สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่เข้าใจว่าทำไมมองว่าเจ้านายเห็นแก่ตัว
ขับแกร๊บฟู้ด มีความเสียงที่จะติด Covid-19 มากกว่าปกตินะครับ เจ้านายคุณเขามองว่า ถ้า(สมมติ) คุณติดเชื้อขึ้นมา ความปลอดภัยในบริษัทก็จะไม่มี ถ้ายอมให้คุณขับแกร๊บฟู้ด แต่เพื่อนร่วมงานมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เขาก็ต้องเลือกส่วนมากไว้ก่อนครับ
ตอนนี้ธุรกิจ ห้างร้าน บริษัท ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าครับ อดทนได้ต้องอดทน ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด เพราะเดือดร้อนกันเยอะมากจริงๆ หลายๆคนที่ผมรู้จักก็รายได้หายไป 30-40% เหมือนกันครับ ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ก็เดือดร้อนหนักเหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าจะอดทนทำต่อก็ควรทำตามที่เจ้านายบอกครับ แล้วไปเจรจาพักชำระหนี้กับเจ้าหนี้ไปก่อน อาจจะพอช่วยได้บ้าง แต่ถ้าคิดว่าเลือกที่จะไปขับแกร๊บฟู้ดดีกว่าก็ลาออกแล้วออกมาลุยเลยครับ
ขับแกร๊บฟู้ด มีความเสียงที่จะติด Covid-19 มากกว่าปกตินะครับ เจ้านายคุณเขามองว่า ถ้า(สมมติ) คุณติดเชื้อขึ้นมา ความปลอดภัยในบริษัทก็จะไม่มี ถ้ายอมให้คุณขับแกร๊บฟู้ด แต่เพื่อนร่วมงานมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เขาก็ต้องเลือกส่วนมากไว้ก่อนครับ
ตอนนี้ธุรกิจ ห้างร้าน บริษัท ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าครับ อดทนได้ต้องอดทน ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด เพราะเดือดร้อนกันเยอะมากจริงๆ หลายๆคนที่ผมรู้จักก็รายได้หายไป 30-40% เหมือนกันครับ ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ก็เดือดร้อนหนักเหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าจะอดทนทำต่อก็ควรทำตามที่เจ้านายบอกครับ แล้วไปเจรจาพักชำระหนี้กับเจ้าหนี้ไปก่อน อาจจะพอช่วยได้บ้าง แต่ถ้าคิดว่าเลือกที่จะไปขับแกร๊บฟู้ดดีกว่าก็ลาออกแล้วออกมาลุยเลยครับ
ความคิดเห็นที่ 16
เอางี้ สมมุติว่าคุณติดเชื้อขึ้นมาแล้วไปแพร่ให้กับคนในบริษัท คุณรับผิดชอบไหวไหมครับ?
คือปัญหาคุณผมเข้าใจ แต่ทางออกปัญหาคุณสร้างความเสี่ยงให้คนอื่น ซึ่งคนอื่นเขาก็มีลูกมีเมียมีภาระไม่ต่างจากคุณ
เคสนี้ผมคิดว่าบริษัททำถูกแล้ว คือให้คุณเลือกเอาว่าจะเอายังไง แต่คุณไม่สามารถเลือกเอาแต่ตัวเองรอดไม่ได้ครับ
แนะนำว่าลาออกจากบริษัทซะแล้ววิ่งแกร๊บเต็มตัว คุณจะได้แก้ปัญหาเรื่องรายได้ไม่พอกับรายจ่ายด้วย บริษัทเขาก็ปลอดภัย พนักงานก็ปลอดภัย เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าคุณจะเอาแต่ตัวเองทำงานสองที่โดยคิดถึงแต่ตัวเอง ผมคิดว่าคุณเป็นคนเห็นแก่ตัวครับ
คือปัญหาคุณผมเข้าใจ แต่ทางออกปัญหาคุณสร้างความเสี่ยงให้คนอื่น ซึ่งคนอื่นเขาก็มีลูกมีเมียมีภาระไม่ต่างจากคุณ
เคสนี้ผมคิดว่าบริษัททำถูกแล้ว คือให้คุณเลือกเอาว่าจะเอายังไง แต่คุณไม่สามารถเลือกเอาแต่ตัวเองรอดไม่ได้ครับ
แนะนำว่าลาออกจากบริษัทซะแล้ววิ่งแกร๊บเต็มตัว คุณจะได้แก้ปัญหาเรื่องรายได้ไม่พอกับรายจ่ายด้วย บริษัทเขาก็ปลอดภัย พนักงานก็ปลอดภัย เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าคุณจะเอาแต่ตัวเองทำงานสองที่โดยคิดถึงแต่ตัวเอง ผมคิดว่าคุณเป็นคนเห็นแก่ตัวครับ
ความคิดเห็นที่ 23
เจ้านายเขากังวลว่าคุณจะเอาโควิดมาแพร่ในที่ทำงาน มันฟังขึ้นนะคะ ขับแกร๊บฟู้ดต้องตะลอนไปทั่ว แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคนที่กักตัวในบ้าน
หากคุณอยากทำที่นี่ต่อก็ต้องช่วยเขากำจัดปัญหาตรงนี้ ทำยังไงให้เขาเชื่อว่า แม้ว่าคุณคิดโควิดโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว แต่ก็ไม่มีวันทำให้คนในบริษัทติดไปด้วย ใช้ทางออกตรงนี้เพื่อต่อรองกับเขาค่ะ
แต่ถ้าเขาไม่ได้คิดถึงคุณว่าคุณมีรายได้ลดลง มุ่งมั่นจะไล่ออกท่าเดียว ก็ค่อยเซย์กู้ดบายเนอะ
ออฟฟิศเพื่อนฉันโดนเข้าให้แล้วค่ะ มีคนแอบขับแกร๊บแล้วติดโควิดมา แทนที่จะยังได้ทำงานบ้าง คราวนี้ต้องปิดออฟฟิศกันเลย บริษัทเสียรายได้ (สุ่มเสี่ยงว่าจะไม่มีเงินเดือนให้ เพราะเป็นงานสาขาที่ยากจะ work from home) เสียค่าทำความสะอาด ยิงยาวไปถึงขั้นสยองกันทั้งคอนโดอีกนับร้อยๆ ชีวิต เรื่องราวใหญ่โต แถวโซนลาซาล คุณอาจเคยได้ยินข่าว (ก็ไม่รู้ว่าคนที่รับอาหารจากหมอนี่จะเป็นยังไง) เพื่อนฉันแทบประสาทแตกด้วยซ้ำ อุตส่าห์เลี่ยงคนอย่างดี วันดีคืนดีเพิ่งรู้ว่าใกล้ชิดผู้ป่วย นั่งไม่ติดกันเลยทีเดียว พ่อแม่เพื่อนก็อายุมาก เพื่อนต้องล้างมือล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน อาบน้ำสระผม แล้วถึงจะเข้าใกล้พ่อแม่ แตะต้องของในบ้านได้ ฉันสะเทือนใจมากที่เพื่อนต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้ เคสนี้บริษัทไล่ออกค่ะ ถ้าเขากล้าฟ้องกรมแรงงาน พนักงานทั้งออฟฟิศก็กล้าเป็นพยานว่าควรโดน พอดีใครๆ ก็รู้ว่าเขาไม่สนใจป้องกันตัวเองจากโรคเท่าไร เป็นพวกไม่หือไม่อือกับโควิดเพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรง ออกกำลังกาย ไม่คิดถึงคนอื่น ทุกวันนี้เห็นยังร้องแรกแหกกระเฌอในเฟสว่าออฟฟิศรังแกเขา ...อ๊ะ ที่นี่จ่ายเต็มเงินเดือนนะคะ เขาไม่มีเหตุให้ต้องวิ่งแกร๊บเหมือนคุณเจ้าของกระทู้ตั้งแต่ต้น
แค่เล่าให้ฟังเนอะว่าเมื่อใครบางคนเสี่ยง เขาไม่ได้เสี่ยงตัวคนเดียว
ฉันเห็นใจคุณจริงๆ ที่คุณขาดรายได้ ต้องดิ้นรน
แต่จำต้องยอมรับนะคะว่าที่เจ้านายกังวล เขาก็มีเหตุให้ควรกังวลจริง
คุณมีภาระ บริษัทก็มีภาระ คุณขาดรายได้ บริษัทก็ขาดรายได้ ต่างมีความจำเป็นและน่าเห็นใจพอกัน
การคิดถึงแต่ความจำเป็นของตัวเองฝ่ายเดียวย่อมเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ควร ไม่ว่าใครก็ตาม
หามาตรการควบคุมตัวเองแล้วลองต่อรองกับเจ้านายดูก่อนเถอะค่ะ คิดให้เยอะ ดักทางเขาให้ได้มากที่สุด
เจ้านายไม่อยากให้คุณขับแกร๊บ อย่างน้อยๆ ก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาอนุญาตให้คุณขับแกร๊บ ไม่งั้นคนอื่นก็จะเฮทำตามคุณ ยิ่งบานปลาย
มองหางานเสริมอย่างอื่นด้วยก็น่าจะดี (<-- ฉันยอมรับว่าฉันคิดไม่ออก)
ฉันเชื่อว่าถ้ามีทางออกสำหรับคุณกับเจ้านาย เขาน่าจะยอมให้คุณมีอาชีพเสริมค่ะ
ขอให้โชคดีนะคะ
หากคุณอยากทำที่นี่ต่อก็ต้องช่วยเขากำจัดปัญหาตรงนี้ ทำยังไงให้เขาเชื่อว่า แม้ว่าคุณคิดโควิดโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว แต่ก็ไม่มีวันทำให้คนในบริษัทติดไปด้วย ใช้ทางออกตรงนี้เพื่อต่อรองกับเขาค่ะ
แต่ถ้าเขาไม่ได้คิดถึงคุณว่าคุณมีรายได้ลดลง มุ่งมั่นจะไล่ออกท่าเดียว ก็ค่อยเซย์กู้ดบายเนอะ
ออฟฟิศเพื่อนฉันโดนเข้าให้แล้วค่ะ มีคนแอบขับแกร๊บแล้วติดโควิดมา แทนที่จะยังได้ทำงานบ้าง คราวนี้ต้องปิดออฟฟิศกันเลย บริษัทเสียรายได้ (สุ่มเสี่ยงว่าจะไม่มีเงินเดือนให้ เพราะเป็นงานสาขาที่ยากจะ work from home) เสียค่าทำความสะอาด ยิงยาวไปถึงขั้นสยองกันทั้งคอนโดอีกนับร้อยๆ ชีวิต เรื่องราวใหญ่โต แถวโซนลาซาล คุณอาจเคยได้ยินข่าว (ก็ไม่รู้ว่าคนที่รับอาหารจากหมอนี่จะเป็นยังไง) เพื่อนฉันแทบประสาทแตกด้วยซ้ำ อุตส่าห์เลี่ยงคนอย่างดี วันดีคืนดีเพิ่งรู้ว่าใกล้ชิดผู้ป่วย นั่งไม่ติดกันเลยทีเดียว พ่อแม่เพื่อนก็อายุมาก เพื่อนต้องล้างมือล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน อาบน้ำสระผม แล้วถึงจะเข้าใกล้พ่อแม่ แตะต้องของในบ้านได้ ฉันสะเทือนใจมากที่เพื่อนต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้ เคสนี้บริษัทไล่ออกค่ะ ถ้าเขากล้าฟ้องกรมแรงงาน พนักงานทั้งออฟฟิศก็กล้าเป็นพยานว่าควรโดน พอดีใครๆ ก็รู้ว่าเขาไม่สนใจป้องกันตัวเองจากโรคเท่าไร เป็นพวกไม่หือไม่อือกับโควิดเพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรง ออกกำลังกาย ไม่คิดถึงคนอื่น ทุกวันนี้เห็นยังร้องแรกแหกกระเฌอในเฟสว่าออฟฟิศรังแกเขา ...อ๊ะ ที่นี่จ่ายเต็มเงินเดือนนะคะ เขาไม่มีเหตุให้ต้องวิ่งแกร๊บเหมือนคุณเจ้าของกระทู้ตั้งแต่ต้น
แค่เล่าให้ฟังเนอะว่าเมื่อใครบางคนเสี่ยง เขาไม่ได้เสี่ยงตัวคนเดียว
ฉันเห็นใจคุณจริงๆ ที่คุณขาดรายได้ ต้องดิ้นรน
แต่จำต้องยอมรับนะคะว่าที่เจ้านายกังวล เขาก็มีเหตุให้ควรกังวลจริง
คุณมีภาระ บริษัทก็มีภาระ คุณขาดรายได้ บริษัทก็ขาดรายได้ ต่างมีความจำเป็นและน่าเห็นใจพอกัน
การคิดถึงแต่ความจำเป็นของตัวเองฝ่ายเดียวย่อมเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ควร ไม่ว่าใครก็ตาม
หามาตรการควบคุมตัวเองแล้วลองต่อรองกับเจ้านายดูก่อนเถอะค่ะ คิดให้เยอะ ดักทางเขาให้ได้มากที่สุด
เจ้านายไม่อยากให้คุณขับแกร๊บ อย่างน้อยๆ ก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาอนุญาตให้คุณขับแกร๊บ ไม่งั้นคนอื่นก็จะเฮทำตามคุณ ยิ่งบานปลาย
มองหางานเสริมอย่างอื่นด้วยก็น่าจะดี (<-- ฉันยอมรับว่าฉันคิดไม่ออก)
ฉันเชื่อว่าถ้ามีทางออกสำหรับคุณกับเจ้านาย เขาน่าจะยอมให้คุณมีอาชีพเสริมค่ะ
ขอให้โชคดีนะคะ
ความคิดเห็นที่ 15
คุณนั่นแหละเห็นแก่ตัว เค้าไม่ได้ไล่ออก เค้าให้เลือกว่าจะทำอะไรสักอย่าง
เค้ากลัวติดโควิคไม่ผิด เค้าน่าจะอายุเยอะกว่าคุณใช่ไหม เค้ามีพ่อ แม่ หรือมีครอบครัวใช่ไหม
เค้ากลัวว่าคุณจะเป็นพาหะนำโรคมา ให้กับคนในบริษัทใช่ไหม
ทุกคนก็มีหนี้สินและความจำเป็น ลองมองมุมมองอีกมุมบ้างครับ
ลดเงินตามวันที่ไม่มาทำงานก็ยังถือว่าแฟร์ ตอนนี้ทุกบริษัทเป็นเหมือนกันหมด ยกเว้นพวกของรัฐหรือว่า
บริษัทใหญ่ๆสายป่านยาวๆ
เค้ากลัวติดโควิคไม่ผิด เค้าน่าจะอายุเยอะกว่าคุณใช่ไหม เค้ามีพ่อ แม่ หรือมีครอบครัวใช่ไหม
เค้ากลัวว่าคุณจะเป็นพาหะนำโรคมา ให้กับคนในบริษัทใช่ไหม
ทุกคนก็มีหนี้สินและความจำเป็น ลองมองมุมมองอีกมุมบ้างครับ
ลดเงินตามวันที่ไม่มาทำงานก็ยังถือว่าแฟร์ ตอนนี้ทุกบริษัทเป็นเหมือนกันหมด ยกเว้นพวกของรัฐหรือว่า
บริษัทใหญ่ๆสายป่านยาวๆ
ความคิดเห็นที่ 24
คนแบบจขกท น่ากลัวมาก ไม่ทราบว่าในแต่ละบริษัทมีแบบนี้บ้างหรือเปล่า เห็นใจที่ขาดรายได้ไปแปดวัน แต่หางานเสริมอื่นที่มันไม่เสี่ยงต่อการนำโรคมาติดคนในบริษัทจะดีไหมคะ คิดดูว่าถ้าติดมา บริษัทต้องปิดทำความสะอาด พนักงานต้องถูกกักตัว บริษัทอาจเจ๊งได้ ทีนี้ละลำบากกว่าเดิม ที่บริษัทหนึ่งเขาห้ามพนักงานไปงานบวช งานแต่ง งานบุญต่างๆ มีคนหนึ่งโดนพ่อแม่เซ้าซี้ให้ไป พอบริษัทรู้โดนไล่ออกค่ะ พ่อแม่อึ้งไปเลย สงสารน้องมาก เพราะถ้านำมาติดคนอื่นเป็นเรื่องใหญ่แน่ งานบางอย่างมันwfhไม่ได้จริงๆ บริษัทเขาทำเพื่อปกป้องพนักงานคนอื่น และปกป้องบริษัทด้วย จริงๆแล้วทุกคนแชร์ความลำบากกันคนละนิดหน่อยค่ะ ช่วยกันไปก่อน มีอีกบริษัทหนึ่งขอให้คนที่ใช้รถสาธารณะทำงานที่บ้าน คนที่มีรถ หรือบ้านใกล้ ในตำแหน่งที่จำเป็นต้องมาก็ต้องทำงานบางอย่างเพิ่มขึ้นแทนคนที่ไม่มา ในยามไม่ปกติอย่างนี้ก็ต้องอดทนกันไปก่อน ตัวเราทำงานจากบ้านได้ เวลามีธุระ วานน้องๆที่อยู่ออฟฟิศทำให้ เขาก็เต็มใจ เราดูออกว่างานใครเพิ่มขึ้นช่วงนี้ พอสถานการณ์ปกติแล้วค่อยชดเชยให้
แสดงความคิดเห็น
จะโดนให้ออกจากงานประจำ เพราะว่าหลังเลิกงานไปทำอาชีพเสริมขับแกร๊บฟู๊ด