ขอบอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนที่ใจเย็นที่สุด ใครทำให้ฉุนเฉียวยังไงก็น้อยที่จะแสดงอารมณ์ อาจจะมีตึงหน้าใส่บ้างแต่แปบๆ ก็จะกลับมายิ้มแย้มไม่สนใจสิ่งที่ผ่านมา
เริ่มต้นเลยนะ คือเราทำงานิยู่ในจังหวัดหนึ่ง พักอยู่คนเดียวอย่างสบายใจ เป็นบุคคลประเภทกึ่ง Introvert ด้วยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้อง ติดหูฟัง ชอบเปิดเพลงคลอเบาๆ เวลาอยู่คนเดียว จนมาเมื่อเดือนก่อน หลานที่อยู่บ้านนอกอายุครบ 18 ปีและเพิ่งจบ กศน. มาหมาดๆ อยากขึ้นมาหางานทำเลยมาอาศัยอยู่ด้วย และด้วยความที่เราก็ใจดีในระดับหนึ่งเลยเปิดประตูน้ำใจรับเขาเข้ามาเป็นรูมเมท ทุกอย่างปกติดีมาก เราคุยกันสนุกสนานไม่มีใครเงียบเชียบ มีเรื่องชวนคุยตบมุขนุ่น นี่ นั่นเสมอ และเมื่อถึงเวลาที่จะนอน ด้วยความที่เราชอบเปิดเพลงฟังเบาๆ จนหลับไปและตั้งเวลาปิดอัตโนมัติด้วย เลยหลับสบายไปทั้งคืนยิ่งกว่าใส่ผ้าอนามัยสูตรเย็น แต่!!!! ในระหว่างที่เรากำลังจะหลับนั่น จู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่นเต็มตาเพราะหลานเลื่อนดู Tiktok ในโทรศัพท์ของตัวเองพร้อมกับการเปิดเสียงที่ดีงสนั่น คำแรกในหัวที่โผล่มาคือแบบ What ? ทำไมถึงเปิดเสียงดังอะไรขนาดนั้น ไอ้เรานั้นอยากจะนอนเต็มตื่นเลยบอกหลานไปด้วยเสียงนุ่มนวลว่า "หนูจ๋า นอนได้แล้ว พรุ่งนี้พี่ต้องทำงานเช้า" แล้วหลานก็บอกว่าโอเคพร้อมกับหรี่เสียงลง แต่!!!! นั่นคือหรี่เสียงแล้วหรือ อยากจะบ้าตาย ด้วยความที่เตือนแล้วเลยไม่อยากเตือนอีกเพราะเดี๋ยวหลานจะหาว่าเรานั้นดุเขาหรือเปล่า เลยพยายามข่มตานอนหากแต่นั่นคือการฝึนตัวเองความง่วงงุนเลยไม่เกิด จนหลานเลิกเล่นเราถึงนอนอย่างสบายใจ
คืนแรกผ่านไป Night 2 ก็ตามมา หลานยังทำอย่างเดิมจนเรารำคาญมาก ถึงมากที่สุดแต่ก็เก็บห้วงอารมณ์ไว้ในใจไม่ว่าอะไร จนทนไม่ไหวจึงเตือนออกไปอีกครั้งเหมือนเดิมว่าพี่ต้องทำงานเช้า หลานก็แค่พยักหน้าแล้วก็หรี่เสียงลง เมือนเส้นด้ายอารมณ์กำลังจะขาด วันถัดมาจึงไปซื้อหูฟังในเซเว่นมาให้หลานพร้อมบอกว่าพี่ซื้อให้ ช่วงแรกหลานใส่นอนเล่นทุกคืนเราสบายใจ หลับไปพร้อมกับพระอินทร์ แต่ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเช่นเดิมเมื่อหลรนกลับมาทำอีหรอบซ้ำ อ่ะด้วยความที่เราไม่อยากว่าอะไรเลยถามไปว่า หูฟังที่พี่ซื้อใหไปไหนแล้ว หลานตอบมาอย่างสุดช็อก "อ๋อ อยู่นั่น หนูเก็บไว้" เราเลยถามไปอีกว่ามันพังหรือ ยิ่งช็อกมากกว่าเดิมกับคำตอบที่ได้รับ
"ไม่พังหรอก ไม่อยากใส่ เกะกะหู" กรี๊ดอยากจะสลบกับคำตอบที่ได้รับ ยัยน้องทำไมตอบมาแบบนี้ เพราะความที่ได้รับคำตอบแบบนั้น ตัวฉันเองเลยต้องปล่อยเลยตามเลยไปแต่ก็ยังพยายามเือนในบางวัน
จนถึงเมื่อวานนี้
อดไม่ไหวในไม่ไหวจริงๆ มันทุกวันจนเกินไป จนอดทนไม่ไหว อ่ะ เจอเลย เราโหลด Tiktok มาบ้าง แล้วเปิด
สุดเสียง ให้น้องมันได้รับความรู้สึกแบบเราบ้าง แต่เหมือนจะไม่มีอะไรสะทกสะท้านแม้แต่น้อย ซ้ำยังเปิดแข่งอีกต่างหาก เออ! ยอมแพ้ ข่มตารอนอนจนกว่ามันจะปิดไป
และก็มาถึงวันนี้
หลานยังคงทำแบบเดิม และเราทนไม่ไหวแล้ว ไม่อยากใช้อารมณด่าทอเพราะนั่นไม่ใช่เราที่แท้จริง เลยประชดโดยการเปิดเพลงดังๆ ใส่หูฟังกลบเสียง Tiktok ซะแล้วก็นั่ง เล่นเกมมองมันไปแบบนั้นแหละ ทำหน้าบูดใส่ด้วยเผื่อมันจะรู้ตัว แต่เปล่าจ้า ความสำนึกอยู่หนใด ทำใส่เข้าไปใหญ่ เรานั่งมิงหลานก็ไม่นอน ทำใส่มาหลานก็ประชดกลับ เล่นโทรศัพท์พร้อมเปิดเสียงดังใส่อีก จนเวลานี้ก็ยังไม่หยุดเล่น!!!!
โอเค เส้นด้ายในหัวยังไม่ขาด เหลือเพียงเสี้ยว
ท่องไว้ว่าใจเย็*แม่*สั*
เส้นได้ในหัวขาดเมื่อไร วันไหนระเบิดลงอย่ามาว่าก็แล้วกัน
ขอบคุณที่ให้ระบายอารมณ์ขอรับ
ยังไม่นอน นั่งมองหลานเหมือนเดิม
หากแท็กห้องผิดกระผมขออภัยด้วยนะขอรับ
ปล. พยายามหาแท็กให้ตรงที่สุดแล้วขอรับ
รำคาญ!!! ทั้งๆ ที่เราเป็นคนใจเย็นสุดๆ แล้วนะ แต่ไอ้น้อง...กลับทำแบบนี้ใส่เหรอ?
เริ่มต้นเลยนะ คือเราทำงานิยู่ในจังหวัดหนึ่ง พักอยู่คนเดียวอย่างสบายใจ เป็นบุคคลประเภทกึ่ง Introvert ด้วยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้อง ติดหูฟัง ชอบเปิดเพลงคลอเบาๆ เวลาอยู่คนเดียว จนมาเมื่อเดือนก่อน หลานที่อยู่บ้านนอกอายุครบ 18 ปีและเพิ่งจบ กศน. มาหมาดๆ อยากขึ้นมาหางานทำเลยมาอาศัยอยู่ด้วย และด้วยความที่เราก็ใจดีในระดับหนึ่งเลยเปิดประตูน้ำใจรับเขาเข้ามาเป็นรูมเมท ทุกอย่างปกติดีมาก เราคุยกันสนุกสนานไม่มีใครเงียบเชียบ มีเรื่องชวนคุยตบมุขนุ่น นี่ นั่นเสมอ และเมื่อถึงเวลาที่จะนอน ด้วยความที่เราชอบเปิดเพลงฟังเบาๆ จนหลับไปและตั้งเวลาปิดอัตโนมัติด้วย เลยหลับสบายไปทั้งคืนยิ่งกว่าใส่ผ้าอนามัยสูตรเย็น แต่!!!! ในระหว่างที่เรากำลังจะหลับนั่น จู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่นเต็มตาเพราะหลานเลื่อนดู Tiktok ในโทรศัพท์ของตัวเองพร้อมกับการเปิดเสียงที่ดีงสนั่น คำแรกในหัวที่โผล่มาคือแบบ What ? ทำไมถึงเปิดเสียงดังอะไรขนาดนั้น ไอ้เรานั้นอยากจะนอนเต็มตื่นเลยบอกหลานไปด้วยเสียงนุ่มนวลว่า "หนูจ๋า นอนได้แล้ว พรุ่งนี้พี่ต้องทำงานเช้า" แล้วหลานก็บอกว่าโอเคพร้อมกับหรี่เสียงลง แต่!!!! นั่นคือหรี่เสียงแล้วหรือ อยากจะบ้าตาย ด้วยความที่เตือนแล้วเลยไม่อยากเตือนอีกเพราะเดี๋ยวหลานจะหาว่าเรานั้นดุเขาหรือเปล่า เลยพยายามข่มตานอนหากแต่นั่นคือการฝึนตัวเองความง่วงงุนเลยไม่เกิด จนหลานเลิกเล่นเราถึงนอนอย่างสบายใจ
คืนแรกผ่านไป Night 2 ก็ตามมา หลานยังทำอย่างเดิมจนเรารำคาญมาก ถึงมากที่สุดแต่ก็เก็บห้วงอารมณ์ไว้ในใจไม่ว่าอะไร จนทนไม่ไหวจึงเตือนออกไปอีกครั้งเหมือนเดิมว่าพี่ต้องทำงานเช้า หลานก็แค่พยักหน้าแล้วก็หรี่เสียงลง เมือนเส้นด้ายอารมณ์กำลังจะขาด วันถัดมาจึงไปซื้อหูฟังในเซเว่นมาให้หลานพร้อมบอกว่าพี่ซื้อให้ ช่วงแรกหลานใส่นอนเล่นทุกคืนเราสบายใจ หลับไปพร้อมกับพระอินทร์ แต่ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเช่นเดิมเมื่อหลรนกลับมาทำอีหรอบซ้ำ อ่ะด้วยความที่เราไม่อยากว่าอะไรเลยถามไปว่า หูฟังที่พี่ซื้อใหไปไหนแล้ว หลานตอบมาอย่างสุดช็อก "อ๋อ อยู่นั่น หนูเก็บไว้" เราเลยถามไปอีกว่ามันพังหรือ ยิ่งช็อกมากกว่าเดิมกับคำตอบที่ได้รับ "ไม่พังหรอก ไม่อยากใส่ เกะกะหู" กรี๊ดอยากจะสลบกับคำตอบที่ได้รับ ยัยน้องทำไมตอบมาแบบนี้ เพราะความที่ได้รับคำตอบแบบนั้น ตัวฉันเองเลยต้องปล่อยเลยตามเลยไปแต่ก็ยังพยายามเือนในบางวัน
จนถึงเมื่อวานนี้
อดไม่ไหวในไม่ไหวจริงๆ มันทุกวันจนเกินไป จนอดทนไม่ไหว อ่ะ เจอเลย เราโหลด Tiktok มาบ้าง แล้วเปิดสุดเสียง ให้น้องมันได้รับความรู้สึกแบบเราบ้าง แต่เหมือนจะไม่มีอะไรสะทกสะท้านแม้แต่น้อย ซ้ำยังเปิดแข่งอีกต่างหาก เออ! ยอมแพ้ ข่มตารอนอนจนกว่ามันจะปิดไป
และก็มาถึงวันนี้
หลานยังคงทำแบบเดิม และเราทนไม่ไหวแล้ว ไม่อยากใช้อารมณด่าทอเพราะนั่นไม่ใช่เราที่แท้จริง เลยประชดโดยการเปิดเพลงดังๆ ใส่หูฟังกลบเสียง Tiktok ซะแล้วก็นั่ง เล่นเกมมองมันไปแบบนั้นแหละ ทำหน้าบูดใส่ด้วยเผื่อมันจะรู้ตัว แต่เปล่าจ้า ความสำนึกอยู่หนใด ทำใส่เข้าไปใหญ่ เรานั่งมิงหลานก็ไม่นอน ทำใส่มาหลานก็ประชดกลับ เล่นโทรศัพท์พร้อมเปิดเสียงดังใส่อีก จนเวลานี้ก็ยังไม่หยุดเล่น!!!!
โอเค เส้นด้ายในหัวยังไม่ขาด เหลือเพียงเสี้ยว
ท่องไว้ว่าใจเย็*แม่*สั*
เส้นได้ในหัวขาดเมื่อไร วันไหนระเบิดลงอย่ามาว่าก็แล้วกัน
ขอบคุณที่ให้ระบายอารมณ์ขอรับ
ยังไม่นอน นั่งมองหลานเหมือนเดิม
หากแท็กห้องผิดกระผมขออภัยด้วยนะขอรับ
ปล. พยายามหาแท็กให้ตรงที่สุดแล้วขอรับ