INTUCH "เทมาเส็ก"ทิ้งหุ้น สะเทือนใจ..แต่ไม่กระทบพื้นฐาน!


อีกครั้งที่"เทมาเส็ก"ขายหุ้นบิ๊กล็อต INTUCH ออกมาในราคาต่ำกว่ากระดาน หลังจากอยู่ร่วมกันมานานกว่า 10 ปี แน่นอนว่ากระทบกับบรรยากาศการลงทุนอย่างแน่นอน ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่า หุ้นตัวนี้มีอะไรไม่ดี แต่เรามองไม่เห็นหรือเปล่า? แต่ขอให้สบายใจได้...เพราะพื้นฐานหุ้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลย!
*** "เทมาเส็ก"ทิ้งหุ้นครั้งที่สอง เหลือถือ 5.4% 
วันนี้ราคาหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ร่วงแรงตั้งแต่เปิดตลาดไปทำจุดต่ำสุดของวันนี้ที่ 45.75 บาท และมาปิดตลาดรอบเช้าไปที่ 46.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.59% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 113.57% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า 

ซึ่งสิ่งที่ทำให้ราคาหุ้น INTUCH ปรับตัวลงแรงก็คือ การขายบิ๊กล็อต(Big lot) จำนวน 135.2 ล้านหุ้น หรือ 4% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาเฉลี่ย 45.12 บาท/หุ้น ต่ำกว่าราคาซื้อขายบนกระดานวันนี้ แบ่งเป็น INTUCH-F (สำหรับนักลงทุนต่างประเทศ) จำนวน 98.18 ล้านหุ้น และ INTUCH จำนวน 37.01 ล้านหุ้น

จากการรายงานข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก(Bloomberg)ระบุว่าเป็นการขายหุ้นของกลุ่มเทมาเส็ก(Temasek) ที่ถือหุ้นผ่าน HSBC ขณะที่ บล.ทิสโก้ ระบุว่า เป็นการขายหุ้น INTUCH ที่อยู่ใน BlockTrade โดยกลุ่ม"เทมาเส็ก"

ก่อนหน้านี้(15 ส.ค. 62) เทมาเส็กเคยขายหุ้น INTUCH ออกมาแล้วถึง 257.1 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 60.75 บาท/หุ้น ทำให้เหลือสัดส่วนถือหุ้นผ่าน HSBC จาก 18% มาเหลือ 9.49% และหากนับรวมการขายหุ้นในครั้งนี้ จะเหลือสัดส่วนถือหุ้น 5.4%  

*** สะเทือนแค่บรรยากาศลงทุน แต่พื้นฐานอาจดีขึ้นกว่าเดิม
แม้การทิ้งหุ้นของ "เทมาเส็ก" หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่เก่าแก่ของบริษัท อาจทำให้นักลงทุนผวามาก เพราะการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ยอมทิ้งหุ้นออกมาในช่วงที่ราคาหุ้นตกต่ำ มิหนำซ้ำยังขายต่ำกว่าราคาบนกระดานอีกด้วย แต่ในวิกฤตมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ มาลองดูเหตุผล 3 ข้อว่าทำไมจึงไม่ควรกังวลกับการขายหุ้นครั้งนี้

บล.ทิสโก้ ระบุไว้ว่ามี 3 เหตุผลที่น่าสนใจจากการขายหุ้นในครั้งนี้ 

ข้อแรก จบปัญหาด้านสภาพคล่อง จากข้อมูลของ SET เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา Temasek เหลือหุ้น 9.42% และหาก Temasek จบการขายและขายหุ้นต่ำกว่า 4% ให้กับ Singtel จะทำให้สภาพคล่องของ INTUCH ในตลาดเพิ่มขึ้น และทำให้ความเสี่ยงในมุมนี้ลดลง
ข้อสอง ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะจากการเทขายหุ้น 2 ครั้งที่ผ่านมา -2.6 ถึง -5% ราคาหุ้นกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5.4 – 14.4% ในช่วง 30 วันให้หลัง และด้วยการปรับตัวที่แย่กว่าตลาดมากในวันก่อน ทำให้เรามองว่ามีโอกาสรีบาวน์สูง
ข้อสาม Yield Gap กับ ADVANC เพิ่มขึ้นมาก ที่ราคาหุ้น 45 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.2% สำหรับปี 63 ใกล้เคียงกับกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น DIF ที่ 6.7% และ ADVANC ที่ Yield ที่ 3.8% 

ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ระบุเพิ่มว่า กลุ่ม"เทมาเส็ก"ถือหุ้นโดยไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารอยู่แล้ว การขายหุ้นในครั้งนี้จึงไม่มีผลกระทบใดๆต่อพื้นฐาน ดังนั้นยังคงประมาณการกำไรปี 63 - 64 ไว้ว่าจะทรงตัว 1 - 1.1 หมื่นล้านบาท ราคาหุ้น INTUCH ที่ปรับลงจะยิ่งเพิ่ม Discount จากราคาหุ้นบริษัทลูก

*** การเติบโตจำกัด? แต่จริงๆแล้วลงทุนในสตาร์ทอัพไว้เยอะมาก
หากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการขายหุ้นของ"เทมาเส็ก"ว่า INTUCH อาจไม่มีการเติบโตที่น่าสนใจพอจะรั้งผู้ถือหุ้นใหญ่รายนี้ไว้ได้ ดังนั้นมาลองกางแผนธุรกิจของ INTUCH กันดู

นอกจากการเติบโตหลักๆจะมาจาก ADVANC แล้ว INTUCH เองก็มี การลงทุนเป็นของตัวเองเช่นกัน โดยนางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสำนักนักลงทุนสัมพันธ์ INTUCH ระบุว่า บริษัทยังเดินหน้าลงทุนในธุรกิจเติบโตสูงที่มีมูลค่ามากกว่าสตาร์ทอัพ(อินเว้นท์)ต่อเนื่องจากปัจจุบันลงทุนไปแล้ว 20 บริษัทมูลค่า 1 พันล้านบาท คาดภายในปี 65 มูลค่าลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 พันล้านบาท ตามการลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ    อ่านข่าวเกี่ยวข้อง ที่นี่ 

ขณะที่ธุรกิจสตาร์ทอัพในปีนี้จะลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 บริษัท ใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะนำสตาร์ทอัพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 2 แห่ง โดยคาดจะสามารถนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในปี 64 โดยมีมูลค่าบริษัทแห่งละประมาณ 1,000 ล้านบาท อ่านข่าวเกี่ยวข้อง ที่นี่ 

*** เน็ตฟรี 10 GB ประเด็นที่อาจกระทบในช่วงนี้
ทั้งนี้ INTUCH เองก็มีประเด็นที่เข้ามากระทบเช่นกัน โดยหลังจากที่ กสทช.อนุมัติงบ 3 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนอินเตอร์เน็ตฟรี 10 GB ให้กับประชาชนเป็นเวลา 30 วัน โดยคาดจะมีผู้เข้าร่วม 30 ล้านคนนั้น 

บล.ทิสโก้ ประเมินไว้ว่าประเด็นนี้จะเป็นดาบสองคม เพราะหากการใช้งานเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่กสทช.อุดหนุนน้อยเกินไปจะทำให้เป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสของผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

แต่ข้อดีก็คือ INTUCH จะสามารถรักษาฐานลูกค้าในกลุ่ม Low-end ได้ในช่วงที่กำลังซื้อซบเซา ดังนั้นมาตรการนี้จะช่วยหนุน ARPU ที่จะลดลงในไตรมาส 1 - 2/63 ได้ นอกจากนี้ลูกค้าจะชินกับการใช้ข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งจะจูงใจให้ใช้แพ็คเกจที่มีราคาสูงขึ้นในอนาคตหากเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

การขายหุ้นราคาถูกของ "เทมาเส็ก" น่าจะทำให้นักลงทุนเคลือบแคลงในการเติบโตของ INTUCH อยู่พอสมควร  แต่จำไว้ว่ามีคนขายก็ย่อมมี คนซื้อ แม้ในขณะนี้จะไม่มีทางรู้ได้ว่าเป็นใคร แต่คนที่ซื้อก็ย่อมต้องเห็นอะไรดีๆในบริษัทอยู่แล้ว ดังนั้นหากนักลงทุนไม่หวั่นไหวกับการขายหุ้นในครั้งนี้ และหันมามองที่พื้นฐานก็ลองตัดสินใจดูว่า ยังสมเหตุสมผลให้ลงทุนอยู่หรือไม่ ?
.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ ==>> http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?release=y&id=M0ZwbmxHNjlyVzg9
.
--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่ 
Website : https://www.efinancethai.com 
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/ 
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThai/ 
lTwitter : @eFinanceThai 
IG : @efinancethai_official 
line : @efin

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่