ส่องหุ้นกลุ่มปิโตรฯ...ไวรัสยืดเยื้อ ฉุดกำไรแค่ไหน?


ต้องยอมรับว่าหุ้นที่ราคาพุ่งจนเตะตามากที่สุดในช่วงนี้ก็คือ "หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี" โดยเฉพาะ PTTGC-IVL-GGC เรียกว่าราคากระโดดขึ้นมาเกือบทุกวัน จากส่วนต่างปิโตรฯที่ยังเป็นบวกต่อเนื่อง ตามราคาต้นทุนที่ลดลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโควิด-19 ยังครอบงำธุรกิจกลุ่มนี้อยู่ ดังนั้นหากไวรัสยืดเยื้อออกไป หมายความว่ากำไรสุทธิก็จะหายไปเรื่อยๆด้วย
*** ราคาหุ้นบวกขึ้นมาเยอะแค่ไหน ลงทุนตอนนี้คุ้มหรือไม่?
ย้อนกลับไปวันที่ 23 มี.ค.63 ซึ่งเป็นวันแรกที่ราคาหุ้นในกลุ่มนี้เริ่มพลิกเป็นขาขึ้น มาถึงวันนี้ ราคาหุ้นส่วนใหญ่บวกไปแล้วราวๆ 29-46.86% เลยทีเดียว

โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดก็คือ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL จาก 16.90 บาท มาแตะจุดสูงสุดช่วงเช้าของวันนี้ที่ 21.80 บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นถึง 4.90 บาท หรือ +29%

ขณะที่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ปรับตัวขึ้นมาจาก 24.80 บาท มาทำจุดสูงสุดช่วงเช้าของวันนี้ที่ 33.25 บาท เพิ่มขึ้นไปแล้วถึง 8.45 บาท หรือ +34%

และหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดคือ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ราคาหุ้นขึ้นจาก 4.46 บาท มาเป็น 6.55 บาท เพิ่มขึ้น 2.09 บาท หรือ +46.86%

*** ปัจจัยหนุนมาจากราคาวัตถุดิบลดลง ตามราคาน้ำมันดิบ
สาเหตุที่ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นมาแรงมากก็คือ ส่วนต่างผลิตภัณฑ์(Spread)ที่ยังเดินหน้าบวกต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากได้รับประโยชน์จากราคาน่ำมันดิบที่ลดลงทำให้ Naphtha ซึ่งเป็นวัตถุดิบปรับตัวลดลงมากกว่าเมื่อเทียบกับราคาผลิตภัณฑ์ทั้งสายโอเลฟินส์ และ อะโรเมติกซ์ ที่ปรับลงตามดีมานด์ชะลอตัว

ส่วนบล. เอเซีย พลัส มองว่าแม้ต้นทุน Feedstock จะปรับลงตามราคาน้ำมันดิบ แต่ราคาผลิตภัณฑ์ขั้นปลายได้ปรับตัวลดลงตาม ทําให้รวมๆแล้ว Spread ปิโตรเคมียังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นจึงยังคงให้คําแนะนําการลงทนกลุ่มปิโตรเคมี “น้อยกว่าตลาด” เช่นเดิม

*** โควิด-19 ครอบงำธุรกิจ จบเดือนไหน กำไรเหลือเท่าไหร่?
บล.บัวหลวง ได้แบ่งสถานการณ์โควิด-19 ออกเป็น 3 กรณี
กรณีที่ 1 กรณีพื้นฐาน: การระบาดจะถูกควบคุมภายในปลายเดือน มี.ค.63 ประมาณการกำไรสุทธิปี 63 จะอยู่ที่ GGC 740 ล้านบาท , IVL อยู่ที่ 13,573 ล้านบาท , PTTGC มาอยู่ที่ 15,566 ล้านบาท
กรณีที่ 2 กรณีที่แย่กว่า: การระบาดจะแตะจุดสูงสุดในปลายเดือน พ.ค.63 ประมาณการกำไรสุทธิปี 63 จะอยู่ที่ GGC 628 ล้านบาท , IVL อยู่ที่ 11,678 ล้านบาท , PTTGC มาอยู่ที่ 11,685 ล้านบาท
กรณีที่ 3 กรณีที่แย่สุด: การระบาดจะแตะจุดสูงสุดในปลายเดือน ก.ค.63  ประมาณการกำไรสุทธิปี 63 จะอยู่ที่ GGC 516 ล้านบาท , IVL อยู่ที่ 9,783 ล้านบาท , PTTGC มาอยู่ที่ 9,595 ล้านบาท

ประมาณการกำไรสุทธิบนสมมติฐานว่าไวรัสจะคลี่คลายภายในเดือน มี.ค.-ก.ค.63

*** จับตากลุ่มนี้มักมีประวัติพุ่งแรงหลังวิกฤตจบ 
บล.บัวหลวง ระบุเพิ่มเติมอีกว่า จากข้อมูลในอดีตวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 และวิกฤตการณ์ทางการเงินในยุโรปปี 2554 บ่งชี้ว่าราคาหุ้นปิโตรเคมีจะฟื้นตัวแข็งแกร่งหลังจากวิกฤตการณ์ได้จบลง และหากเหตุการณ์คราวนี้เป็นไปในรูปแบบเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เราคาดว่าหุ้นราคาปิโตรเคมีจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญหลังจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสยุติลง

แนะนำ ซื้อ GGC ที่ราคาเหมาะสม 10 บาท / แนะนำ ซื้อ IVL ที่ราคาเหมาะสม 36 บาท / และแนะนำ ถือ PTTGC ที่ราคาเหมาะสม 48 บาท 

หุ้นปิโตรเคมีแม้มีประเด็นบวกเข้ามาหนุนเพียงนิดเดียวก็คือส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้น ก็ทำให้นักลงทุนแห่เข้าไปลงทุนแล้ว แม้จะรู้ตัวว่าดีมานด์ทั่วโลกยังย่ำแย่อยู่ ซึ่งในที่สุดราคาปิโตรฯก็จะปรับลดลงมาเช่นกัน ดังนั้นหากคิดจะลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ควรจะมองไปที่วัฎจักรของกลุ่มดีกว่า! โดยเฉพาะหลังจากเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวแน่นอนแล้ว
**อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ ==>> http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?release=y&id=V1oveDk4bTA1ZTQ9
--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่ 
Website : https://www.efinancethai.com 
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/ 
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThai/ 
lTwitter : @eFinanceThai 
IG : @efinancethai_official 
line : @efin

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่