สรุปมังงะนี้ก็เป็น One Shot ตอนเดียวจบจริงๆนั้นแหล่ะครับ ยัดใส่เล่มเดียวจบเลย 55 (สุดยอด) จะขอแยกเป็น 4 ตอนนะครับ ไหนๆก็เคยสปอยตอน 1 ไปแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/39191393
งั้นก็เอาให้จบเลยละกันนะครับ มาเริ่มกันเลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-ต่อจากตอนก่อน คาคิเนะจัดการกับพวก DA ผู้บ้าในความยุติธรรมจนหมด แล้วจับพวกนั้นมาให้ "โกคุไซ ไคบิ" (เกิร์ลอินเดรส) ใช้พลัง Measure Heart ของเธอซักถามข้อมูลว่าทำไม DA ถึงต้องการตัวริงโกะจัง (ได้รู้ความสามารถใหม่ของ Measure Heart ด้วยคือ เธอน่าจะสามารถจับกระแสคลื่นสมองของคนอื่นได้ ตอนแรกนึกว่าใช้ได้แค่ปรับระยะห่างทางอารมณ์อย่างเดียว) พวก DA ก็ตอบแต่แบบเดียวเพื่อความยุติธรรมนู้นนี่นั่น ไคบิก็จับจิตได้ว่าเคลื่อนสองของพวก DA เหมือนๆกัน ยังกับถูกใครบงการอยู่ หลังจากไม่ได้ความเพิ่มเติมแล้ว เธอก็เดินมาหาพวกคาคิเนะ แถมบ่นๆว่าใช้งานเธอหนักชะมัด 55 คาคิเนะก็ดูจะงงๆว่าพวก DA ตรรกะแปลกๆ เหมือนความคิดพวกนั้นสอดคล้องกันยังไงยังงั้น

-หลังจากที่พวกสมาชิก SCHOOL คุยกันเรื่อง DA ริงโกะที่หลับอยู่ห้องข้างๆก็โทรมาบอกว่าตนตื่นแล้ว คาคิเนะเลยบอกว่าให้ริงโกะตามคาคิเนะกับโยโบะมา จะพาไปที่ๆนึง ริงโกะจังก็ตอบรับแต่โดยดี ไคบิมีแซวว่าริงโกะดูเชื่อฟังเนะดีนะ ไปฝึกเธอมารึไง โยโบะถึงกับหน้าซีดเหงื่อตกนึกว่าเนะจับริงโกะไปฝึกอย่างทรมานเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่ง 55 ตัดมาที่ที่เนะพาริงโกะมาที่ที่เหมือนจะเป็นลานกว้าง (น่าจะที่เดียวกับที่เม่นกับบิริบิริไฟว์กันใน Railgun ตอนที่ 4) เนะเรียกชื่อ "ริงโกะ" แล้วบอกให้เธอแสดงพลังให้เนะดูหน่อย ริงโกะมีทึ่งนิดๆเพราะปกติเนะจะเรียกชื่อเต็มเธอ คราวนี้เรียกแค่ริงโกะ ริงโกะก็ใช้พลังขยับก้อนหินเล็กๆแต่หินแทบไม่ขยับ เนะเห็นแล้วก็จำได้ว่าในเอกสารบอกว่าริงโกะมีพลัง Telekinesis Level 1 แต่บางครั้งพลังก็พุ่งสูง เนะเห็นว่าถ้ามีเป้าให้ริงโกะเล็งจะดีกว่าเลยเสนอตัวเองให้ริงโกะใช้พลังปาหินใส่

-ริงโกะก็พยายามใช้พลังยกหิน แต่ไม่เวิร์ค เนะเลยสบถว่าสมกับเป็น Level 1-2 จริงๆ  แต่พลังเมื่อตอนที่ริงโกะทำใส่ DA คืออะไร? ต้องมีเงื่อนไขเหรอพลังถึงจะพุ่ง? เนะเลยให้โยโบะใช้ Psychokinesis Level 4 มาสู้กับตนดูเพื่อเป็นการสาธิตให้ริงโกะเห็น โยโบะส่ายหน้าทันควันแบบไม่อยากสู้ เนะเลยแทงใจดำใส่ว่า ตนจำได้นะตอนที่โยโบะยังเหลิงๆอยู่แล้วมาท้าเนะสู้นะ โยโบะเหงื่อตกทันทีจนเกือบอ้วก สุดท้ายก็ต้องรับคำท้า

-โยโบะบอกเนะว่าอย่าคลั่งซะหล่ะถ้าตนโจมตีโดนเนะ พร้อมใช้พลังยกเสาไม้ปลายแหลมไปพุ่งเฉี่ยวผมคาคิเนะ ริงโกะชายตามองมาที่โยโบะจนโยโบะคิดว่าริงโกะทึ่งในพลังตนเอง สุดท้ายพี่แกโดนริงโกะเตะหลังขาจนทรุด เพราะริงโกะไม่สบอารมณ์ที่โยโบะไปโจมตีเนะ 55 เนะก็บอกไม่ต้องห่วงหรอก อย่างโยโบะเนี่ยนะจะมาทำอะไรเนะได้ (สงสารโยโบะจริง 55)

-เนะให้ริงโกะฝึกต่อ สักพักก้อนหินก็ลอยขึ้นไป ริงโกะคิดว่าตนทำได้แล้ว แต่ไม่ใช่ มีโดรนใช้เชือกจับก้อนหินขึ้นไปต่างหาก โดรนลำนั้นก็มีเสียงผู้หญิงปริศนาออกมาจากโดรนบอกว่าตนเป็น 1 ในผู้เหลือรอดจาก Dark May Project และขอให้เนะช่วยพาริงโกะมาหาเธอหน่อย เดี๋ยวบอกข้อมูลของริงโกะที่เนะต้องการให้

-เนะเห็นว่าตนเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นตนก็ปกป้องตัวเองกับริงโกะได้ แถมได้ข้อมูลอีกจึงรับคำเชิญของเสียงปริศนา โดรนก็พาพวกเนะมาที่โรงงานลูกกวาด เนะบอกให้โยโบะเฝ้าข้างนอก แล้วเนะกับริงโกะก็ตามโดรนเข้าไป และเห็นห้องทดลองข้างใต้โรงงานลูกกวาด ริงโกะดูเหมือนจะรู้จักทีนี้ ใช่มันคือแล็บที่ริงโกะเคยถูกจับมาทดลองในอดีต!!


-และเจ้าของเสียงปริศนาก็โผล่ออกมา เธอคือ "คุโรโยรุ อุมิโดริ" เธอใช้รีโมทกดให้พื้นที่เธอกับริงโกะยืนอยู่ยกตัวขึ้นข้างบนและใช้กระจกกั้นคาคิเนะเอาไว้ เนะสบถบอกเดี๋ยวทำลายกระจกให้ดู อุมิโดริก็บอกว่าห้องทดลองนี้มีไว้เพื่อกันพวกพลังจิตนะ แต่เนะคงทำลายได้ยุแล้ว (ขนาดแอคเซ่เคยเอาเท้าเตะเบาๆยังทำประตูเกือบพัง) แต่ถ้าเนะทำลายเข้ามา เศษกระจกได้บาดริงโกะเละเป็นชิ้นแน่ เนะหน่ะอยู่เฉยๆแล้วเก็บข้อมูลของริงโกะกับเธอระหว่างสู้กันดีกว่า ส่วนอุมิโดริก็ได้สู้กับริงโกะดั่งหวัง ถือเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย


-อุมิโดริบอกว่าริงโกะจะพลังพุ่งตอนที่เธอกดดัน เนะก็สงบลงเพราะต้องการข้อมูลของริงโกะเพื่อไปซัดกับแอคเซ่ยุแล้ว แต่ในใจก็นึกถึงคำที่ริงโกะเคยชมปีกของตนด้วย ตัดมาที่การต่อสู้ ริงโกะเอาแต่หนีอย่างเดียว อุมิโดริก็ใช้พลัง Bomber Lance Level 4 ของเธอสร้างหอกในโตรเจนจากฝ่ามือยิงรัวใส่ริงโกะจังลูกเดียว แล้วบอกว่าถ้าอยากรอดก็สู้สิเว้ยยย 

-อุมิโดริเห็นว่าริงโกะไม่ยอมตอบโต้อะไรเลย ก็แซวว่า ริงโกะนี่เป็นแค่ของทดลองที่ล้มเหลวจริงๆ และแล้วคำพูดนั้นก็ไปกระตุ้นริงโกะ จนเข้าโหมดแอคเซ่ แล้วใช้พลังหยุดการโจมตีของอุมิโดริที่กำลังฟาดลงมาใส่กบาล และสวนกลับจนอุมิโดริเซกลับหลัง

-ริงโกะพอเข้าโหมดนี้แล้ว วิธีพูดจากวนประสาทศัตรูนี่เหมือนแอคเซ่เปี๊ยบเลยครับ อุมิโดริเหมือนจะดีใจที่ริงโกะเข้าโหมดนี้ เธอจึงบอกว่าเปลี่ยนที่สู้กัน แล้ววิ่งไปตามทางเดิน ภาพตัดมาที่คาคิเนะที่กำลังดูพวกริงโกะสู้อยู่ผ่านทางจอมอนิเตอร์ ก็เห็นว่าอุมิโดริปลี่ยนที่สู้ไปใช้อีกที่นึง เป็นห้องแล็บเหมือนกัน คาคิเนะดูงงๆว่าอุมิโดริจะย้ายที่ทำไม มันก็ห้องแล็บเหมือนกันนี่นา?

-ริงโกะจังก็เดินตามอุมิโดริมาพร้อมพูดกวนประสาทไปตามทาง เมื่อถึงอีกห้องแล็บนึง ก็พบว่าเป็นห้องที่สภาพเละเทะ ผนังผุผังแตกหัก และมีเศษซากกองผนังขนาดใหญ่กองรวมกันอยู่ตรงจุดนึง ข้างใต้มันมีคราบเลือดของใครบางคนอยู่ เมื่อริงโกะจังเห็นเลือดนั้นก็เหมือนไปกระตุ้นความทรงจำของเธอในอดีตออกมาพร้อมกับกรีดร้องดังสนั่นหวั่นไหว!!!