กังวลเกี่ยวกับอาการไอ

เราป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอตอนเดือนกุมภา และมีอาการไอติดต่อกันนาน2-3 สัปดาห์ และค่อย ๆ ดีขึ้นจนเกือบหายไอเป็นปกติ
.
หลังจากนั้นต้นเดือนมีนาคมก็เริ่มเจ็บคอ เจ็บไม่มาก ทานยาพาราก็หาย ประมาณ 3 วันเราก็เริ่มไอ แต่ไอตอนกลางคืน ช่วงเย็น ๆ ไปถึงจนเช้า ซื้อยาแก้ไอและแก้แพ้จากร้านขายยามา ก็ดีขึ้นแต่ก็ไม่หายไอ มีเสมหะใสๆ ตอนไอ **ไม่มีไข้ ไม่มีน้ำมูก**
.
เราไอติดต่อกันประมาณ 3-4สัปดาห์ เมื่อคืนตอนนอน หลังจากที่ไอมีเสียงหวืด ดังตอนหายใจเหมือนออกมาจากอก รู้สึกตกใจมาก อีกวันเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาล
.
พยาบาลมาวัดไข้ให้เรา ครั้งแรกได้ 37.5 ครั้งที่สองได้ 37.0 ซักประวัติ กินข้าวได้ดี น้ำหนักไม่ลด (มีแต่น้ำหนักเพิ่ม) และเอ็กซเรย์ปอด ให้เราเข้าพบหมอ ซึ่งเราไม่ได้เดินทางไปในสถานที่สุ่มเสี่ยงใด ๆ ไม่ได้ใกล้ชิดกับผุ้ป่วยโควิด เพราะในตำบลของเรายังไม่มีการติดเชื้อ ไม่มีคนใกล้ชิดเดินทางมาจากต่างประเทศ หมอบอกว่าปอดปกติดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ห่วงเรื่องวัณโรคปอด และมะเร็งปอดมากกว่า เพราะไอติดต่อกันนานมาก
.
หมอซักถามอาการ แต่ไม่ได้ฟังปอด แล้วสั่งยาแก้ไอ ลดเสมหะ และให้ระวังเรื่องหมอกควัน เพราะจังหวัดของเราหมอกควันหนักมาก เราแสบจมูกอยู่ตลอดเวลา และกลับบ้าน
.
ตอนเช้ามีเจ็บคอ ปวดหัว และมีน้ำมูกเล็กน้อย สายๆ ก็ไม่มีน้ำมูกแล้ว เราโทรสอบถามเรื่องการตรวจโควิทไปที่รพ.กลาง (รัฐ) ที่เป็นศูนย์คัดกรองและตรวจโควิท เจ้าหน้าที่ซักถามว่าเราได้ไปให้ที่สุ่มเสี่ยงสถานที่...... หรือไม่ ได้ใกล้ชิดต่อต่อผู้ป่วย หรือกลับจากต่างประเทศหรือไม่ คำตอบคือไม่ แต่เรามีอาการไอ... เจ้าหน้าที่บอกว่า ยังไม่รับตรวจ จะตรวจให้กับผู้ที่เดินทางมากจากสถานที่สุ่มเสี่ยงก่อน แล้ววางสายไป
.
รบกวนผู้รู้ คุณหมอ ผู้มีประสบการณ์ ช่วยแนะนำทีค่ะ ควรทำอย่างไร เรากังวัลมาก ๆ หรืออาจจะเป็นภูมิแพ้หรือหวัดธรรมดา เราคอยวัดไข้ตัวเองทุกชั่วโมง วัดได้ 37-37.2 ค่ะ
.
การไปตรวจที่รพ.เอกชนมีค่าใช้จ่าย 7500-10000 ซึ่งมันแพงและเราไม่มีเงินที่จะตรวจ ที่บ้านมีเด็กอยู่ด้วยหลายคน แต่ยังไม่มีใครป่วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่