ยังรักและคิดถึงแฟนเก่าที่เสียไปแล้ว โดยยังไม่ทันได้ร่ำลา ?

เราเสียแฟนไปเพราะแฟนประสบอุบัติเหตุ..
แฟนเสียไปตอนเดือนกันยายนปีที่แล้ว (พ.ศ.2562)
นับมาถึงตอนนี้น่าจะประมาณ 6 เดือนแล้ว

พื้นฐานนิสัยเขาเป็นคนดี นิสัยน่ารักออกขี้เล่น กวนๆหน่อย ดูโตเป็นผู้ใหญ่ ดูแลตัวเองได้ คืออยู่ด้วยแล้วมีความสุข ไม่เครียด มีไรก็ปรึกษาเขาตลอด

ตอนแฟนมีชีวิตอยู่ ตอนแรกเคยคุยกันมาก่อน
คุยพัฒนาความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ
จนกระทั่งเราเลิกคุยกันไป
จำไม่ได้ว่าเลิกคุยเพราะเหตุผลอะไร
แล้วเราก็ไปคบกับอีกคนนึง
เราเคยบอกกับเขาว่า "ถ้ามันใช่ยังไงก็วนกลับมาหากัน"
ใจนึงเราก็ยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์กับเขาอยู่แหละ
มันรู้สึกเศร้าๆหน่วงๆในใจบอกไม่ถูก
เราเห็นเขาลงรูปใน facebook เป็นรูปตัวเขาเอง
แต่ว่าเขาถ่ายติดช่วงแขนเราด้วยในภาพนั้น
บอกว่าคิดถึงเรา ทั้งเพื่อนเขาและเพื่อนของเราต่างคอมเมนท์แซวกันเป็นแถว..
เราพูดไม่ถูกเลยตอนนั้น

พอเวลาผ่านมาเราได้เลิกกับแฟน
เราเพ้อในเฟส เขาเห็นโพสต์เราทุกอย่าง
แล้วมีวันนึงเขาทักแชทมาหาเรา
ทักมาว่า "เลิกกับแฟนแล้วหรอ"

ตั้งแต่นั้นมา เราได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง
คุยจนความสัมพันธ์จาก "พี่น้อง" จนกลายเป็น "แฟน"
สุดท้าย..เราก็ได้กลับมาหาเขา และได้รักกัน

เราสองคนตัดสินใจคบกัน และได้เปิดใจคุยกันถึงเรื่องอดีต เราเลยเปิดใจถาม
: ตอนที่เลิกคุยกันไปรู้สึกยังไงบ้าง
: ก็รู้สึกเศร้าแหละ บอกไม่ถูกอ่ะ
: แล้วนึกยังไงทักแชทมาหา?
: พี่เห็นเราเพ้อในเฟส เออเลิกกับแฟนหรอ อะไรประมาณนี้ พี่ก็เลยตัดสินใจทักหา
: หนูขอโทษนะที่ตอนนั้น.. หนูทิ้งพี่ไป // น้ำตาคลอและเริ่มสะอื้น
: โอ๋ๆ ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันละไง เราเคยพูดกับพี่ไม่ใช่หรอ // จากนั้นดึงเราเข้าไปกอด

: เรามาคบกันนะครับ 😁
: โอเคค่า ตกลง 😊

จากนั้นก็คบกันมาได้เดือนกว่าๆ
ก็มีทุกข์มีสุข ทะเลาะกัน งอนกันบ้าง แต่ก็ดีกัน
ไปไหนมาไหนด้วยกัน ดูหนัง กินข้าว นอนด้วยกัน
(หอแฟนกับหอเราอยู่คนละที่)

จนกระทั่งมีวันนึง..
เรากำลังทำงาน โทรศัพท์มีสายเข้าจากแฟนเรา
เลยรับสาย ปรากฏว่าคนพูดไม่ใช่เสียงของแฟนเรา
: ฮัลโหล
: นี่ใครอ่ะ? // ถามปลายสายกลับ
ใช่..คนพูดไม่ใช่ใคร เขาคือเพื่อนสนิทของแฟน
: มีไรป่าวพี่ // เริ่มสงสัย
: ตอนนี้แฟนเราอยู่รพ.นะ ห้องไอซียู กำลังผ่าตัด แฟนเราประสบอุบัติเหตุ ยังไม่รู้สึกตัว
: (นิ่งไป 3 วิ) จริงหรอพี่?

จากนั้นก็ถามรายละเอียดต่างๆ
หลังจากตอนนั้นก็ทำงานแบบไม่เป็นงาน
ทำงานไปร้องไห้ไป เราอดเป็นห่วงแฟนไม่ได้ เลยตัดสินใจลางานกับผจก.จนเขาตัดสินใจให้ลา
(ตอนแรกก็ไม่ยอม)

ความรู้สึกตอนไปเยี่ยมที่รพ.
ตัวมันสั่นไปหมด ใจมันหวิวๆ
คิดว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริงด้วยซะด้วยซ้ำ..
ไปถึงก็เจอเพื่อนสนิทแฟน น้องชายแฟน แม่แฟนนั่งอยู่หน้าห้อง

ตอนเห็นสภาพแฟนเราก็หยุดร้องไห้ไม่ได้เลย
แฟนนอนแบบไม่รู้สึกตัว สภาพแย่พอสมควร
จนแฟนเราลืมตามาละหันมาทางเรา
เราก็น้ำตาไหล นาทีนั้นมันกลั้นไม่อยู่จริงๆ
แฟนก็มาจับมือเรา และส่ายหน้า // คงอยากบอกเราว่าอย่าร้องไห้

จากนั้นเวลาก่อนไปทำงาน หลังเลิกงาน
ก็หาเวลามาเยี่ยมแฟนทุกครั้ง

จนกระทั่งวันนึง วันนั้นก็มาถึง..
เป็นวันที่เราไม่คาดคิด
เป็นวันที่เราได้ไปเยี่ยมแฟน "ครั้งสุดท้าย"
ก่อนไปทำงาน ในตอนเช้า

ไปถึงรพ.น้องชายแฟนก็มาเล่าอาการแฟนให้ฟัง
พร้อมกับร้องไห้ และแม่แฟนก็มาบอกกับเรา
: มีไรอยากบอกเขาก็รีบไปบอกนะ อาการเขาไม่ดีแล้ว ร่างกายเขาไม่รับเลือดแล้ว เพราะเสียเลือดมาก

จนเรารีบเดินไปที่เตียงแฟน
แฟนนอนแน่นิ่ง สายตามองมาที่เราอย่างอาวรณ์
สายตาเขาที่บ่งบอกถึงความทรมานและความเจ็บปวดของบาดแผล
เมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องไปทำงานแล้ว เลยบอกกับแฟน

: อย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะ อยู่ด้วยกันก่อนนะ
: เดี๋ยวหนูมาเยี่ยมใหม่นะ
: // พยักหน้า
: พี่รักหนูไหม? // น้ำตาคลอ
: // พยักหน้า (เขาคงรู้สึกรักและเป็นห่วงเราอยู่แหละ)
: เดี๋ยวหนูมาหา รอหนูก่อนนะ

หลังจากนั้น เวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ..

เรากำลังทำงาน น้องชายแฟนแชทมา
: พี่ แฟนเสียแล้วนะ
: เอาดีๆ จริงหรอ
: จริงๆ 😭

นิ่งได้แปบนึง พูดอะไรไม่ออก มันจุกๆอยู่ในใจ
แล้วสักพักน้ำตาก็ไหล และร้องไห้สะอื้นในที่ทำงานเลยในตอนนั้น
เราก็ตัดสินใจลางานผจก.ไปงานศพแฟนที่สุรินทร์ เกือบ 2 อาทิตย์ที่ลาไป ลาตั้งแต่วันที่แฟนเสีย

ตลอดทั้งงานศพ เราร้องไห้ตลอดเวลา
อดคิดถึงแฟนไม่ได้ มันเศร้าๆหน่วงๆตลอด

"นี่มันเร็วเกินไปมั้ย.. ทำไมถึงจากเราไปไวขนาดนี้.."
"คงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องพัก"
"เขาไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดทรมานแล้ว.."

ระหว่างงานสวดศพ คนรอบข้างก็เจอเรื่องแปลกๆ
และมันไม่แปลกเลยที่จะเป็นเช่นนั้น

หนึ่งในนั้นคือเรา..
จำได้ว่ามีตอนนึงกำลังอาบน้ำอยู่ เราเหมือนได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเราตลอด เราคิดว่าหูคงฝาดเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร

จนถึงวันฌาปนกิจศพ
เป็นวันที่เรารู้สึกเสียใจมากที่สุดวันนึง

ช่วงที่สัปเหร่อเปิดฝาโลงศพ เรากับเพื่อนเลยไปดู
เราสะอื้นและร้องไห้หนักตั้งแต่ตอนนั้น ยาวมาเรื่อยๆ
เราเลยตัดสินใจให้กำไลกับสัปเหร่อ
มันเป็นกำไลคู่ที่เราใส่ด้วยกัน เป็นแบบคล้ายๆโลหะ
: หนูฝากใส่ให้แฟนหนูด้วยนะคะ 😢

เขาก็คล้องวางไว้ที่มือให้ และพิธีก็เริ่มขึ้น..
เราร้องไห้หนักมากในวันนั้น
ร้องแบบไม่เคยร้องมาก่อน ไม่เคยเสียใจมากขนาดนี้
ร้องจนอยู่ดีๆก็ล้มลง ตัวเริ่มชา ขาเริ่มอ่อนแรง
จนเพื่อนข้างๆต้องรีบพยุงให้เรานั่งตั้งสติก่อน
สุดท้ายก็เป็นลมไป..

พออาการดีขึ้น ป้าของแฟนเขามาตัดผมเรา
ละบอกว่าให้เราโยนใส่ไปในโลงศพแฟน

เราก็ได้โยนผมเราลงไป แล้วก็พูดว่า
"ถ้าเป็นไปได้ชาติหน้าขอให้เราได้เกิดมาคู่กันอีกนะ"

มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากๆ
สูญเสียคนที่เรารัก แฟนเราจากไปแบบไม่มีวันกลับ
ไม่ทันได้บอกลาสักคำ..

ตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้..
เรายังรู้สึกรักและคิดถึงเขาอยู่ตลอด
ร้องไห้ทุกวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ
ความรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป
ถึงแม้ว่าตอนนี้เรามีแฟนใหม่แล้วก็ตาม

แต่ในใจเราไม่สามารถลืมเขา
ไม่สามารถลบเขาออกจากใจได้เลย..
(แม้แต่รูปภาพเขาก็ไม่ลบ ตอนนี้ยังคงเก็บไว้อยู่)

เวลาไปไหนมาไหนแล้วเห็นใครขี่บิ๊กไบค์ผ่าน
เราจะรู้สึกจี๊ดๆที่อก รู้สึกว่ามันฝังใจ สุดๆเลยแหละ
(แฟนขี่รถบิ๊กไบค์ และชอบรถบิ๊กไบค์มาก)

และเวลาเห็นรถเทศบาล เราก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน
เพราะตอนแฟนประสบอุบัติเหตุแฟนขี่รถไปชนกับรถเทศบาล
มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานสุดๆ บอกใครไม่ได้

ย้อนเวลากลับไปก่อนที่แฟนจะเสีย..
เพื่อนสนิทแฟนเคยทักแฟนว่า
อย่าขี่รถมอเตอร์ไซค์ของที่ทำงาน
เขารู้สึกไม่ดี เหมือนเซ้นส์เขาบอก
มันจะมีคันนึง ไม่แน่ใจว่ารุ่น MSX มั้ย
แฟนเราก็ไม่ได้อะไรนะ จนกระทั่งวันเกิดเหตุแฟนทำงานละขี่รถคันดังกล่าวไปส่งเอกสาร
แล้วก็ขี่รถชนกับรถเทศบาล ซึ่งรถจอดข้างทาง
ไม่มีการตั้งป้ายตั้งกรวยเลย
เพื่อนสนิทแฟนมาเล่าให้ฟังทุกอย่าง
ซึ่งเราเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอะไรจะบังเอิญได้ขนาดนั้น
แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เราเองก็ต้องทำใจ

.............................................................................

อยากถามว่าต้องทำยังไงถึงจะยอมรับเรื่องนี้ได้
**คือใจมันยังคิดถึงเขาอยู่ตลอด**

และเรื่องที่เขาให้เอาผมเราโยนใส่ในโลงศพแฟนนี่หมายความว่าอะไร ถ้าใครรู้ช่วยบอกนะคะ

คิดว่าตอนนี้แฟนจะยังเป็นห่วงอยู่ไหม
อีกใจกลัวแฟนไปไม่สู่สุขคติ
**เพราะยังโหยหาถึงเขา

🙏🏻 ขอบคุณทุกคนที่ยอมสละเวลามาอ่านนะคะ 🙏🏻
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่