กระทู้นี้ ผมเน้นเฉพาะผู้ที่คิดว่าตัวเองเข้าใจธรรมะเป็นอย่างดีแล้ว โดยอาจจะกำลังปฏิบัติตามสิ่งที่ตัวเองเข้าใจ บางครั้งยังให้คำแนะนำสั่งสอนผู้อื่น ไม่รวมถึงผู้ที่กำลังศึกษาธรรมะ หรืออยู่ระหว่างการปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์
ก่อนที่ผมจะเขียนกระทู้นี้ ผมได้ทดสอบกับตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งจะพูดถึงในตอนท้าย
กระทู้นี้ เกิดขึ้นจากการที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยสนทนากับสมาชิกหลายๆ ท่าน ซึ่งมีสมาชิกจำนวนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะศึกษาตำราด้วยตัวเอง คือศึกษาจากพระไตรปิฏก ไม่มีครูบาอาจารย์เป็นตัวเป็นตน ซึ่งเหตุผลที่ผมต้องการทราบว่าครูบาอาจารย์เป็นใคร ก็เพราะเวลาที่มีการถกเถียงกันและไม่ยอมรับ ผมจะได้เอาคำสอนของครูบาอาจารย์ที่สมาชิกท่านนั้นเคารพนับถือมาอ้างอิง
แต่เท่าที่เคยสอบถามมา แทบทั้งหมด (ที่จริงคือทั้งหมด) ไม่มีครูบาอาจารย์เลย
สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำ ให้ผู้ที่เชื่อว่าตัวเองเข้าใจธรรมะถูกต้อง ลองทดสอบตัวเองว่าเข้าใจถูกต้องจริงหรือไม่ นั่นคือ ให้ฟังเทศน์จากครูบาอาจารย์ โดยเลือกมาท่านหนึ่ง ใครก็ได้ ตรงนี้ที่สำคัญ ต้องเลือกดีๆ อาจจะเลือกครูบาอาจารย์ที่คนจำนวนมากเคารพนับถือ และไม่มีเรื่องที่ถูกติเตียน ซึ่งมีมากมาย
ซึ่งเวลาที่ฟังครูบาอาจารย์ท่านเทศน์ ทุกคำ ทุกประโยค จะต้องเข้ากันได้กับความเข้าใจของเรา 100%
ขอย้ำว่า ต้องทุกคำ และทุกประโยคด้วย จะมีสิ่งที่ขัดแย้งกับความเข้าใจของเราแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้เลย
สมมุติว่าฟังเผินๆ อาจจะยังเข้ากันไม่ได้ แต่เมื่อตีความแล้วพอจะเข้าใจได้ เอาเป็นว่าผมอนุโลมให้ เพราะผมมั่นใจว่า สุดท้ายแล้ว หากสิ่งที่เข้าใจไม่ถูกต้อง เมื่อฟังไปเรื่อยๆ จะเจอสิ่งที่ตีความยากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้ากันไม่ได้ไปเอง
และสมมุติว่าเราอาจจะเข้าใจธรรมะไม่ถูกต้อง แต่บังเอิญไปเจอครูบาอาจารย์ที่สอนตรงกับความเข้าใจ(ผิด)ของเรา ก็ลองฟังเทศน์ท่านนั้นดู ใช้หลักเดิมนั่นคือ ต้องเข้ากันได้ทุกคำ ทุกประโยค ไม่มีคำพูดใดที่ขัดแย้งกับความเข้าใจของเราเลย
ซึ่งในเมื่อทั้งอาจารย์และทั้งลูกศิษย์ ต่างก็เข้าใจธรรมะไม่ถูกต้อง ไม่มีทางที่จะตรงกันทั้งหมดแน่ๆ จะเจอสิ่งที่ไม่ตรงกันเอง
หากความเข้าใจธรรมะเราไม่ถูกต้องหรือไม่ดีพอ เราจะไม่เจอครูบาอาจารย์ที่สอนได้ตรงกับความเข้าใจเราเลยแม้แต่คนเดียว
แต่ถ้าเราเข้าใจธรรมะถูกต้อง ไม่ว่าเราจะฟังเทศน์จากพระรูปใดก็ตาม ทุกรูปจะเทศน์ได้ตรงกัน เหมือนกันหมด แม้จะไม่ใช่เรื่องเดียวกันแต่เนื้อหาหลักๆ ตรงกัน
ผมขอยกตัวอย่างครูบาอาจารย์ที่ผมเคยฟังท่านเทศน์และสอนได้ตรงกันหมด ไม่ขัดแย้งกับความเข้าใจของผมเลย เช่น หลวงพ่อปราโมทย์ หลวงพ่อครรชิต สุทธิจิตโต หลวงพ่อคำเขียน หลวงปู่เทสก์ หลวงพ่อพุธ หลวงพ่อชา เป็นต้น
และที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้น เพื่อเป็นการทดสอบว่าสิ่งที่ผมเขียนนี้จะใช้ได้จริงหรือไม่ ก่อนที่จะตั้งกระทู้ผมเลยไปฟังเทศน์จากครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อปราโมทย์มักจะพูดถึง และผมเองเคยฟังท่านเทศน์สมัยที่เริ่มศึกษาธรรมะใหม่ๆ แต่ตอนนั้นฟังไม่เข้าใจและหลังจากนั้นไม่เคยฟังอีกเลย อาจจะเคยฟังคลิปสั้นๆ เล็กๆ น้อยๆ เวลาที่สมาชิกบางท่านยกมาอ้างอิง แต่ไม่เคยฟังยาวๆ และจับใจความที่ท่านเทศน์
ซึ่งพอผมได้ตั้งใจฟังท่านพุทธทาสเทศน์เมื่อสักครู่ สิ่งที่ท่านพุทธทาสก็ไม่ขัดแย้งกับความเข้าใจผมแม้แต่ประโยคเดียวจริงๆ
ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผม ใครอยากจะลองก็ลองดู จุดประสงค์ที่ผมตั้งกระทู้นี้ เพราะคิดว่าเมื่อเราเกิดมาพบพระพุทธศาสนา ควรศึกษาธรรมะให้ถูกต้อง อย่าห่วงแต่จะมีทิฐิ มานะ ไม่รับฟังใคร
วิธีทดสอบตัวเองว่าเข้าใจธรรมะดีพอหรือยัง
ก่อนที่ผมจะเขียนกระทู้นี้ ผมได้ทดสอบกับตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งจะพูดถึงในตอนท้าย
กระทู้นี้ เกิดขึ้นจากการที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยสนทนากับสมาชิกหลายๆ ท่าน ซึ่งมีสมาชิกจำนวนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะศึกษาตำราด้วยตัวเอง คือศึกษาจากพระไตรปิฏก ไม่มีครูบาอาจารย์เป็นตัวเป็นตน ซึ่งเหตุผลที่ผมต้องการทราบว่าครูบาอาจารย์เป็นใคร ก็เพราะเวลาที่มีการถกเถียงกันและไม่ยอมรับ ผมจะได้เอาคำสอนของครูบาอาจารย์ที่สมาชิกท่านนั้นเคารพนับถือมาอ้างอิง
แต่เท่าที่เคยสอบถามมา แทบทั้งหมด (ที่จริงคือทั้งหมด) ไม่มีครูบาอาจารย์เลย
สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำ ให้ผู้ที่เชื่อว่าตัวเองเข้าใจธรรมะถูกต้อง ลองทดสอบตัวเองว่าเข้าใจถูกต้องจริงหรือไม่ นั่นคือ ให้ฟังเทศน์จากครูบาอาจารย์ โดยเลือกมาท่านหนึ่ง ใครก็ได้ ตรงนี้ที่สำคัญ ต้องเลือกดีๆ อาจจะเลือกครูบาอาจารย์ที่คนจำนวนมากเคารพนับถือ และไม่มีเรื่องที่ถูกติเตียน ซึ่งมีมากมาย
ซึ่งเวลาที่ฟังครูบาอาจารย์ท่านเทศน์ ทุกคำ ทุกประโยค จะต้องเข้ากันได้กับความเข้าใจของเรา 100%
ขอย้ำว่า ต้องทุกคำ และทุกประโยคด้วย จะมีสิ่งที่ขัดแย้งกับความเข้าใจของเราแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้เลย
สมมุติว่าฟังเผินๆ อาจจะยังเข้ากันไม่ได้ แต่เมื่อตีความแล้วพอจะเข้าใจได้ เอาเป็นว่าผมอนุโลมให้ เพราะผมมั่นใจว่า สุดท้ายแล้ว หากสิ่งที่เข้าใจไม่ถูกต้อง เมื่อฟังไปเรื่อยๆ จะเจอสิ่งที่ตีความยากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้ากันไม่ได้ไปเอง
และสมมุติว่าเราอาจจะเข้าใจธรรมะไม่ถูกต้อง แต่บังเอิญไปเจอครูบาอาจารย์ที่สอนตรงกับความเข้าใจ(ผิด)ของเรา ก็ลองฟังเทศน์ท่านนั้นดู ใช้หลักเดิมนั่นคือ ต้องเข้ากันได้ทุกคำ ทุกประโยค ไม่มีคำพูดใดที่ขัดแย้งกับความเข้าใจของเราเลย
ซึ่งในเมื่อทั้งอาจารย์และทั้งลูกศิษย์ ต่างก็เข้าใจธรรมะไม่ถูกต้อง ไม่มีทางที่จะตรงกันทั้งหมดแน่ๆ จะเจอสิ่งที่ไม่ตรงกันเอง
หากความเข้าใจธรรมะเราไม่ถูกต้องหรือไม่ดีพอ เราจะไม่เจอครูบาอาจารย์ที่สอนได้ตรงกับความเข้าใจเราเลยแม้แต่คนเดียว
แต่ถ้าเราเข้าใจธรรมะถูกต้อง ไม่ว่าเราจะฟังเทศน์จากพระรูปใดก็ตาม ทุกรูปจะเทศน์ได้ตรงกัน เหมือนกันหมด แม้จะไม่ใช่เรื่องเดียวกันแต่เนื้อหาหลักๆ ตรงกัน
ผมขอยกตัวอย่างครูบาอาจารย์ที่ผมเคยฟังท่านเทศน์และสอนได้ตรงกันหมด ไม่ขัดแย้งกับความเข้าใจของผมเลย เช่น หลวงพ่อปราโมทย์ หลวงพ่อครรชิต สุทธิจิตโต หลวงพ่อคำเขียน หลวงปู่เทสก์ หลวงพ่อพุธ หลวงพ่อชา เป็นต้น
และที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้น เพื่อเป็นการทดสอบว่าสิ่งที่ผมเขียนนี้จะใช้ได้จริงหรือไม่ ก่อนที่จะตั้งกระทู้ผมเลยไปฟังเทศน์จากครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อปราโมทย์มักจะพูดถึง และผมเองเคยฟังท่านเทศน์สมัยที่เริ่มศึกษาธรรมะใหม่ๆ แต่ตอนนั้นฟังไม่เข้าใจและหลังจากนั้นไม่เคยฟังอีกเลย อาจจะเคยฟังคลิปสั้นๆ เล็กๆ น้อยๆ เวลาที่สมาชิกบางท่านยกมาอ้างอิง แต่ไม่เคยฟังยาวๆ และจับใจความที่ท่านเทศน์
ซึ่งพอผมได้ตั้งใจฟังท่านพุทธทาสเทศน์เมื่อสักครู่ สิ่งที่ท่านพุทธทาสก็ไม่ขัดแย้งกับความเข้าใจผมแม้แต่ประโยคเดียวจริงๆ
ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผม ใครอยากจะลองก็ลองดู จุดประสงค์ที่ผมตั้งกระทู้นี้ เพราะคิดว่าเมื่อเราเกิดมาพบพระพุทธศาสนา ควรศึกษาธรรมะให้ถูกต้อง อย่าห่วงแต่จะมีทิฐิ มานะ ไม่รับฟังใคร