หลังจากห่างหายไปเกือบ 2 เดือนจากกระทู้ที่แล้ว สามารถดู Part 1 ได้จากลิ้งด้านล่างนี้นะคะ

https://ppantip.com/topic/39608032

และแล้ว COVID-19 ก็ทำให้เราพอมีเวลาว่าง มาเขียนกระทู้ต่อได้ สำหรับกระทู้นี้จะเป็นการรีวิวทัวร์โมรอคโคในวันที่เหลือนะคะ
คืออีกฝั่งของเทือกเขาแอตลาส ที่เป็นส่วนของทะเลทราย จนกระทั่งกลับเข้าเมืองใหญ่และบินกลับไทยเลยค่ะ

ก่อนอำลาเมืองเฟส กรุ้ปเราได้ไปแวะถ่ายรูปที่ ประตูพระราชวังของเมืองเฟส เป็นอีกจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาชมและแวะเวียนมาถ่ายรูปกันไม่ขาดสายตลอดทั้งวันเลยค่ะ

เป็นความโชคดีอย่างมากของกรุ้ปเรา ที่หัวหน้าทัวร์ได้นัดออกเดินทางค่อนข้างเช้า ทำให้ตอนเข้าไปถ่ายรูปที่ประตูพระราชวัง คนยังไม่เยอะมาก
แต่พอหลังจากเราได้รูปหมู่ของคณะเท่านั้นแหละค่ะ นักท่องเที่ยวมาจากไหนไม่รู้เต็มไปหมด มาจับจองพื้นที่ถ่ายรูปกัน ไม่มีที่ว่างเลยค่ะ

วันนี้เราเดินทางค่อนข้างยาวค่ะ กว่าจะข้ามเทือกเข้าแอตลาสมุ่งหน้าสู่เมืองเมอร์ซูก้าร์ ในเขตทะเลทรายซาฮาร่า

เดินทางมาได้ซัก 2 ชั่วโมงกว่า แน่นอนค่ะ ต้องมีการแวะเข้าห้องน้ำ แต่ครั้งนี้ ทางทัวร์ได้พาแวะที่ร้านคอฟฟี่ชอป (จำชื่อเมืองที่แวะไม่ได้อีกตามเคย)
แต่ร้านสวย ห้องน้ำสะอาด ที่สำคัญ! ทางทัวร์เลี้ยงขนมและกาแฟ เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ แต่เนื่องจากกรุ้ปเราคนค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่ได้หยิบกล้องมาถ่ายบรรยากาศของร้าน ถ่ายทันแค่ขนมที่ตัวเองเลือกมา หน้าตาดูดีแบบนี้ ร้านก็ดูดีเช่นกันค่ะ

รองท้องกันอิ่ม เข้าห้องน้ำเรียบร้อย ได้เวลาเดินทางต่อ เราหลับๆตื่นๆตลอดทาง ตื่นมาฟังเรื่องราวที่หัวหน้าทัวร์ถ่ายทอดเรื่องราวบ้าง ชมวิวข้างทางบ้าง

จนเริ่มเข้าเขตทะเลทรายซาฮาร่าแล้วค่ะ ลักษณะภูมิประเทศเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน
จากมีเขตเมือง มีผู้คนสัญจรไปมา มีทุ่งหน้าเขียวๆกว้างใหญ่ กลายเป็นพื้นที่เริ่มมีแต่กรวดหิน และทะเลทราย

ไม่กี่อึดใจ เราก็เดินทางมาถึงจุดแวะสำหรับอาหารกลางวันค่ะ แต่ไม่น่าเชื่อ เข้าเขตทะเลทรายแบบนี้ อาหารกลางวันยังจัดเต็มได้อีก

จริงๆ ทัวร์จัดให้เราลองชิม ทาจีนเนื้ออูฐ ด้วยค่ะ แต่ไม่ทันได้ถ่ายรูปมา ถือว่ารสชาติโอเคเลยนะคะ เนื้อไม่คาวมาก รู้สึกคล้ายๆเนื้อวัว และกลิ่นเครื่องเทศน่าจะกลบกลิ่นเนื้ออูฐไปแล้ว ทุกคนจึงทานได้ อาหารจานแรกวันนี้เป็นซุปข้นไก่ จานหลักเป็นปลาค่ะ เสริฟทั้งตัว ที่สำคัญคือ แกะก้างมาเรียบร้อยแล้วด้วย แฮปปี้สุดๆไปเลยค่ะ ยังไม่จบแค่นี้ มื้อนี้ ทัวร์ยังมีอาหารไทยมาเสริมให้อีก เป็นผัดเผ็ดปลาดุก และไข่พะโล้ เสริฟพร้อมข้าวสวย ถึงจะไม่นุ่มและหอมเท่าข้าวหอมมะลิของไทยเรา แต่ก็เรียกว่า ดีกว่าไม่มี ราดด้วยไข่พะโล้และผัดเผ็ดปลาดุกร้อนๆ โอ้โหหห สุดยอดไปเลยค่ะ

ไม่คิดว่าเริ่มเข้าเขตทะเลทราย แต่อาหารจะออกมาค่อนข้างโอเคเลย ตอนแรกทำใจแล้วว่า ทานเท่าที่ทานได้นะ ถึงขนาดพกมาม่าคัพลงไปด้วย สุดท้าย เอากลับมาเก็บใส่กระเป๋าตามเดิมค่ะ :p


กว่าจะจบมื้ออาหารกลางวัน วันนี้ เกือบบ่าย 3 ค่ะ อิ่มแล้วก็เดินทางต่อได้ 

กรุ้ปเรายังคงมุ่งหน้าเข้าสู่เขตทะเลทรายอย่างเต็มตัวแล้ว พระอาทิตย์เริ่มเคลื่อนต่ำลง

ระหว่างทางเราผ่านเขตโอเอซิสที่ใหญ่ที่สุดในเขตนี้ มีความยาวถึง 17 กิโลเมตรเลยค่ะ มีผู้คนอาศัยและใช้ชีวิตอยู่เป็นปกติ