JJNY : ยิ่งลักษณ์ส่งตัวแทนมอบชุดPPE/ธีรัจชัยชี้จัดการแหม่มโพธิ์ดำเท่ากับปิดปากปชช./อ.หมอเผยแพทย์ไม่ดีใจ/ว่างงานเมษา6.5ล.

ยิ่งลักษณ์ ส่งตัวแทนมอบชุด PPE-หน้ากากอนามัย ให้รพ.ในไทย
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2132841
 

 

“ยิ่งลักษณ์” ส่งชุด PPE-หน้ากาก N95 ให้โรงบาลสันกำแพงบ้านเกิด พร้อมส่งตัวแทนมอบให้รพ.รามาฯอีกที่
 
เมื่อวันที่ 10 เมษายน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสข้อความพร้อมรูปภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า 
 
ตนติดตามข่าวสารจากเมืองไทย อย่างต่อเนื่องด้วยใจยังผูกพันและคอยเป็นห่วงพี่น้องคนไทยทุกคนเสมอ โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าของเรายังขาดแคลนอุปกรณ์ในการดูแลผู้ป่วย และรับมือกับเชื้อไวรัสนี้ ตนก็ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเสริมอุปกรณ์ที่จะช่วยป้องกันเชื้อและประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น วันนี้จึงได้ขอให้ตัวแทนไปมอบชุด PPE หน้ากากอนามัย N95 และหน้ากากอนามัย ให้กับโรงพยาบาล โดยที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ขอให้นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นตัวแทนมอบให้โรงพยาบาลสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดบ้านเกิดของตน เพราะทราบว่าทางจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กำหนดให้โรงพยาบาลสันกำแพงเป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง นอกจากนี้ ยังได้ให้ทีมงานนำอุปกรณ์ไปมอบให้กับคุณหมอที่โรงพยาบาลรามาธิบดีซึ่งเป็นหนึ่งในอีกหลายโรงพยาบาลที่รับรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 อีกด้วย
 
ดิฉันหวังว่าอุปกรณ์ที่มอบให้นั้นจะช่วยให้แพทย์ พยาบาลและบุคลากรที่เกี่ยวข้องคลายความกังวลกับภาวะการขาดแคลนอุปกรณ์ได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ และต้องขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านทั้งที่อยู่ในสถานพยาบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่ อสม. ที่ลงพื้นที่ตรวจตามบ้านเรือนประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ ที่คอยเป็นส่วนสนับสนุนอีกหลายหน่วยงานด้วยค่ะ ในห้วงเวลานี้ น้ำใจแม้เพียงคนละเล็กคนละน้อย เมื่อรวมกันเข้าก็กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้ และเราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน และเราจะคอยเป็นกำลังใจให้กันและกันค่ะ“ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ
 
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/3195901283787638
 

 
‘ธีรัจชัย’ชี้ จัดการแหม่มโพธิ์ดำเท่ากับปิดปากปชช. ท้าพาณิชย์เปิดเผยข้อมูลให้ตรวจสอบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2132852
 
‘ธีรัจชัย’ เผย ตร.จัดการแหม่มโพธิ์ดำเท่ากับปิดปากปชช. ท้า ก.พาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลให้ตรวจสอบ
 
เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคณะที่ 2 ในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้ดำเนินการเข้ามาตรวจสอบการกักตุนหน้ากากอนามัย กล่าวถึงกรณีที่รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวจะดำเนินคดีกับเพจแหม่มโพธิ์ดำที่ออกมาตรวจสอบกระบวนการกักตุนหน้ากากเป็นรายแรกว่า ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน ที่จะดำเนินคดีกับผู้กักตุนหน้ากากอนามัย เพียงแต่การทำหน้าที่ในคดีนี้ในเรื่อง การจะสืบสวนไปในทางจะดำเนินคดีกับ ผู้เกี่ยวข้องกับเพจแหม่มโพธิ์ดำ ดูเหมือนจะผิดที่ผิดทางไปพอสมควร เพราะการที่แหม่มโพธ์ดำในฐานะสื่อสาธารณะ ออกมาตั้งข้อสงสัยและตรวจสอบการกักตุนหน้ากากในช่วงที่หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าจำเป็นในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ของประชาชน เป็นอุปกรณ์ป้องกีนไม่ให้ติดโรคร้าย แต่ถูกบุคคลบางกลุ่มมีพฤติกรรมนำไปหาผลประโยชน์ในช่วงวิกฤต อีกทั้งข้อมูลที่แหม่มโพธิ์ดำได้นำมาตีแผ่ให้ประชาชนได้รับทราบก็สอดคล้องกับ การแจ้งความเอาผิดกับนายศรสุวีร์ หรือเสี่ยบอยที่โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่ามีหน้ากาก 200 ล้านชิ้น ก่อนขยายผลมาสู่การจับกุมนายพันธ์ยศได้พร้อมของกลาง ซึ่งก็เป็นผลมาจากโพสต์ของเสี่ยบอยที่เพจแหม่มโพธิ์ดำเอามาเผยแพร่ แสดงว่าโพสต์ดังกล่าวเป็นหลักฐานที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด แล้วจะมาดำเนินคดี กับผู้ที่ชี้เบาะแสได้อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าการตีความทางกฎหมายถูกนำมาใช้คลาดเคลื่อนในการที่จะหาคนผิดที่แท้จริงมาลงโทษหรือไม่ และอาจเป็นการปิดปากประชาชน ในการแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ ต่อการบริหารราชการในช่วงการใช้อำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉินในช่วงเวลานี้ควรพิจารณาดีๆ มิฉะนั้นจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี และไม่สามารถหาคนผิดที่แท้จริงมาลงโทษได้ โดยที่ตัวการใหญ่ เช่นฝ่ายราชการและฝ่ายการเมืองฯลฯ ที่เกี่ยวข้องอาจหลุดพ้นไปได้ อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต
 
นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า เท่าที่ทราบสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคดีเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัยอยู่ทั้งหมด 96 คดี คดีเหล่านี้ถือเป็นคดีใหญ่และสังคมให้ความสนใจเนื่องจากเป็นการค้ากำไรบนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งคดีเหล่านี้ทางปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปตั้งคนของกระทรวงไปตรวจสอบและสอบสวนด้วยตนเอง แต่ไม่มีการสืบหาความจริงไปยังต้นตอการผลิต ผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนการนี้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ควรถูกตรวจสอบ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาเวลาไปสืบหาความจริง และสาวให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงในกระบวนการดังกล่าวได้จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า
 
ทั้งนี้นายธีรัจชัยกล่าวว่า ทางกรรมาธิการ ป.ป.ช.ได้ส่งเอกสารขอข้อมูลการผลิต ราคาต้นทุนวัตถุดิบ ปริมาณการนำเข้าและส่งออกไปยังกระทรวงพาณิชย์แล้ว แต่ยังไม่มีคำตอบใดๆ จึงฝากเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกระทรวงพาณิชย์ว่าหากมั่นใจว่าสายพานการผลิตหน้ากากอนามัยโปร่งใสจริง ควรเร่งยื่นข้อมูลทั้งหมดมายังกมธ ป.ป.ช.เพื่อเปิดเผยต่อประชาชนต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่