาดนี้ไม่อยากไปหรอก แต่จริงๆแล้ววันที่เราไป กาญจนบุรี มีงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว คนถึงได้เยอะขนาดนี้
บรรยากาศโดยรวมบอกได้คำเดียวเลยว่า ร้อนมาก 555 หยอกๆ
จริงๆแล้วบรรยากาศรอบๆสวยมากรู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมา ว่าคนในยุคนั้นต้องเจออะไรกันมาบ้าง
เสร็จจากจุดนี้เราก็ไปที่จุดหมายต่อไปกันเลยดีกว่าค่ะ
จุดหมายต่อไปของเรานั้นก็คือ ถ้ำกระแซ แต่!!!! จุดนี้ไม่ใช่จุดแวะตามแผน เราสามารถเลือกได้ว่า จะแวะหรือไม่ ถ้าเราแวะ เราต้องนั่งรถไฟอีกขบวนนึงตามไป แต่ถ้าไม่แวะ ก็ยิ่งยาวถึงสถานีน้ำตกเลยคร่าาาา
พี่ๆรถไฟแอบกระซิบบอกว่าถ้าเราอยู่บนรถไฟและระหว่างทางที่รถไฟผ่านถ้ำกระแซ ให้เพื่อนๆเอามือแตะที่ฝั่งหน้าผา และอธิฐาน เป็นความเชื่อเท่านั้นนะคะ ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะตอนที่รถไฟผ่านตรงนี้จะขับช้ามากๆอยู่แล้วค่ะ
ไปดูบรรยากาศ กันเลยดีกว่า ทางเดินร่มรื่น บรรกาศชิว สองข้างทางเป็นต้นไม้ แต่เดี๋ยวก่อนการจะเจอบรรยากาศแบบนี้นั้นท่านต้องเดินผ่าน......
ทางรถไฟที่บอกได้คำเดียวว่าเสียวสุดๆ เดินสวนกันทีหัวใจจะวายเพราะทางแคบมากกกกกกกกก
สำหรับใครที่กลัวความสูงแนะนำว่าอย่าเดินค่ะ เพราะนอกจากสูงแล้ว ทุกก้าวที่เดินต้องระวังให้มากๆ ทั้งระวังรถไฟ ไม้ที่เก่า และอื่นๆ ถ้าเราเดินอยู่แล้วรถไฟมาเราจะไม่มีที่ให้หลบ ต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว จนกว่าจะถึงจุดพัก
เมื่อเราเดินมาถึงจุดพัก จุดนี้จะเป็นจุดที่เราจะขึ้นรถพัดลม เพื่อตามขบวนรถของเราไป สถานีน้ำตกค่ะ
รถไฟของเรามาแล้ววววววว เตรียมตัวขึ้นกันเลยดีกว่า
พอขึ้นรถไปนายรถไฟจะเดินมาขายตั๋ว แต่ถ้าเราโชว์ตั๋วรถนำเที่ยวของเราไป ฟรีคร่าา!!!!
นั่งกินลม ชมวิวถ่ายรูปกันไปซักพักเราก็เดินทางมาถึง สถานีน้ำตก จากสถานี นี้เราต้องนั่งรถสองแถวต่อไปอีก 20 บาท เพื่อไปที่น้ําตกไทรโยคน้อย
สองแถวจะจอดให้เราฝั่งตรงข้าม ข้ามถนนมาก็เป็น น้ําตกไทรโยคน้อย แล้วค่ะ จุ
ดนี้ไม่แน่ใจว่า พี่ๆรถไฟให้เวลาแวะเท่าไหร่ แต่เราใช้เวลาอยู่ประมาณ 1 ชม. คิดว่าถ้าใครไม่ได้แวะตรงถ้ำกระแซ น่าจะมีเวลามากกว่านี้
ตรงจุดนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากลงเล่นน้ำ เล่นไปเลยค่ะ เพราะเค้ามีบริการห้องอาบน้ำ และห้องน้ำพร้อม แต่ถ้าใครไม่อยากเล่นน้ำ อยากนั่งชิวๆ ก็จะมีร้านอาหารให้เราสั่งอะไรมาทาน ที่นั่งก็จะแตกต่างกันไป จะนั่งในร้าน หรือนั่งข้างน้ำตก ก็ไม่ใช่ปัญหา
พอใกล้ถึงเวลาที่รถไฟออก เราก็เตรียมตัวล่วงหน้าก่อน 20 นาที เก็บของ เตรียมไปขึ้นรถสองแถว กลับมาที่สถานีน้ำตกค่ะ
พอมาถึงสถานีน้ำตกพึ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินอะไรกันเลยเพราะมั่วแต่ถ่ายรูปเล่น ก็เลยไปสั่งข้าวกัน....
แต่จุดพีคมันอยู่ตรงนี้ เพื่อนๆจำที่บอกได้ไหมค่ะว่าให้กดเงินไปให้พอ เพราะพลาดมาแล้วค่ะ สั่งข้าวไปเงินสดไม่พอจ่าย ตู้ก็ไม่มีให้กด ป้าไม่รับโอน จนต้องไปขอยืมเงินสดเจ้าหน้าที่รถไฟมา แล้วโอนคืนพี่เค้า ต้องขอบคุณพี่เจ้าหน้ารถไฟมากกกกกกกกกก ถ้าไม่มีพี่เค้าเราคงแย่
หลังจากผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญมา เราก็มาอยู่บนรถไฟเตรียมตัวออกเดินทางกันแล้วค่ะ
จุดสุดท้ายที่เราจะไปแวะกันก็คือ สุสานทหารสัมพันธมิตร จุดนี้ พี่ๆรถไฟบอกว่า ถ้าเรามีวินัยรักษาเวลา จะได้แวะ แต่ถ้าไม่ เที่ยวนั้นก็อาจจะอดแวะเลยนะ
ดีที่วันนี้ทุกคนน่ารักมาก เราเลยได้แวะกัน
รถไฟจะจอดที่สถานีกาญจนบุรี
พี่ๆรถไฟให้เวลาเรา 30 นาที กับจุดนี้ จากสถานีรถไฟ ไปที่สุสานทหารไม่ไกลกันมา เพื่อนๆสามารถเลือกได้ว่าจะเดิน หรือนั่งรถสองแถว แต่สำหรับพวกเราประหยัดเวลาค่ะ นั่งสองแถว ไป-กลับ คนละ 10 บาท จอดข้างหน้าเลย มาคันไหนกลับคันนั้นนะคะ จำรถตัวเองให้ได้ เตือนแล้วนะ
ส่วนบรรยากาศนั้นอยากให้เพื่อนๆได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกๆยังไงบอกไม่ถูกเลยค่ะไปดูรูปกัน
และก็จบกันไปแล้วนะคะ กับทริปรถไฟนำเที่ยวสายน้ำตก กาญจนบุรี บอกได้เลยว่าทั้งสนุกทั้งตื่นเต้นมีทุกอย่างครบจบในทริปเดียว รถไฟมาส่งถึงสถานีตรงเวลาอาจมีเรทบ้างนิดหน่อยตามสถานการณ์

ฮั่นแน่มาถึงตรงนี้เพื่อนๆหลายท่านคงคิดว่าจบแล้ว แต่จริงๆข้อความมันเกิน

ขอไปต่อรายละเอียดค่าใช้จ่าย ข้างล่างนะคะ
[CR] รถไฟนําเที่ยวกาญจนบุรี One Day Trip ไปสักครั้งแล้วจะรู้ว่าดีต่อใจ
ก่อนไปอ่านรีวิวรับชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่
รับชมคลิปกันก่อน สะพายกล้องเที่ยว_กาญจนบุรี Kanchanaburi
ดูรูปเพิ่มเติม (เพราะเราถ่ายมาเยอะมาจนไม่สามรถลงได้หมด) สะพายกล้องเที่ยว_กาญจนบุรี
ถ้าชอบฝากกดไลค์กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook สะพายกล้องเที่ยว Camera Travel ด้วยนะคะ
ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยยยย
เช้านี้เราเดินทางมาขึ้นรถไฟที่สถานีบางซื่อ เวลาประมาณ 06.30 น. เป็นทริปแรกที่เราเดินทางด้วยรถไฟ โดยขบวนนำเที่ยวนี้จะมีเฉพาะวันหยุดเท่านั้น แอบบอกไว้ก่อนเลยว่าขบวนนี้จองยากมากแนะนำให้ จองล่วงหน้าก่อนวันไป มีทั้งแบบแอร์ และพัดลมสำหรับคนที่อยากชิวกับบรรยากาศแบบเต็มที เอกสารที่ใช้มีแค่บัตรประชาชนใบเดียวกับเงิน 240 บาทสำหรับขบวนรถแอร์ และ 120 บาทสำหรับขบวนพัดลม
ทริปนี้เราเลือกจองขบวนรถแอร์ เพราะคิดว่าถ้าลงไปเที่ยวแล้วอากาศร้อน ยังมีรถไฟเย็นๆเป็นที่พึ่งได้ และด้วยความโชคดีอะไรก็ไม่รู้ ในวันที่เราไปพี่ๆรถไฟได้นำตู้นอนมาเป็นขบวนรถแอร์ บอกเลยว่าชิวมากก แทบจะนอนกลิ้งกันบนรถไฟเลยทีเดียว
ระหว่างทางรถไฟก็จะจอดตามสถานีหลังต่างๆ ใครสะดวกสถานีไหนสามารถเลือกได้เลยค่ะ การรถไฟแห่งประเทศไทย
และแล้วเราก็มาถึงที่หมายแรกของเรา สถานีนครปฐม หรือ พระปฐมเจดีย์
สถานีนี้พี่ๆรถไฟจะจอดให้เรา ซื้อของกิน และ สักการะองค์พระปฐมเจดีย์ แต่! อยากบอกเพื่อนๆว่าจุดนี้ พี่ๆรถไฟจะจอดให้เรา 40 นาที เท่านั้นต้องบริหารจัดการเวลากันเอาเองหนาา ส่วนพวกเรา เดินถ่ายรูปซื้อของกินก็หมดเวลาแล้ว 5555 ขอยกมือไหว้จากที่ไกลๆแล้วกัน
จุดนี้แนะนำว่าให้ตุนน้ำและเสบียงให้พร้อม กดเงินให้พอ เพราะบอกเลยว่าจะไม่ได้เจอตู้ ATM อีกตลอดทริป
ใครว่ารถไฟไทยไม่ตรงเวลา ขอเถียงเลยค่ะว่าตรงมากกกกกก วิ่งกันมาแล้ว ถ้าใครได้ดูคลิป
และต่อไปนี้จะเป็นช่วงที่ทำให้ทุกคนหิวววววววว รีวิวของกินนั้นเองค่ะ
หลังจากวิ่งขึ้นรถไฟด้วยความเหนื่อยหอบเราก็นั่งตากแอร์เย็นๆ พูดคุยกันถึงจุดต่อไปที่เราจะไปแวะ และทานข้าวเช้ากัน สักพักใหญ่ๆเราก็มาถึงจุดหมายต่อไปของเรา สะพานข้ามแม่น้ำแคว จุดนี้รถไฟจะจอดแค่ 25 นาทีเท่านั้น
แต่ทุกท่านอย่าพึ่งตกใจว่าโหยยย คนเยอะขนาดนี้ไม่อยากไปหรอก แต่จริงๆแล้ววันที่เราไป กาญจนบุรี มีงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว คนถึงได้เยอะขนาดนี้
บรรยากาศโดยรวมบอกได้คำเดียวเลยว่า ร้อนมาก 555 หยอกๆ
จริงๆแล้วบรรยากาศรอบๆสวยมากรู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมา ว่าคนในยุคนั้นต้องเจออะไรกันมาบ้าง
เสร็จจากจุดนี้เราก็ไปที่จุดหมายต่อไปกันเลยดีกว่าค่ะ
จุดหมายต่อไปของเรานั้นก็คือ ถ้ำกระแซ แต่!!!! จุดนี้ไม่ใช่จุดแวะตามแผน เราสามารถเลือกได้ว่า จะแวะหรือไม่ ถ้าเราแวะ เราต้องนั่งรถไฟอีกขบวนนึงตามไป แต่ถ้าไม่แวะ ก็ยิ่งยาวถึงสถานีน้ำตกเลยคร่าาาา
พี่ๆรถไฟแอบกระซิบบอกว่าถ้าเราอยู่บนรถไฟและระหว่างทางที่รถไฟผ่านถ้ำกระแซ ให้เพื่อนๆเอามือแตะที่ฝั่งหน้าผา และอธิฐาน เป็นความเชื่อเท่านั้นนะคะ ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะตอนที่รถไฟผ่านตรงนี้จะขับช้ามากๆอยู่แล้วค่ะ
ไปดูบรรยากาศ กันเลยดีกว่า ทางเดินร่มรื่น บรรกาศชิว สองข้างทางเป็นต้นไม้ แต่เดี๋ยวก่อนการจะเจอบรรยากาศแบบนี้นั้นท่านต้องเดินผ่าน......
ทางรถไฟที่บอกได้คำเดียวว่าเสียวสุดๆ เดินสวนกันทีหัวใจจะวายเพราะทางแคบมากกกกกกกกก
สำหรับใครที่กลัวความสูงแนะนำว่าอย่าเดินค่ะ เพราะนอกจากสูงแล้ว ทุกก้าวที่เดินต้องระวังให้มากๆ ทั้งระวังรถไฟ ไม้ที่เก่า และอื่นๆ ถ้าเราเดินอยู่แล้วรถไฟมาเราจะไม่มีที่ให้หลบ ต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว จนกว่าจะถึงจุดพัก
เมื่อเราเดินมาถึงจุดพัก จุดนี้จะเป็นจุดที่เราจะขึ้นรถพัดลม เพื่อตามขบวนรถของเราไป สถานีน้ำตกค่ะ
รถไฟของเรามาแล้ววววววว เตรียมตัวขึ้นกันเลยดีกว่า
พอขึ้นรถไปนายรถไฟจะเดินมาขายตั๋ว แต่ถ้าเราโชว์ตั๋วรถนำเที่ยวของเราไป ฟรีคร่าา!!!!
นั่งกินลม ชมวิวถ่ายรูปกันไปซักพักเราก็เดินทางมาถึง สถานีน้ำตก จากสถานี นี้เราต้องนั่งรถสองแถวต่อไปอีก 20 บาท เพื่อไปที่น้ําตกไทรโยคน้อย
สองแถวจะจอดให้เราฝั่งตรงข้าม ข้ามถนนมาก็เป็น น้ําตกไทรโยคน้อย แล้วค่ะ จุดนี้ไม่แน่ใจว่า พี่ๆรถไฟให้เวลาแวะเท่าไหร่ แต่เราใช้เวลาอยู่ประมาณ 1 ชม. คิดว่าถ้าใครไม่ได้แวะตรงถ้ำกระแซ น่าจะมีเวลามากกว่านี้
ตรงจุดนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากลงเล่นน้ำ เล่นไปเลยค่ะ เพราะเค้ามีบริการห้องอาบน้ำ และห้องน้ำพร้อม แต่ถ้าใครไม่อยากเล่นน้ำ อยากนั่งชิวๆ ก็จะมีร้านอาหารให้เราสั่งอะไรมาทาน ที่นั่งก็จะแตกต่างกันไป จะนั่งในร้าน หรือนั่งข้างน้ำตก ก็ไม่ใช่ปัญหา
พอใกล้ถึงเวลาที่รถไฟออก เราก็เตรียมตัวล่วงหน้าก่อน 20 นาที เก็บของ เตรียมไปขึ้นรถสองแถว กลับมาที่สถานีน้ำตกค่ะ
พอมาถึงสถานีน้ำตกพึ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินอะไรกันเลยเพราะมั่วแต่ถ่ายรูปเล่น ก็เลยไปสั่งข้าวกัน....
แต่จุดพีคมันอยู่ตรงนี้ เพื่อนๆจำที่บอกได้ไหมค่ะว่าให้กดเงินไปให้พอ เพราะพลาดมาแล้วค่ะ สั่งข้าวไปเงินสดไม่พอจ่าย ตู้ก็ไม่มีให้กด ป้าไม่รับโอน จนต้องไปขอยืมเงินสดเจ้าหน้าที่รถไฟมา แล้วโอนคืนพี่เค้า ต้องขอบคุณพี่เจ้าหน้ารถไฟมากกกกกกกกกก ถ้าไม่มีพี่เค้าเราคงแย่
หลังจากผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญมา เราก็มาอยู่บนรถไฟเตรียมตัวออกเดินทางกันแล้วค่ะ
จุดสุดท้ายที่เราจะไปแวะกันก็คือ สุสานทหารสัมพันธมิตร จุดนี้ พี่ๆรถไฟบอกว่า ถ้าเรามีวินัยรักษาเวลา จะได้แวะ แต่ถ้าไม่ เที่ยวนั้นก็อาจจะอดแวะเลยนะ
ดีที่วันนี้ทุกคนน่ารักมาก เราเลยได้แวะกัน
รถไฟจะจอดที่สถานีกาญจนบุรี พี่ๆรถไฟให้เวลาเรา 30 นาที กับจุดนี้ จากสถานีรถไฟ ไปที่สุสานทหารไม่ไกลกันมา เพื่อนๆสามารถเลือกได้ว่าจะเดิน หรือนั่งรถสองแถว แต่สำหรับพวกเราประหยัดเวลาค่ะ นั่งสองแถว ไป-กลับ คนละ 10 บาท จอดข้างหน้าเลย มาคันไหนกลับคันนั้นนะคะ จำรถตัวเองให้ได้ เตือนแล้วนะ
ส่วนบรรยากาศนั้นอยากให้เพื่อนๆได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกๆยังไงบอกไม่ถูกเลยค่ะไปดูรูปกัน
และก็จบกันไปแล้วนะคะ กับทริปรถไฟนำเที่ยวสายน้ำตก กาญจนบุรี บอกได้เลยว่าทั้งสนุกทั้งตื่นเต้นมีทุกอย่างครบจบในทริปเดียว รถไฟมาส่งถึงสถานีตรงเวลาอาจมีเรทบ้างนิดหน่อยตามสถานการณ์
ฮั่นแน่มาถึงตรงนี้เพื่อนๆหลายท่านคงคิดว่าจบแล้ว แต่จริงๆข้อความมันเกิน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้