เทศกาลติดแอร์ มาถึงแล้วครับ!

เผลอแป๊บเดียว ช่วงหน้าร้อนก็เวียนมาถึงอีกครั้ง ซึ่งวิธีที่เราจะผ่านช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้ไปได้แบบทีเดียวจบ ก็คือการติดแอร์นี่แหละ และความที่ช่วงนี้ตลาดแอร์ก็คึกคัก มีออกมาให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น กระทู้นี้ก็เลยขอเป็นหนึ่งในตัวเลือก คว้าแอร์รุ่นใหม่จาก Hitachi มารีวิวให้ดูกัน โดยจะรีวิวชนิดที่เรียกว่าอยากเห็นอะไรต้องได้เห็น เจาะลึกครบทุกมุมตั้งแต่เทคโนโลยีและโหมดต่างๆ ไปจนถึงวัสดุที่ใช้ รวมถึงการรับประกันเลยครับ ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูกันเลย

ขอเริ่มต้นด้วยคุณสมบัติหลักของแอร์ Hitachi รุ่น Deluxe Plus Inverter (RAS-DH18CLT) ตัวที่เราจะรีวิวกันก่อนเลย ถือว่าเหมาะกับการใช้งานในปัจจุบันมากครับ เพราะมีหลายฟังก์ชันที่ช่วยตอบโจทย์ชีวิตเรา

• ระบบฟอกอากาศ 3 ขั้นตอน ด้วยนาโน ไททาเนียม สเตนเลส พรีฟิลเตอร์ / แผ่นกรอง PM2.5 เคลือบสารสกัดวาซาบิ / UV Fresh สามารถลดการสะสมแบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ ลดกลิ่น และกรอง PM2.5 ได้

• Frost Wash ระบบล้างแผงคอยล์เย็นที่ช่วยกำจัดฝุ่นและแบคทีเรียออกไปจากตัวเครื่อง ทำให้ทั้งตัวแอร์และอากาศที่ออกมาสะอาดมากขึ้น ช่วยลดเชื้อรา และแบคทีเรียได้ถึง 93%

• Air Sleep Feel โหมดควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นให้เหมาะสมขณะนอนหลับแบบอัตโนมัติที่ช่วยให้เรานอนหลับสนิทและสบายมากยิ่งขึ้น

• บานสวิงปรับอัตโนมัติ 4 ทิศทาง

• Powerful Mode โหมดเย็นเร็วทันใจ ลดอุณหภูมิต่ำสุดที่ 16 องศา พร้อมปรับพัดลมเป็นระดับสูงสุด เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

• Refresh Mode โหมดเย็นสดชื่น ลดอุณหภูมิ 3 องศา เป็นเวลา 3 ชั่วโมง ช่วยให้อากาศเย็นสดชื่นยิ่งขึ้น เพื่อความเย็นสบายแบบทันใจ พร้อมลดความชื้นในอากาศให้เหมาะสม

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติแต่ละรุ่นจากแคตตาล็อกครับ

โดยรุ่นนี้เป็นรุ่น 18,000 บีทียู ซึ่งถ้าใครจะคำนวณว่าห้องที่จะติดต้องใช้แอร์ประมาณกี่บีทียู คำนวณง่ายๆ แบบนี้ได้เลยครับ BTU = ขนาดของห้อง [กว้าง (เมตร) x ยาว (เมตร)] x (ค่าตัวแปร 800) แต่ถ้ามีปัจจัยอื่นๆ เช่น โดนแดดหรือไม่โดนแดด ก็บวกลบได้ 50 ครับ

หน้าตากล่องใส่คอยล์ร้อนและคอยล์เย็น มาพร้อมท่อแอร์ขนาด 4 เมตรที่จะแยกมาอีกกล่องครับ

แกะกล่องคอยล์เย็นออกมา ก็จะมีคู่มือสินค้า คู่มือการติดตั้ง ใบรับประกันสินค้า แผ่นกรอง PM2.5 เคลือบสารสกัดวาซาบิสีเขียวๆ และที่เสียบรีโมท

ตัวนี้ค่า Seer อยู่ที่ 21.0 ถือว่าสูงเลยทีเดียว ถ้าใครกำลังหาซื้อแอร์ นอกจากแบรนด์กับฟังก์ชันต่างๆ ตัวเลขค่า Seer ก็สำคัญนะครับ เพราะตัวเลขยิ่งเยอะ ยิ่งดี แปลว่าประหยัดไฟ แถมเค้ายังมีประหยัดไฟเบอร์ 5 สองดาว ทำให้ค่าไฟแค่ประมาณ 9,961 บาทต่อปีเอง

ทีนี้เราจะมาเจาะลึกถึงวัสดุแต่ละชิ้นกันบ้างครับ ซึ่งแอร์รุ่นนี้มีจุดเด่นคือระบบฟอกอากาศที่มีถึง 3 ขั้นตอนครับ

โดยขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากแผ่นกรอง PM2.5 เคลือบสารสกัดวาซาบิ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มีในแอร์รุ่นใหม่ของ Hitachi ในปีนี้ เค้าบอกว่ามันช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ได้ตั้ง 99% แถมยังลดการสะสมของแบคทีเรีย ลดกลิ่น และลดสารก่อภูมิแพ้ได้ด้วยครับ ให้ดูกันชัดๆ สีจริงจะออกไปทางเขียวสะท้อนแสงแบบอ่อนๆ ด้านนึงเรียบ อีกด้านเป็นฟูๆ

ส่วนขั้นตอนที่ 2 คือแผ่นกรองนาโน ไททาเนียม สเตนเลส พรีฟิลเตอร์ ที่ช่วยลดการสะสมของฝุ่นและแบคทีเรีย ทำจากสเตนเลสคุณภาพสูง ผมลองจับดูแล้วรู้สึกว่าแข็งแรงครับ แถมตาข่ายก็ช่องเล็กถี่ยิบมาก ข้อดีคือทำให้ดักจับฝุ่นได้ดี แต่ทั้งนี้เราก็ต้องทำความสะอาดแผ่นกรองอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้มันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอด้วยนะครับ ซึ่งบอกเลยว่าถอดออกมาทำความสะอาดง่ายมากๆ

ส่วนขั้นตอนที่ 3 ก็คืออันนี้ UV Fresh ครับ เป็นหลอด LED หลักการทำงานของมันคือปล่อยแสงอัลตราไวโอเลตไปที่แผ่นกรอง เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อราและแบคทีเรียได้ถึง 99%

ไปต่อกันเลยที่บานสวิงปรับอัตโนมัติได้ 4 ทิศทาง ซ้าย-ขวา บน-ล่าง ที่ทำให้เราได้รับลมเย็นแบบทั่วถึงแล้วก็สม่ำเสมอนั่นเองครับ

ถัดมา มาดูส่วนของแผงคอยล์เย็นกันครับ แผงคอยล์เย็นของแอร์ Hitachi จะเป็นอะลูมิเนียม ส่วนด้านในมีท่อเดินน้ำยาแอร์ทำจากทองแดง ซึ่งประกอบออกมาดูเรียบร้อย แข็งแรงดี

จบส่วนของการชำแหละด้วยกล่องครอบแผงวงจรโลหะกันครับ สำหรับแอร์ Hitachi เราไม่ต้องมาคอยกังวลถ้าวันนึงไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นมา หรือมีเหตุฉุกเฉินอะไร ไฟก็จะไหม้อยู่แค่ภายในกล่อง ไม่ลามออกมาข้างนอก เพราะเค้าใช้เป็นวัสดุป้องกันการติดไฟครับ

มา Unbox คอยล์ร้อนกันบ้างดีกว่า เอาจริงเจ้านี่คืออย่างสุดท้ายที่คนจะสนใจ แต่จริงๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะมันก็สัมพันธ์กับแอร์ที่อยู่ในห้องเรา แต่ต้องอยู่ตากแดด ตากลมข้างนอกบ้าน ส่วนนี้ Hitachi เค้าทั้งมีใบรับประกันแยกมาให้และเน้นใช้วัสดุดีๆ อย่างโครงสร้างคอยล์ร้อนเคลือบสีชนิดพิเศษ ที่ช่วยป้องกันสนิมทั่วทั้งเครื่อง / คอนเดนซิงเคลือบกรีนฟินทนทาน ลดการผุกร่อน เพิ่มอายุการใช้งานได้นานกว่าแบบธรรมดาถึง 3 เท่าเลยครับ

ที่สำคัญเวลาการซื้อแอร์ คนมักจะมีคำถามว่าคอยล์อะลูมิเนียมหรือคอยล์ทองแดงดีกว่ากัน จากที่หาข้อมูลมาผมได้คำตอบว่า ทั้งสองแบบต่างมีข้อดีข้อเสีย

• อะลูมิเนียมจะได้เรื่องความเบา ความเย็นเร็ว แต่ข้อเสียคือ จะผุกร่อนง่าย ทนทานน้อยกว่า และถ้ารั่วทีก็ซ่อมลำบากเลยครับ

• ส่วนทองแดงจะได้เรื่องความทนทาน ทนต่อการผุกร่อน ซ่อมง่าย แต่แพงกว่า ส่วนตัวคิดว่าการซื้อใดๆ ก็ตาม ใครๆ ก็อยากได้ของที่ใช้ยาวและคุ้ม ดังนั้นก็ต้องขอโหวตให้เรื่องความทนทานไว้ก่อน ยิ่งถ้าบ้านอยู่ในพื้นที่ชื้นๆ ด้วยแล้ว การใช้คอยล์ทองแดงมีข้อดีกว่าคือไม่ต้องกลัวว่าจะผุหรือหรือรั่ว

ของ Hitachi ลองแกะออกมาดูก็เป็นคอยล์ทองแดง เนื้อหนาครับ

ซึ่งนอกจากวัสดุที่ผมมองว่าดูแข็งแรงและทนทานแล้ว เค้ายังมีเทคโนโลยี Cascade Vector DC Inverter หรือเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ ที่ช่วยให้แอร์ประหยัดไฟ และยังสามารถทำงานได้ถึงแม้ไฟจะตกหรือดับด้วยครับ นอกเหนือจากนั้น ยังมีระบบ Safe Surge Protection ที่ช่วยให้แผงวงจรสามารถทนต่อไปเกินได้สูงสุดถึง 420V ปลอดภัยหายห่วงแน่ๆ ครับ

ตัวคอยล์ร้อนของ Hitachi มีใบรับประกันแยกด้วยนะครับ