ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ มีหลายธุรกิจออกมาช่วยเหลือผู้เดือดร้อน เช่น ธนาคารออกมาผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระเงินกู้ แม้แต่บ้านเช่าหลายที่ลดราคาหรือยกเลิกการเก็บค่าเช่าในช่วงวิกฤตนี้ ฯลฯ แต่มีธุรกิจหนึ่งไม่เคยออกมาช่วยลูกค้าเลย นั่นคือ บริษัทประกันชีวิต อย่างน้อยถ้าจะช่วยเหลือกัน เช่น ยืดเวลาการชำระเบี้ยประกัน จากที่ต้องชำระเดือน มี.ค. ผ่อนปรนให้อีก 6 เดือน เป็นต้น เพื่อช่วยสภาพคล่องของลูกค้าที่ทำประกัน

 นั่นเพราะบริษัทประกันรอจังหวะนี้อยู่ จังหวะที่เกิดวิกฤตการณ์ คนไม่มีเงินแล้วเวนคืนประกันก่อนกำหนดแล้วขาดทุนมโหฬาร หรือไม่ก็ยอมกู้เงินจากกรมธรรม์โดยจ่ายดอกเบี้ยแพง ๆ ทั้งที่เป็นเงินตัวเองแท้ ๆ บริษัทรอกินผลประโยชน์นี้อยู่แล้ว เลยทำให้ไม่มีความช่วยเหลือใด ๆ จากบริษัทประกันชีวิตเลย

 ประกันสะสมทรัพย์เป็นกับดักทางการเงินอย่างหนึ่ง ที่ถ้าใครไม่รู้ไม่เข้าใจเผลอไปทำเข้าล่ะก็ เหมือนอ้อยเข้าปากช้างแล้วเอาคืนไม่ได้ ประกันสะสมทรัพย์ไม่ใช่เงินออม การออมคือเงินเก็บที่สามารถนำมาใช้ได้ในช่วงวิกฤติ แต่วิกฤตการณ์อย่างนี้เงินออมนี้นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังซ้ำเติมโดยการบังคับให้เราจ่ายเบี้ยต่อไปอีก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ล่ะก็อย่าทำเด็ดขาด

==============================================================================

ยิ่งถ้าย้อนกลับไปตอนมหาอุทกภัยปี 2554 ก็ไม่มีความช่วยเหลือใด ๆ จากบริษัทประกันชีวิตเลย