ข้อมูลจาก DEFNET News
กองทัพบกบราซิลได้ตีพิมพ์เอกสารสองฉบับซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดรถถังหลักใหม่ (MBT)โดยมีชื่อโครงการว่า"Viatura Blindada de Combate-Carro de Combate" (VBC-CC)
โดยมีการระบุข้อมูลทางเทคนิคว่าเป็นยานเกราะ สามารถบรรจุพลรถไม่น้อยกว่า 4 นาย ที่มีน้ำหนักสูงสุดไม่น้อยกว่า 50 ตัน มีขนาดสูงสุดไม่น้อยกว่า 12 เมตร กว้างไม่น้อยกว่า4 เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 60 กม. / ชม. ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 400 กม.
เครื่องยนต์สามารถใช้เชื้อเพลิงหลายประเภท มีระบบส่งกำลังแบบกึ่งอัตโนมัติหรือแบบอัตโนมัติ
ป้อมปืนมีระบบขับเคลื่อนแบบแมนนวลและแบบไฟฟ้า พร้อมทั้งแพร่ความร้อนต่ำและลดการตัวจับของเรดาร์ ปืนหลักต้องติดตั้งปืนลำกล้องเรียบที่มีความเสถียรและแรงถีบต่ำ ขนาดไม่น้อยกว่า 120 มม. ปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62 มม. ปืนกล 12.7 มม.ติดตั้งบนป้อมรีโหมด และแท่นยิงระเบิดควัน 76 มม. จำนวน8ท่อยิง
เอกสารยังระบุว่ารถต้องมีระบบไฟฟ้า 24V; ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบควบคุมการยิงพร้อมคอมพิวเตอร์, ระบบตรวจสภาพอากาศ, ระบบติดตามเป้าหมายอัตโนมัติ,ระบบวัดระยะด้วยเลเซอร์,ระบบจับภาพความร้อนสำหรับผู้บังคับการรถถังและพลยิง, เครื่องปรับอากาศ, ระบบควบคุมและสั่งการประกอบด้วยวิทยุ,ระบบโทรศัพท์อินเตอร์คอม,ระบบการจัดการการต่อสู้ (BMS) ,ชุดป้องกันสารเคมี ชีวภาพ รังสีและ นิวเคลียร์ ทั้งนี้รถถังหลักใหม่ยังต้องมีระบบป้องกันแบบ APS แบบ hard-kill หรือ soft-kill พร้อมสามารถติดตั้งเกราะเสริมและระบบป้องกันการเกิดสะเก็ดในตัวรถ
โดยปัจจุบันกองทัพบกบราซิลมีรถถังLeopard 1A5 BR ซึ่งเป็นรถถังที่มีความทันสมัยมากที่สุดที่กองทัพบกบราซิลมีประจำการ โดยจัดหาจากเยอรมันในปี 2549 จำนวน 220 คัน และมีรถถังหลักแบบLeopard 1A5 อีก 126คันซึ่ฃทั้งหมดเป็นรถถังมือสอง และรถถังหลักแบบM60A3 TTS ซึ่งที่จัดหามือสองจากสหรัฐฯ ในช่วงปี 2538-2539
เครดิต
https://www.facebook.com/DEFNETOfficial/?__tn__=%2Cd%2CP-R&eid=ARAgsrGF-qmG6_DI28sEsP6gCh0DgwXjrXDlJ2Oan73csazRo_MIkuQVPNuYh96q_5DzpjeaYrwTXjdO
https://www.janes.com/article/95218/brazilian-army-releases-requirements-for-its-new-mbt-project
จริงๆบราซิลเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตอาวุธเองได้ดีมาก และเคยผลิตรถถังมาแล้ว คือ
EE-T1/T2 Osorio เพื่อนำไปแข่งขันในโครงการจัดหารถถังของซาอุช่วงต้นยุค 90s ในการทดสอบปรากฏว่ารถถังบราซิลรุ่นนี้สามารถชนะโครงการได้ด้วย โดยชนะทั้ง M1 สหรัฐ AMX 40 ฝรั่งเศส และ Challenger 1 จากอังกฤษได้ แต่เกิดวิกฤตอ่าวครั้งแรกก่อน อิรักบุกคูเวต ทำให้โครงการนี้โดนยกเลิกและต่อมาซาอุก็จัดหา M1 จากสหรัฐแทน ที่ซวยมากกว่านั้นคือรัฐบาลบราซิลไม่ได้ช่วยซื้อเพื่อคงสายการผลิตเอาไว้ด้วย เนื่องจากตอนนั้นบราซิลพึงเปลี่ยนจากระบบเผด็จการทหารมาเป็นประชาธิปไตยหมาดๆ รัฐบาลใหม่เลยไม่อยากทุ่มเงินกับโครงการทหาร ทำให้บริษัท Engesa ที่ผลิตรถถังต้องปิดตัวไปอย่างน่าเสียดาย
https://en.wikipedia.org/wiki/EE-T1_Os%C3%B3rio
ครั้งนี้น่าจับตาว่า บราซิลจะผลิตเองทั้งหมด หรือจะให้ต่างชาติเสนอแบบมา แต่ด้วยศักยภาพด้านอุสหกรรมผลิตอาวุธของบราซิล ที่มีมูลค่าใหญ่เป็นอันดับสองในทวีปอเมริกาทั้งหมด รองจากสหรัฐ จึงคาดว่าน่าจะผลิตเอง
กองทัพบกบราซิลเตรียมจัดหารถถังหลักใหม่
กองทัพบกบราซิลได้ตีพิมพ์เอกสารสองฉบับซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดรถถังหลักใหม่ (MBT)โดยมีชื่อโครงการว่า"Viatura Blindada de Combate-Carro de Combate" (VBC-CC)
โดยมีการระบุข้อมูลทางเทคนิคว่าเป็นยานเกราะ สามารถบรรจุพลรถไม่น้อยกว่า 4 นาย ที่มีน้ำหนักสูงสุดไม่น้อยกว่า 50 ตัน มีขนาดสูงสุดไม่น้อยกว่า 12 เมตร กว้างไม่น้อยกว่า4 เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 60 กม. / ชม. ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 400 กม.
เครื่องยนต์สามารถใช้เชื้อเพลิงหลายประเภท มีระบบส่งกำลังแบบกึ่งอัตโนมัติหรือแบบอัตโนมัติ
ป้อมปืนมีระบบขับเคลื่อนแบบแมนนวลและแบบไฟฟ้า พร้อมทั้งแพร่ความร้อนต่ำและลดการตัวจับของเรดาร์ ปืนหลักต้องติดตั้งปืนลำกล้องเรียบที่มีความเสถียรและแรงถีบต่ำ ขนาดไม่น้อยกว่า 120 มม. ปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62 มม. ปืนกล 12.7 มม.ติดตั้งบนป้อมรีโหมด และแท่นยิงระเบิดควัน 76 มม. จำนวน8ท่อยิง
เอกสารยังระบุว่ารถต้องมีระบบไฟฟ้า 24V; ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบควบคุมการยิงพร้อมคอมพิวเตอร์, ระบบตรวจสภาพอากาศ, ระบบติดตามเป้าหมายอัตโนมัติ,ระบบวัดระยะด้วยเลเซอร์,ระบบจับภาพความร้อนสำหรับผู้บังคับการรถถังและพลยิง, เครื่องปรับอากาศ, ระบบควบคุมและสั่งการประกอบด้วยวิทยุ,ระบบโทรศัพท์อินเตอร์คอม,ระบบการจัดการการต่อสู้ (BMS) ,ชุดป้องกันสารเคมี ชีวภาพ รังสีและ นิวเคลียร์ ทั้งนี้รถถังหลักใหม่ยังต้องมีระบบป้องกันแบบ APS แบบ hard-kill หรือ soft-kill พร้อมสามารถติดตั้งเกราะเสริมและระบบป้องกันการเกิดสะเก็ดในตัวรถ
โดยปัจจุบันกองทัพบกบราซิลมีรถถังLeopard 1A5 BR ซึ่งเป็นรถถังที่มีความทันสมัยมากที่สุดที่กองทัพบกบราซิลมีประจำการ โดยจัดหาจากเยอรมันในปี 2549 จำนวน 220 คัน และมีรถถังหลักแบบLeopard 1A5 อีก 126คันซึ่ฃทั้งหมดเป็นรถถังมือสอง และรถถังหลักแบบM60A3 TTS ซึ่งที่จัดหามือสองจากสหรัฐฯ ในช่วงปี 2538-2539
เครดิต https://www.facebook.com/DEFNETOfficial/?__tn__=%2Cd%2CP-R&eid=ARAgsrGF-qmG6_DI28sEsP6gCh0DgwXjrXDlJ2Oan73csazRo_MIkuQVPNuYh96q_5DzpjeaYrwTXjdO
https://www.janes.com/article/95218/brazilian-army-releases-requirements-for-its-new-mbt-project
จริงๆบราซิลเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตอาวุธเองได้ดีมาก และเคยผลิตรถถังมาแล้ว คือ
EE-T1/T2 Osorio เพื่อนำไปแข่งขันในโครงการจัดหารถถังของซาอุช่วงต้นยุค 90s ในการทดสอบปรากฏว่ารถถังบราซิลรุ่นนี้สามารถชนะโครงการได้ด้วย โดยชนะทั้ง M1 สหรัฐ AMX 40 ฝรั่งเศส และ Challenger 1 จากอังกฤษได้ แต่เกิดวิกฤตอ่าวครั้งแรกก่อน อิรักบุกคูเวต ทำให้โครงการนี้โดนยกเลิกและต่อมาซาอุก็จัดหา M1 จากสหรัฐแทน ที่ซวยมากกว่านั้นคือรัฐบาลบราซิลไม่ได้ช่วยซื้อเพื่อคงสายการผลิตเอาไว้ด้วย เนื่องจากตอนนั้นบราซิลพึงเปลี่ยนจากระบบเผด็จการทหารมาเป็นประชาธิปไตยหมาดๆ รัฐบาลใหม่เลยไม่อยากทุ่มเงินกับโครงการทหาร ทำให้บริษัท Engesa ที่ผลิตรถถังต้องปิดตัวไปอย่างน่าเสียดาย
https://en.wikipedia.org/wiki/EE-T1_Os%C3%B3rio
ครั้งนี้น่าจับตาว่า บราซิลจะผลิตเองทั้งหมด หรือจะให้ต่างชาติเสนอแบบมา แต่ด้วยศักยภาพด้านอุสหกรรมผลิตอาวุธของบราซิล ที่มีมูลค่าใหญ่เป็นอันดับสองในทวีปอเมริกาทั้งหมด รองจากสหรัฐ จึงคาดว่าน่าจะผลิตเอง