JJNY : “นพ.ทศพร”ชี้ไทยการตรวจหาเชื้ออยู่ในเกณฑ์ต่ำ/ก้าวไกลลงพื้นที่แจกเจล/ทรายซัดเพจ'พปชร.'/เชื่อมั่นมี.ค.ต่ำสุดรอบ21ปี

“นพ.ทศพร”ชี้ไทยยังมีการตรวจคัดหาเชื้ออยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ
https://www.innnews.co.th/politics/news_642492/

 
"นพ.ทศพร" ชี้ ไทยยังมีการตรวจคัดหาเชื้อไวรัสอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ เสนอรัฐให้ประชาชนเข้าตรวจหาเชื้อให้มากขึ้น

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานศูนย์ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์และมาตรการต่างๆในการควบคุมโรคของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ถึง 7 เมษายน 2563 พบว่า
 
1. ประเทศไทยยังมีการตรวจหาเชื้ออยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ประเทศไทยมีผลการตรวจ 71,860 ตัวอย่าง คิดเป็น 1,079 ต่อ ล้านประชากร จะเห็นได้ว่า ระบบรายงานผลการตรวจ มีข้อมูลส่วนใหญ่ไม่ถูกนำมารายงาน อย่างเป็นทางการ
 
2. ในการรายงานสถานการณ์ จากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค พบว่ามีการตัดข้อมูลตัวเลขผลการตรวจผู้ป่วยที่มีอาการตามนิยามเฝ้าระวังที่เหลือ จำนวนผู้ป่วยตรวจไม่พบเชื้อ และผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการออก ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญ ต่อการควบคุมโรค แต่ไม่ทราบว่าการไม่รายงานข้อมูลดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
 
3. มีการกำหนดหลักเกณฑ์การตรวจโรคโควิด-19 ใหม่ โดยให้ตรวจฟรี แต่หากไม่เข้าเกณฑ์ สปสช.จะไม่สนับสนุนค่าตรวจ ซึ่งบังคับใช้ทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน  ทำให้มีการตรวจน้อยลง และไม่ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงอย่างการติดเชื้อในบ้าน หากยังคงไม่มีมาตรการค้นหาผู้ป่วยด้วยการตรวจอย่างเข้มข้น คนกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการตรวจ และพร้อมจะแพร่เชื้อได้ตลอดเวลา
 
4. ศูนย์ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 พรรคเพื่อไทย ยังยืนยันมาตรการ 21 วันสยบโควิดที่ได้นำเสนอไปแล้ว คือ ต้องเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อให้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อจะต้องได้รับการตรวจทั้งหมดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

“นพ.ทศพร” เสนอรัฐบาลพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่ให้ประชาชนเข้าตรวจหาเชื้อให้มากขึ้น

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานศูนย์ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 พรรคเพื่อไทย แถลงเสนอแนะรัฐบาลเพิ่มเติม เพื่อหวังว่าจะในไปสู่การปฏิบัติจริง ดังนี้
1. พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจมากขึ้น กลุ่มที่มีประวัติเสี่ยงทุกคนต้องได้รับการตรวจ โดยไม่ต้องรอให้มีอาการ กำหนดเพิ่มอาการให้ครอบคลุมมากขึ้น  ทั้งนี้ เกณฑ์การตรวจต้องเป็นมาตรฐานเดียว ไม่เปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมา เพื่อสะดวกต่อการแปรผล และนำข้อมูลไปใช้
2. ควรเน้นการตรวจและรายงานผลเฉพาะพื้นที่ เฉพาะจังหวัด เพื่อกำหนดเป้าหมายควบคุมโรคให้จบเป็นรายจังหวัด
3. ระบบรายงานต้อง รายงานการตรวจเชื้อ ครอบคลุมทุกสถานบริการ ทั้งประเทศ กรณีมีการตรวจโดยสมัครใจเสียค่าใช้จ่าย ต้องมีการรายงานด้วย
4. ควรนำ Rapid Screening Test การตรวจหาภูมิคุ้มกัน (Ab) มาใช้เพื่อความสะดวกเร็ว เข้าถึงได้ง่าย ประหยัดงบประมาณ
เพื่อให้การควบคุมโรคระบาดโควิด-19 สยบอย่างรวดเร็ว ทุกจังหวัดสามารถเปิดเมือง กลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็ว รัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงควรนำข้อเสนอนี้ไปพิจารณา
 

 
พรรคก้าวไกลลงพื้นที่แจกเจลล้างมือให้ปชช.
https://www.innnews.co.th/politics/news_642779/

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรคทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่พบปะประชาชนพร้อมแจกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สำหรับป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยในช่วงเช้าเริ่มต้นที่มัสยิดตลาดพลู ถนนเทอดไท ตลาดจอมทอง และการเคหะธนบุรี 3 เขตบางขุนเทียน ทั้งนี้ มีประชาชนหลากหลายสาขาอาชีพให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และได้มีการสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจและมาตรการเยียวยาของรัฐบาลกรณีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้

โดย นายพิธา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในวันนี้ทำให้ทราบว่า ยังมีประชาชนที่ไม่ได้รับการเยียวยาจากผลกระทบ ปัญหาไวรัสโควิด-19 อยู่อีกเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบอาชีพอิสระหลายรายที่การเยียวยายังเข้าไม่ถึง เช่น คนที่ใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็น คนขับแท็กซี่ที่วันนี้ก็ยังรอรับเงินเยียวยา หรือแม้แต่ แม่ค้าลอตเตอรี่ที่ลงทะเบียนแล้วแต่ไม่มีรายชื่อเป็นผู้ได้รับเงินเยียวยา เพราะไม่มีทะเบียนเป็นผู้ค้าเนื่องจากเป็นรายย่อย ขณะที่แผงค้ารายใหญ่ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้ได้รับกันถ้วนหน้า นักเรียน นักศึกษาที่ทำงานเป็นพาร์ทไทม์ ส่งเสียตัวเองเรียนก็ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการช่วยเหลือ และยังมีอีกหลายอาชีพมากที่มาสะท้อนปัญหาให้ฟัง วันนี้ ประชาชนอยู่ในสภาวะเหมือนกลั้นหายใจ ไม่สามารถทำงาน ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติได้ จึงได้แต่ทนกลั้นหายใจโดยไม่รู้ว่าจะหมดลมหายใจเมื่อไหร่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่