สวัสดีค่ะ _/\_ วันนี้ดิฉันจะมาแชร์ประสบการณ์การทำงานที่เรียกได้ว่า เลวร้ายที่สุด ตั้งแต่ทำงานวงการทัวร์มาเลยก็ได้ค่ะ ...
ดิฉันเป็นพนักงานขายทัวร์ในบริษัทแห่งหนึ่ง ปกติแล้วช่วงนี้จะเป็นช่วงที่งานเยอะของทุกๆปี ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ แต่ปีนี้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือ Covid-19 ทำให้คณะทัวร์มีปัญหา และนี่เองคือต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดค่ะ
ฝ่ายลูกค้าได้มีการเรียกร้องให้ทางบริษัทคืนเงินมัดจำให้ลูกค้าเต็มจำนวน ทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งทางบริษัทเองก็มีความตั้งใจที่จะคืนเงินให้ลูกค้า 100% อยู่แล้วค่ะ
แต่ทางบริษัทไม่สามารถทำได้ เพราะมีการจ่ายเงินล่วงหน้า และมัดจำค่าโรงแรมให้กับทางต่างประเทศ ไปแล้วบางส่วน(บริษัทขายทัวร์ที่โรงแรมคอนเฟิร์มตามรายการไม่ได้ขายแบบเทียบเท่าและเป็นโรงแรมที่ unique พวกนี้ถ้าไม่มีการจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าจะไม่มีวันได้ห้องอย่างแน่นอน) และทางต่างประเทศก็ไม่ได้จ่ายเงินคืนมาให้ทางบริษัทเหมือนกัน ทางบริษัทเลยไม่สามารถคืนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้าได้ แต่เราก็พยายามต่อรองให้อย่างสุดความสามารถเพื่อประโยชน์ของลูกค้า ซึ่งมีบางโรงแรมก็ให้เลื่อนการเข้าพัก แต่ยังไม่คืนเงิน ซึ่งถ้าไม่เข้าพักก็เท่ากับไม่ได้เงินคืนอยู่ดี
ส่วนเรื่องสายการบินสามารถทำคืนหรือเลื่อนการเดินทางได้แต่ก็มีค่าใช้ธรรมเนียมต่างๆแล้วแต่ policy ของแต่ละสายการบิน บางที่ก็ไม่สามารถทำคืนได้ ยิ่งตอนนี้ทางเมืองนอกเค้าทำงานแบบ WFH ทำให้การทำงานล่าช้าไปอีก ลูกค้าก็กดดันต่างๆนาๆ ขู่จะแจ้งความบ้าง แจ้ง ททท. บ้าง แจ้งนักข่าวบ้าง หาว่าฉวยโอกาสจากสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้บ้าง บางคนพูดจาหยาบคายใส่ หาว่าโกง หาว่าไม่ใช่มนุษย์ หาว่าไม่ยอมชี้แจ้งข้อมูลบ้าง ทางเราไม่ได้จะไม่ชี้แจงนะคะแแต่ บางคนชี้แจงแล้วก็ไม่ยอมเข้าใจรบกวนคุณลูกค้ารอนิดนึงเราทำงานกับต่างประเทศ และการชี้แจ้งค่าใช้จ่าย เอกสารบางอย่างส่งให้ไปก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ให้เข้ามาดูเอกสารในออฟฟิศก็ไม่มา แต่มีเวลาจะไปแจ้งความแจ้งศคบ เรื่องมันเลยไม่จบง่ายๆค่ะ โดนมาหลายรูปแบบเลย รู้สึกบั่นทอนต่ออาชีพมากๆ จะลาออกจากงานหรือสู้ต่อดีค่ะ เราก็เป็นแค่พนักงานเล็กๆคนหนึ่งไม่มีอำนาจต่อรองอะไรมากมาย จำเลย จำเป็น
เมื่อพนักงานขายทัวร์ ถูกเป็นจำเลยสังคมในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19
ดิฉันเป็นพนักงานขายทัวร์ในบริษัทแห่งหนึ่ง ปกติแล้วช่วงนี้จะเป็นช่วงที่งานเยอะของทุกๆปี ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ แต่ปีนี้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือ Covid-19 ทำให้คณะทัวร์มีปัญหา และนี่เองคือต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดค่ะ
ฝ่ายลูกค้าได้มีการเรียกร้องให้ทางบริษัทคืนเงินมัดจำให้ลูกค้าเต็มจำนวน ทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งทางบริษัทเองก็มีความตั้งใจที่จะคืนเงินให้ลูกค้า 100% อยู่แล้วค่ะ
แต่ทางบริษัทไม่สามารถทำได้ เพราะมีการจ่ายเงินล่วงหน้า และมัดจำค่าโรงแรมให้กับทางต่างประเทศ ไปแล้วบางส่วน(บริษัทขายทัวร์ที่โรงแรมคอนเฟิร์มตามรายการไม่ได้ขายแบบเทียบเท่าและเป็นโรงแรมที่ unique พวกนี้ถ้าไม่มีการจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าจะไม่มีวันได้ห้องอย่างแน่นอน) และทางต่างประเทศก็ไม่ได้จ่ายเงินคืนมาให้ทางบริษัทเหมือนกัน ทางบริษัทเลยไม่สามารถคืนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้าได้ แต่เราก็พยายามต่อรองให้อย่างสุดความสามารถเพื่อประโยชน์ของลูกค้า ซึ่งมีบางโรงแรมก็ให้เลื่อนการเข้าพัก แต่ยังไม่คืนเงิน ซึ่งถ้าไม่เข้าพักก็เท่ากับไม่ได้เงินคืนอยู่ดี
ส่วนเรื่องสายการบินสามารถทำคืนหรือเลื่อนการเดินทางได้แต่ก็มีค่าใช้ธรรมเนียมต่างๆแล้วแต่ policy ของแต่ละสายการบิน บางที่ก็ไม่สามารถทำคืนได้ ยิ่งตอนนี้ทางเมืองนอกเค้าทำงานแบบ WFH ทำให้การทำงานล่าช้าไปอีก ลูกค้าก็กดดันต่างๆนาๆ ขู่จะแจ้งความบ้าง แจ้ง ททท. บ้าง แจ้งนักข่าวบ้าง หาว่าฉวยโอกาสจากสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้บ้าง บางคนพูดจาหยาบคายใส่ หาว่าโกง หาว่าไม่ใช่มนุษย์ หาว่าไม่ยอมชี้แจ้งข้อมูลบ้าง ทางเราไม่ได้จะไม่ชี้แจงนะคะแแต่ บางคนชี้แจงแล้วก็ไม่ยอมเข้าใจรบกวนคุณลูกค้ารอนิดนึงเราทำงานกับต่างประเทศ และการชี้แจ้งค่าใช้จ่าย เอกสารบางอย่างส่งให้ไปก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ให้เข้ามาดูเอกสารในออฟฟิศก็ไม่มา แต่มีเวลาจะไปแจ้งความแจ้งศคบ เรื่องมันเลยไม่จบง่ายๆค่ะ โดนมาหลายรูปแบบเลย รู้สึกบั่นทอนต่ออาชีพมากๆ จะลาออกจากงานหรือสู้ต่อดีค่ะ เราก็เป็นแค่พนักงานเล็กๆคนหนึ่งไม่มีอำนาจต่อรองอะไรมากมาย จำเลย จำเป็น