กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF)
Q: กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) หรือที่เรียกว่า กองทุน SSF แตกต่างจากกองทุนรวมอื่นๆอย่างไร
A: กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) หรือที่เรียกว่า กองทุน SSF เป็นกองทุนที่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดามีการออมระยะยาวมากขึ้นด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยผู้ลงทุนสามารถหักลดหย่อนเงินที่ลงทุนในกองทุน SSF ในปีภาษี 2563 ถึง 2567 และผู้ลงทุนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากการขายคืนกองทุน SSF
Q: กองทุน SSF มีเงื่อนไขในการลงทุนอย่างไรบ้าง
A: กองทุน SSF มีเงื่อนไขในการลงทุนดังนี้
· ไม่กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน
· จำนวนเงินลงทุนสูงสุดในแต่ละปีภาษี
o ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
o ไม่เกิน 200,000 บาท
o ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ (กองทุน RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ)
· ไม่กำหนดเงื่อนไขในการซื้อต่อเนื่อง
· ระยะเวลาการลงทุนไม่น้อยกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
Q: กองทุนรวมเพื่อการออม ชนิดเพื่อการออมพิเศษ หรือที่เรียกว่า กองทุน SSF Extra หรือ SSFX แตกต่างจากกองทุน SSF อย่างไร
A: กองทุนรวมเพื่อการออม ชนิดเพื่อการออมพิเศษ หรือที่เรียกว่า กองทุน SSF Extra หรือ SSFX เกิดขึ้นจกมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน โดยให้ประชาชนทั่วไปหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund หรือ SSF) ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท โดยไม่ขึ้นอยู่กับเงินได้พึงประเมิน และแยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนใน SSF กรณีปกติ และไม่อยู่ภายใต้เพดานวงเงินหักลดหย่อนรวมในกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด โดยต้องซื้อระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี
วัตถุประสงค์
ส่งเสริมการออมระยะยาวของบุคคลธรรมดา
ส่งเสริมการออมระยะยาวของบุคคลธรรมดา
สร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน
หลักทรัพย์ที่ลงทุน
หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่า 65%
หลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่า 65%
วันที่ลงทุนเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ภายในปี 2563 - 2567
วัน 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563
จำนวนเงินลงทุนสูงสุดที่สามารถลดหย่อนภาษี
ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ
SSF
+ RMF + PVF + GPF + NSF + Annuity + PTAF
* PTAF คือ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และ
ไม่เกิน 200,000 บาท
ไม่เกิน 200,000 บาท
แยกจาก SSF และกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่นๆ
ระยะเวลาลงทุน
ไม่น้อยกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
ไม่น้อยกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
ขอบคุณบทความดีดีจาก ผศ.ดร. ธนาวัฒน์ สิริวัฒน์ธนกุล CFP®
ภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กรรมการสมาคมนักวางแผนการเงินไทย
www.thaipfa.co.th
กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF)
Q: กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) หรือที่เรียกว่า กองทุน SSF แตกต่างจากกองทุนรวมอื่นๆอย่างไร
A: กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) หรือที่เรียกว่า กองทุน SSF เป็นกองทุนที่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดามีการออมระยะยาวมากขึ้นด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยผู้ลงทุนสามารถหักลดหย่อนเงินที่ลงทุนในกองทุน SSF ในปีภาษี 2563 ถึง 2567 และผู้ลงทุนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากการขายคืนกองทุน SSF
Q: กองทุน SSF มีเงื่อนไขในการลงทุนอย่างไรบ้าง
A: กองทุน SSF มีเงื่อนไขในการลงทุนดังนี้
· ไม่กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน
· จำนวนเงินลงทุนสูงสุดในแต่ละปีภาษี
o ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
o ไม่เกิน 200,000 บาท
o ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ (กองทุน RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ)
· ไม่กำหนดเงื่อนไขในการซื้อต่อเนื่อง
· ระยะเวลาการลงทุนไม่น้อยกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
Q: กองทุนรวมเพื่อการออม ชนิดเพื่อการออมพิเศษ หรือที่เรียกว่า กองทุน SSF Extra หรือ SSFX แตกต่างจากกองทุน SSF อย่างไร
A: กองทุนรวมเพื่อการออม ชนิดเพื่อการออมพิเศษ หรือที่เรียกว่า กองทุน SSF Extra หรือ SSFX เกิดขึ้นจกมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน โดยให้ประชาชนทั่วไปหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund หรือ SSF) ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท โดยไม่ขึ้นอยู่กับเงินได้พึงประเมิน และแยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนใน SSF กรณีปกติ และไม่อยู่ภายใต้เพดานวงเงินหักลดหย่อนรวมในกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด โดยต้องซื้อระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี
วัตถุประสงค์
ส่งเสริมการออมระยะยาวของบุคคลธรรมดา
ส่งเสริมการออมระยะยาวของบุคคลธรรมดา
สร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน
หลักทรัพย์ที่ลงทุน
หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่า 65%
หลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่า 65%
วันที่ลงทุนเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ภายในปี 2563 - 2567
วัน 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563
จำนวนเงินลงทุนสูงสุดที่สามารถลดหย่อนภาษี
ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ
SSF
+ RMF + PVF + GPF + NSF + Annuity + PTAF
* PTAF คือ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และ
ไม่เกิน 200,000 บาท
ไม่เกิน 200,000 บาท
แยกจาก SSF และกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่นๆ
ระยะเวลาลงทุน
ไม่น้อยกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
ไม่น้อยกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
ขอบคุณบทความดีดีจาก ผศ.ดร. ธนาวัฒน์ สิริวัฒน์ธนกุล CFP®
ภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กรรมการสมาคมนักวางแผนการเงินไทย
www.thaipfa.co.th