น้อแมวไปทำหมันที่คลีนิกวันเสาร์ที่7ตอนเช้ามี.ค. แล้วไปรับน้องแมวกลับมาบ้านวันที่7ตอนเย็นๆ4โมงเย็นเค้ายังไม่ฟื่น100%มาถึงน้องแมวหิวข้าวกินน้ำ แต่ตัวเราได้ป้อนอาหารแมวเลียไปด้วย น้องแมวเค้าอวกเป็นอาหารแมวเลียออกมา ก็รีบโทบอกหมอทันทีว่าน้องอวก หมอก็บอกกลัวอาหารไปติดหลอดลมเค้า อวกออกหมดไมก็บอกหมอไม่รู้ หมอบอกสำลักอาหารจะเสียชีวิตได้ถ้าอาหารออกไม่หมด แล้วก็โทหาหมออีกทีจะเอาน้องแมวไปฝากให้หมอกลัวน้องแมวจะเป็นอะไรมาก ของวันที่7ตอน4โมงเย็นก็พาไปฝากคุณหมอดูแลให้ แล้วไปรับกลับมาอีกรอบของอาทิตย์ที่8 แล้วหลังจากน้องแมวก็อยู่มาตลอดพึ่งจะสังเกตุเห็นน้องแมวที่ท้องน้องแมวเหมือนเค้าหายใจไวเลยรอเวลาอีกที หมอที่คลีนิกนัดตัดไหมวันเสาร์ที่14ได้พาน้องแมวไปเวลาตอนบายโมง หมอได้ตัดไหมหมอบอกว่าแผลแห้งดีแล้วก็ถามหมอว่าน้องแมวเค้าหายใจแรง หมอบอกต้องเช็คโดยการเอ็กซเรดูที่ปอดน้อง ก็บอกหมอว่าหมอเอ็กซเรน้องเลย หมอบอกที่คลีนิกไม่มีเครื่องเอ็กซเร ก็เลยพาน้องแมวมาร.พ.สัตว์ทันที พอน้องแมวถึงร.พ.ก็บอกหมอว่าน้องหายใจไวหลังจากทำหมัน คุณหมอที่คลีนิกให้เอ็กซเรที่ปอดดู เราบอกหมอไปว่าเอ็กซเรอย่างเดียวได้ไมจะพาน้องไปให้หมอที่คลีนิกดู หมอที่ร.พ.บอกได้ แต่ตอนถึงร.พ.หมอเค้าก็ให้น้องแมวดมออกซิเจนจากสายตลอด น้องก็ยังดีอยู่ แล้วเราออกจากห้องมานั้งรอ ซักพักเห็นหมอก็พาน้องเอ็กซาเร แล้วพาน้องแมวไปดมออ๊กซิเจนต่อ ทีนี้หมอได้เรียกเจ้าของไปดู
ฟลีมผลเอ็กซเร หมอบอกน้องปอดข้างนึงดำ ข้างนึงขาว พอซักพักมีผู้ช่วยตะโกนบอกว่าน้องอากาศแย่แล้ว เราก็เดินไปดูน้องเห็นน้องนอนราบกับโต๊ะที่กำลังดมออซิเจน หมอเค้าจะเจาะเครื่องชว่ยหายใจให้หมอบอกมีโอกาศรอด50%50หมอพูดว่าอย่าขวาง เราก็รีบไปนั้งรองข้างนอก แล้วหมอแจ้งอีกทีว่าน้องได้เสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นสติหลุดแล้วร้องหนักมาก แล้วเดินไปอีกห้องที่หมอพาน้องมานอนอีกห้องน้องเสียจมูกน้องแดงเป็นสีม่วงตาไม่ปิดน้ำไหลออกจากปากตลอดเป็นน้ำสีขาวๆ
แล้วหมอที่ร.พ.ก็ได้บอกว่า น่าจะน้ำท่วมปอดจากน้ำเกลือที่หมอให้ แต่เราก็บอกว่าตอนพาน้องกลับมาบ้านหลังจากทำหมันได้ป้อนอาหารน้องแมวแล้วเค้าอวกออกมา หมอบอกไม่เกี่ยวกับอาหารที่ป้อนถ้าเป็นอาหารที่ป้อนน่าเป็นตั้งนานแล้วไม่อยู่ถึงขนาดนี้ หมอบอกที่นี่ทำหมันเสร็จก็ทานอาหารได้ปกติ แต่นี่มีน้ำไหลออกจากปากน้องแมวตลอด เเล้วก็จ่ายเงินค่าฝังน้องไปหมอบอกเพื่อนหมอเค้ารับฝังน้องแมว แล้วเราก็กลับบ้าน ก็ร้องไม่หยุด พออีก2วันโทกลับไปที่คลีนิกบอกคุณหมอว่าพาน้องมาเอ็กซเรดูปอดหมอบอกน้องน้ำเกลือถ่วมปอด ก็บอกหมอว่าผลเอ็กซเรปอดข้างนึงดำ ปอดอีกข้างขาว หมอที่คลีลิกบอกไม่เกี่ยวกับน้ำเกลือถ่วมปอด ถ้าน้ำเกลือถ่วมปอดอีกข้างดำได้ยังไง น่าจะติดเชื่อจากที่สำลักอาหารตอนที่เจ้าของป้อนไปแล้วไปลงที่ปอด ที่เค้าตายเพราะเค้าซ๊อตตาย หมอที่ร.พ.เค้าต้องไปเอ็กซเรจับถ้านู้ทางนี้ไปฝืนเค้า จับเค้า มันมีต่อทางระบบการหายใจของแมวเค้าด้วย เพราะเค้าเป็นที่ปอด แบบนี้ต้องไม่ไปฝืนต้องเข้าตู้ออ๊กซิเจน เรานึกขึ้นได้ตอนน้องดมออ๊กซิเจนน้องไม่ได้เข้าตู้ออ๊กซิเจนแต่มีผู้ช่วยค่อยจับน้องดมยาจากสายออ๊กซิเจน แล้วหมอที่ร.พบอกน้องแมวจะกระโดดด้วยแต่ทุกคนช่วยจับและกันไว้ไม่ให้กระโดด พอไปถามตามเพทหมออีกที่เค้าก็บอกเหมือนกันว่าไม่ใช่น้ำถ่วมปอด หมออีกเพทจริงๆน้องไม่ควรตาย #ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดี และเชื่อเรื่องเวรกรรมมันจะติดตัวคนที่ทำน้องแมวเอง
เรื่องนี้เกิดขึ้นแถวๆบางกรวย จ.นนทบุรี (วันที่เสียน้องแมวไปที่ร.พ.เป็นวันเดียวกันกับเจ้าของอีกท่านเหมือนกันเจ้าของน้องแมวอีกท่านเค้าบอกทำหมันแล้วเสียชีวิตเหมือนกันเค้าก็รักษาที่ร.พแต่ก็ไม่ได้ถามรายละเอีดเยอะ ว่าทำหมันที่ไหนมาเพราะตัวเราเองก็ยังทำใจไม่ได้กำลังร้องไห้แล้วแฟนต้องไปทำงานต่อ) ฝากเพื่อนไว้หน่อยนะคะเผื่อใครเจอเรื่องแบบนี้คลายๆกัน
ขอบคุณคคะ
เรื่องน้องแมวหลังจากทำหมัน
ฟลีมผลเอ็กซเร หมอบอกน้องปอดข้างนึงดำ ข้างนึงขาว พอซักพักมีผู้ช่วยตะโกนบอกว่าน้องอากาศแย่แล้ว เราก็เดินไปดูน้องเห็นน้องนอนราบกับโต๊ะที่กำลังดมออซิเจน หมอเค้าจะเจาะเครื่องชว่ยหายใจให้หมอบอกมีโอกาศรอด50%50หมอพูดว่าอย่าขวาง เราก็รีบไปนั้งรองข้างนอก แล้วหมอแจ้งอีกทีว่าน้องได้เสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นสติหลุดแล้วร้องหนักมาก แล้วเดินไปอีกห้องที่หมอพาน้องมานอนอีกห้องน้องเสียจมูกน้องแดงเป็นสีม่วงตาไม่ปิดน้ำไหลออกจากปากตลอดเป็นน้ำสีขาวๆ
แล้วหมอที่ร.พ.ก็ได้บอกว่า น่าจะน้ำท่วมปอดจากน้ำเกลือที่หมอให้ แต่เราก็บอกว่าตอนพาน้องกลับมาบ้านหลังจากทำหมันได้ป้อนอาหารน้องแมวแล้วเค้าอวกออกมา หมอบอกไม่เกี่ยวกับอาหารที่ป้อนถ้าเป็นอาหารที่ป้อนน่าเป็นตั้งนานแล้วไม่อยู่ถึงขนาดนี้ หมอบอกที่นี่ทำหมันเสร็จก็ทานอาหารได้ปกติ แต่นี่มีน้ำไหลออกจากปากน้องแมวตลอด เเล้วก็จ่ายเงินค่าฝังน้องไปหมอบอกเพื่อนหมอเค้ารับฝังน้องแมว แล้วเราก็กลับบ้าน ก็ร้องไม่หยุด พออีก2วันโทกลับไปที่คลีนิกบอกคุณหมอว่าพาน้องมาเอ็กซเรดูปอดหมอบอกน้องน้ำเกลือถ่วมปอด ก็บอกหมอว่าผลเอ็กซเรปอดข้างนึงดำ ปอดอีกข้างขาว หมอที่คลีลิกบอกไม่เกี่ยวกับน้ำเกลือถ่วมปอด ถ้าน้ำเกลือถ่วมปอดอีกข้างดำได้ยังไง น่าจะติดเชื่อจากที่สำลักอาหารตอนที่เจ้าของป้อนไปแล้วไปลงที่ปอด ที่เค้าตายเพราะเค้าซ๊อตตาย หมอที่ร.พ.เค้าต้องไปเอ็กซเรจับถ้านู้ทางนี้ไปฝืนเค้า จับเค้า มันมีต่อทางระบบการหายใจของแมวเค้าด้วย เพราะเค้าเป็นที่ปอด แบบนี้ต้องไม่ไปฝืนต้องเข้าตู้ออ๊กซิเจน เรานึกขึ้นได้ตอนน้องดมออ๊กซิเจนน้องไม่ได้เข้าตู้ออ๊กซิเจนแต่มีผู้ช่วยค่อยจับน้องดมยาจากสายออ๊กซิเจน แล้วหมอที่ร.พบอกน้องแมวจะกระโดดด้วยแต่ทุกคนช่วยจับและกันไว้ไม่ให้กระโดด พอไปถามตามเพทหมออีกที่เค้าก็บอกเหมือนกันว่าไม่ใช่น้ำถ่วมปอด หมออีกเพทจริงๆน้องไม่ควรตาย #ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดี และเชื่อเรื่องเวรกรรมมันจะติดตัวคนที่ทำน้องแมวเอง
เรื่องนี้เกิดขึ้นแถวๆบางกรวย จ.นนทบุรี (วันที่เสียน้องแมวไปที่ร.พ.เป็นวันเดียวกันกับเจ้าของอีกท่านเหมือนกันเจ้าของน้องแมวอีกท่านเค้าบอกทำหมันแล้วเสียชีวิตเหมือนกันเค้าก็รักษาที่ร.พแต่ก็ไม่ได้ถามรายละเอีดเยอะ ว่าทำหมันที่ไหนมาเพราะตัวเราเองก็ยังทำใจไม่ได้กำลังร้องไห้แล้วแฟนต้องไปทำงานต่อ) ฝากเพื่อนไว้หน่อยนะคะเผื่อใครเจอเรื่องแบบนี้คลายๆกัน