สวัสดีค่ะ
ตามหัวกระทู้เลยรอบนี้แป้งกับอเล็กซ์ไปเที่ยวประเทศฟิลิปปินส์ 3 อาทิตย์ค่ะ แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่นายกรัฐมนตรีของประเทศฟิลิปปินส์ประกาศ Lockdown เมืองมะนิลา ก็มีปิดการเดินทางทางบก น้ำและทางอากาศค่ะ ซึ่งยังสามารถบินออกนอกประเทศได้ ถ้าเป็น International Flight แต่ Domestic ปิดหมดค้าาาาา โรงแรมที่พักใดๆคือปิดจ้าา จะพักต้องจ่ายแพง นอนโรงแรมดีๆ คืนละ 3 พันกว่าบาทน้องก็ไม่ไหวนะเอ๊อออ ใครจะไหวคะ ทางเรานั้นก็ขอนอนสนามบินเอาละกัน แง๊!! และอิเที่ยวบินที่เราจองไว้จะกลับมามะนิลาเพื่อกลับไทยนั้นก็โดน Cancelled ไปแรงๆๆ ไม่เหลือค่ะ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้น ติดอยู่สนามบินบ้าง โดนสายการบินปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบ้าง นั่งมองชาวบ้านเขาบินกลับบ้านไปแบบชิวๆบ้าง ความน้ำตาแตกก็มาแต่ไม่ได้เศร้าขนาดน๊านนนน 5555 เชิญอ่านต่อได้ข้างล่างนี้ค่ะ
รูปนี้ที่เกาะ
Camiguin เนื่องจากทุกๆที่จะว่ายน้ำต้องจ่ายตังเด้ออออ เราเลยขี่มอไซค์ไปเรื่อยๆแล้วดันมาเจอหาดเล็กๆ มีหินหน่อยๆ พอว่ายได้ ความรุ้งกินน้ำคือดีย์ และมันฟรี 55555 นี่ก็งง มนุษย์เป็นคนสร้างมหาสมุทรหรือไร ทำไมต้องเก็บตังกันด้วย ไปช่วยกันเก็บขยะบนหาดก่อนดีกว๊าาาา
รอบนี้คือ สติต้องมา ตั้งสติให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดไรขึ้น และที่สำคัญอย่าหมดหวังค่ะ ลองมันให้หมดทุกทางเลือก ไม่ว่าจะโดนปฏิเสธ โดนยกเลิกเที่ยวบินอะรก็ตาม สติต้องมา แล้วจะค่อยๆหาทางออกได้เอง อันนี้บอกตัวเอง 5555555 เที่ยวนี้ต้องขอบคุณที่บ้าน และเพื่อนๆที่ช่วยให้กำลังใจมาตลอด ไม่งั้นเราจะเตลิดไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ แต่ก็ตอนนี้กลับถึงไทยแล้วค่ะ ดีใจมว๊ากกกก กว่าจะกลับได้ แลกมาด้วยเหงื่อและน้ำตา เฮ้ออออววว
เจ้าของกระทู้นั้นชื่อแป้งนะคะ เป็นแบคแพคเกอร์ที่มีสไตล์การเที่ยวเป็นของตัวเอง สามารถติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวได้ที่ IG Story นะคะ การเที่ยวของเราจะเน้นความประหยัด แต่ไม่ขนาดอดๆอยากๆ 5555 เที่ยวเหมือนใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น คนท้องถิ่นเขาเที่ยวไงเราเอาบ้าง แท็กซี่เราจะไม่ขึ้น นั่งรถประจำทาง เน้นเดินและโบกรถ 55555555 ตอนนี้เที่ยวกับแฟนค่ะชื่ออเล็กซ์ เราก็ต้องแบคแพคไปเรื่อยๆ เพราะแฟนนั้นเป็นแค่นักท่องเที่ยวเราเลยต้องระหกระเหินไปตามประเทศต่างๆตอนวีซ่าแฟนหมดค่ะ ตอนนี้ได้วีซ่าไปทำงานที่ประเทศๆนึงค่ะ เนื่องจากเขาปิดประเทศกับสถานการณ์โรคระบาดในตอนนี้เราก็คงต้อง รออออออออออออปายยยยยยยยยยยยยยย เปิดเถอะค่ะ เราจะได้เริ่มต้นซีรีย์ใหม่เป็นการใช้ชีวิตในต่างแดน แบบฉบับปังปังผู้ท่องโลก แล้วก็ขอให้สถานการณ์มันดีขึ้นเร็วๆด้วยเถอะค๊าาาาาาา
ก่อนหน้านี้เขียนกระทู้แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการแบคแพคแบบประหยัด 2 ปี เข้าไปอ่านได้ค่ะ
How to แบคแพคแบบประหยัดสุดๆ กับเวลา 2 ปี 30++ ประเทศ
แชร์ประสบการณ์เที่ยว สิ่งที่ควรรู้ และสิ่งที่ควรเตรียมไว้ก่อนเดินทาง (เวอร์ชั่นประหยัดสุดๆ)
เริ่มต้นทริปนี้โดยการที่วีซ่าแฟนเขาหมดอายุ เลยต้องออกนอกประเทศไปเพื่อกลับเข้ามาใหม่ ละก็คือเหลือประเทศฟิลิปปินส์ที่มันอยู่ในเชคลิสละยังไม่ได้ไปซักที เลยจัดไปเลยค่ะ ซึ่งตอนนั้นสถานการณ์โควิดยังไม่แย่มากๆเท่าตอนนี้ต้องรีบกลับมา เจอแค่ 4 เคส ซึ่งก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก เหอะ เหอะ เดี๋ยวก็รู้!!
เราก็บินกับ Airasia เจ้าเก่าขาประจำไปลงกรุง
Manila อยู่มะนิลา 4 วันก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนมาก เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก เราไปเที่ยวที่สุสานกันค่ะ แฟนเขาเป็นพวกชอบอะไรแปลกๆ
(และทริปที่ผ่านๆมาเราก็ไปดูสุสานที่ยุโรป เมือง Nice ประเทศฝรั่งเศสคือ สวยมว๊ากกกกก สาปัตยกรรม นี่นั่น บ้าไปแล้วว สวยเกินไป สงบ เห็นวิวเมือง Nice) โอเคพอแล้วค่ะ คือที่เราไปสุสานเพราะมันมีคนอาศัยอยู่ในสุสานไง มันถึงแปลก ซึ่งเราก็เดินบ้าง นั่งรถ Jeepney บ้างพอถึง
Manila North Cemetry ก็เดินเข้าไปโอ้โหวว สุดยอด นี่สุสานหรือคฤหาสน์ ใหญ่เวอร์วัง มีทีวี ตู้เย็น แอร์ก็มี มากกว่านี้ก็คือคนไร้บ้านอะค่ะ เขาเข้าไปอยู่อาศัยจริงๆ บางคนเขาก็จ้างให้คนพวกนี้ดูแลสุสาน บางคนก็ อื้ม นั่นแหละ แงะประตูเข้าไปอยู่มันซะเลย สุสานของพวกสัตว์เลี้ยงก็ยังมีเลยค่ะ แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือสุสานคนจีนซึ่งจะอยู่อีกประตูนึงค่ะ เขาบอกว่ามันอลังการงานสร้างมาก หรูหราบ้าไปแล้ว ซึ่งแป้งบอกอเล็กซ์ว่า ไม่ไปนะ ไม่ไหว เห็นภาพแล้วมันเศร้าจริงๆนะคะ เลยกลับดีกว่า ภาพมันติดตา ไม่พูดพร่ำทำเพลงละค่ะ เข้าเรื่องๆๆๆ
รูปนี้ที่
Fort Santiago ที่มะนิลา ถือว่าเข้าไปคุ้มมากๆค่ะ มีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปชมด้วย
อาหารมื้อแรกๆของทริป อร่อยดีค่ะ
4 วันที่มะนิลา เราก็มีปาร์ตี้นิดๆหน่อยๆ ไปไชน่าทาวน์ที่มีแต่ธนาคารทั้งถนน 555
Intramuros เมืองเก่า และก็สวน
Rizal Park ที่มีพิพิธภันท์น่าสนใจๆที่นั้นเลยค่ะ ที่สำคัญ ฟรี!! เดินมาทั้งวันเราก็นั่งเล่นกันในสวนสาธารณะนั่นแหละค่ะ ก็มีโชว์จากนักเรียนตำรวจของที่นี่ด้วย สนุกมากเลย คนที่นี่ใจดีมากด้วยค่ะ พอเราเริ่มมีการหลงทาง ไปขอความช่วยเหลือ คนที่นี่เขาก็ช่วยเราตลอด โอ้ และการแตกแบงค์ที่นี่คือลำบากมว๊ากกกก จ่ายซื้อของด้วยแบงค์ 1,000 แบงค์ 500 ไม่ได้นะคะไปแลกเป็นแบงค์ย่อยดีกว่า จะได้ไม่โดนมองแร๊งงส์ สิ่งที่ควรคิดไว้ในใจเลยคือ จะกินร้านฟาสฟู้ดแบบ Jollibee McDonald's เนี่ยยยย จ่ายเงินสดนะคะ มีสาขาที่น้อยมากๆๆที่จะรับบัตร สนามบินยังไม่รับบัตรเลยค่ะ เราก็อึ้งไปนิดๆเพราะเราต้องไปกดเงินสดเพิ่มอ๊าาาา ไม่อยากพกเงินเยอะๆไว้ที่ตัว
พิพิธภัณฑ์นี้ข้างในสวยมากค่ะ มีกระดูกไดโนเสาร์ จำลอง ให้ชมด้วย สนุกและได้ความรู้เพิ่มเยอะมาก
หลังจากนั้นเราบินไปเมือง
Cagayan De Oro ค่ะ อยู่ตรงไหนแวะ?? คืออยู่เกาะทางใต้ค่ะ เป็นส่วนหนึ่งของ
เกาะ Mindanao ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก นักท่องเที่ยวก็แทบจะไม่มีเลยค่ะ หรือเพราะไวรัสด้วยหรือเปล่า พวกเรามีเป้าหมายอยู่ที่เมือง
Illigan ซึ่งอยู่ในแถบ
Northern Mindanao มีน้ำตกเยอะมว๊ากกกกกก เป็นสิบสิบ แต่ปัญหาคือ หามอไซเช่าไม่ได้จ้าาาา ชาวบ้านแถวนี้เขาไม่ยอมให้ต่างชาติเช่ามอเตอร์ไซค์ เราเลยต้องใช้บริการรถบัส Jeepney บ้าง และการเดินเป็น 10 กว่าโล แต่ว่าคุ้มและสนุกมากค่ะ
Jeepney ที่ฟิลิปปินส์จะคล้ายๆรถสองแถวบ้านเราแต่หลังคาจะต่ำกว่า และต้องโค้งตัวเดินขึ้นรถค่ะ ค่าโดยสารก็ตกอยู่เที่ยวละ 5 บาท จะวิ่งประมาณ 1-3 กิโล จากประสบการณ์นะคะ ถ้าเจอรถ Jeepney ที่วิ่งระยะไกลๆอัตราค่าโดยสารก็จะเพิ่มขึ้นค่ะ แต่ยังไงก็ถูกอยู่ดี อย่างสมมติ ค่ารถเมล์พัดลมตามระยะทาง 60 กิโลเมตร ค่ารถก็จะตกอยู่ที่ 70 เปโซ ส่วนค่ารถของ Jeepney เนี่ย ถึงจะช้ากว่าแต่มันได้ฟีล ฝุ่น! 555 สนุกไปอีกแบบ จะเหลือแค่คนละ 35 เปโซเองค่ะ
หน้าตารถบัสก็จะประมาณนี้ค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมบางทีนั่งรถแอร์ถูกกว่ารถพัดลม งงในงง แป้งนั่งรถบัสจากเมือง
Cagayan De Oro ไปเมือง
Illigan เมืองแห่งน้ำตก ส่วนรถแอร์ก็จะตกอยู่ที่ 100 เปโซ ในขณะที่รถพัดลม 120 เปโซ นี่ก็เลย เรียกอเล็กซ์มานั่งรถแอร์ดีกว่า ถูกกว่าและมีแอร์ไปอี๊กกกกกกก
ที่นี่ชื่อว่า
Tinago Falls เมือง
Illigan สวยมว๊ากก น้ำใสแจ๋ว ค่าเข้า ค่าบำรุงนี่นั่นก็จะตกอยู่ที่คนละ 35 เปโซ ตอนที่แป้งไปนะคะ ถือว่าคุ้ม น้ำเยอะมาก ว่ายไปให้เหนื่อยเลยจ่ะ
อันนี้เราพยายามจะเดินจาก
Tinago Falls ไปอีกน้ำตกนึงที่ชื่อว่า
Maria Cristina Falls เป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ ซึ่งมันห่างกันประมาณ 6 กิโลได้ ประเด็นคือมันไม่มีรถอะไรผ่านเลยนอกจากจะจ้างวินมอไซ และมันแพงมว๊ากกกก อเล็กซ์ชวนเดิน แป้งก็เลย เอ๊าาา เอาก็เอา เดินแม่ม 55 พอไปถึงอีกน้ำตกนึงมันก็ปิดค่ะ ซึ่งปิดมาได้ 2 ปีกว่าแล้วเนื่องจากมันเป็นที่สร้างไฟฟ้า เราก็เลยเดินต่อไปไม่หยุดจนเจอถนนใหญ่ละก็โบกรถกลับที่พักค่ะ
เจอไอเจ้านี่ มันตกมาจากต้นไม้ ไม่รู้มันคืออะไรแต่เห็นคนเขาจับมาเล่นละก็ปลิวๆ สวยดี
หลังจากนั้นเราก็บอกลาเกาะ
Mindanao โดยการนั่งรถบัส และต่อด้วยเรือไปเกาะ
Camiguin ค่าเรื่อจะอยู่ที่ 205 เปโซ แต่ยังไม่หมดๆๆๆๆ มันมีค่าเข้าท่าเรือ ค่าบำรุง ค่านู่น ค่านี่ ทำไมไม่เก็บรวมๆเอาที่เดียวเลยวะ โอ๊ยยย 5555 เกาะเล็กๆที่ไปไหนๆก็ต้องจ่ายตัง พูดง่ายๆเลย จะลงน้ำไปว่ายน้ำทะเลยังต้องจ่ายตังอะคิดดู เง้อออ เกาะนี้ขึ้นชื่อเรื่อง
Giant Clam หอยใหญ่ๆนั่นเอง อยากรู้ว่ามันใหญ่ยังไงไปเซิร์ชดูนะคะ
Giant Clam Camiguin เพราะนี้ก็เห็นแต่ในรูป ใครมีโอกาสลองไปชมได้ แต่เราขอบาย เพราะค่าใช้จ่าย ค่าลงน้ำ ค่าบำรุงนี่นั่นมันสูงเหลือเกิน จะแอบลัดเลาะไปแบบไม่จ่ายตังก็เจ็บเท้าค่ะ เพราะหินเยอะมาก โอ้ และเกาะ
Camiguin นี้มีภูเขาไฟถึง 13 ลูกเชียวนะคะ เยอะมากกก เพราะฉนั้น หิน ชายหาดนี้จะเป็นหินภูเขาไฟหมดค่ะ ดีงาม แต่ไม่ไหวๆๆ เจ็บเท้า ขอบาย 5555
ตารางการออกเรือนะคะ แถวๆท่าเรืออาหารจะแพงนิดๆ แต่รับได้ค่ะ เพราะคนเขาหากินจากนักท่องเที่ยวแบบบ้านเรา อิ๊อิ๊
ได้ตั๋วมาแว้ววว พร้อมออกเดินทาง
น้ำทะเลคือสีฟ้าไปอีก แต่ขยะก็เยอะเหมือนกันค่ะ คนเราไม่ยอมทิ้งขยะให้มันเป็นที่ น้องปลาก็เลยโดนผลกระทบไปด้วย
เราก็เช่ามอเตอร์ไซค์มาวันละ 150 บาทค่ะ ที่เกาะ
Camiguin แล้วเราก็ตระเวณไปเรื่อยๆ ตรงไหนเดินได้เราก็ไป ไม่ได้เราก็จะพยายามไป 55
วิวสวยมว๊ากกกกกกกกก ข้างหลังนี่คือภูเขาไฟทั้งนั้นเลยนะคะ
หลังจากนั้น
ข่าวร้าย Level 1 ก็เกิดขึ้นค่ะ เมื่อมะนิลาเจอคนที่ติดโควิดเพิ่มขึ้นมากแบบเป็นร้อย นายกรัฐมนตรีเขาเลยประกาศปิดเมืองมะนิลา มีเคอร์ฟิวที่เกาะ
Camiguin ด้วยค่ะ การใช้ชีวิตเลยยุ่งยากขึ้นอีกระดับและเรามีเวลาในอีก 2 วันก่อนที่เขาจะปิดเมืองเลยคิดว่าเอาไงดีว๊าาา ไปไหนดี ถ้าไปมะนิลาคนเขาก็จะรีบออก กลับประเทศ พวกไวรัสก็จะไปรวมๆๆกันที่สนามบิน มันเสี่ยง เลยตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินบินจากเกาะ
Camiguin ไปเกาะ
Cebu เพราะเช็คแล้วว่าออกนอกประเทศและกลับไทยจากที่
Cebu ได้ และอีกสองวันต่อมาก็ได้ข่าวว่ารัฐบาลก็จะ Lockdown เกาะ
Camiguin เหมือนกัน ดีนะออกมาก่อน
นั่งเครื่องบินจากเกาะ
Camiguin ไปเกาะ
Cebu สวยมากค่ะ ระหว่างางคือไม่เบื่อเลย ในใจคิดอยากไปเที่ยวแต่แบบรู้สถานการณ์ก็คงไว้คราวหน้านะคะฟิลิปปินส์
มีต่อนะคะ
[:แคทปูเสื
[CR] กลับมาประเทศไทยให้ทัน ก่อนจะปิดประเทศ! แชร์ประสบการณ์ติดอยู่ที่สนามบินมะนิลา ฟิลิปปินส์ 3 วัน
สวัสดีค่ะ ตามหัวกระทู้เลยรอบนี้แป้งกับอเล็กซ์ไปเที่ยวประเทศฟิลิปปินส์ 3 อาทิตย์ค่ะ แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่นายกรัฐมนตรีของประเทศฟิลิปปินส์ประกาศ Lockdown เมืองมะนิลา ก็มีปิดการเดินทางทางบก น้ำและทางอากาศค่ะ ซึ่งยังสามารถบินออกนอกประเทศได้ ถ้าเป็น International Flight แต่ Domestic ปิดหมดค้าาาาา โรงแรมที่พักใดๆคือปิดจ้าา จะพักต้องจ่ายแพง นอนโรงแรมดีๆ คืนละ 3 พันกว่าบาทน้องก็ไม่ไหวนะเอ๊อออ ใครจะไหวคะ ทางเรานั้นก็ขอนอนสนามบินเอาละกัน แง๊!! และอิเที่ยวบินที่เราจองไว้จะกลับมามะนิลาเพื่อกลับไทยนั้นก็โดน Cancelled ไปแรงๆๆ ไม่เหลือค่ะ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้น ติดอยู่สนามบินบ้าง โดนสายการบินปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบ้าง นั่งมองชาวบ้านเขาบินกลับบ้านไปแบบชิวๆบ้าง ความน้ำตาแตกก็มาแต่ไม่ได้เศร้าขนาดน๊านนนน 5555 เชิญอ่านต่อได้ข้างล่างนี้ค่ะ
รูปนี้ที่เกาะ Camiguin เนื่องจากทุกๆที่จะว่ายน้ำต้องจ่ายตังเด้ออออ เราเลยขี่มอไซค์ไปเรื่อยๆแล้วดันมาเจอหาดเล็กๆ มีหินหน่อยๆ พอว่ายได้ ความรุ้งกินน้ำคือดีย์ และมันฟรี 55555 นี่ก็งง มนุษย์เป็นคนสร้างมหาสมุทรหรือไร ทำไมต้องเก็บตังกันด้วย ไปช่วยกันเก็บขยะบนหาดก่อนดีกว๊าาาา
รอบนี้คือ สติต้องมา ตั้งสติให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดไรขึ้น และที่สำคัญอย่าหมดหวังค่ะ ลองมันให้หมดทุกทางเลือก ไม่ว่าจะโดนปฏิเสธ โดนยกเลิกเที่ยวบินอะรก็ตาม สติต้องมา แล้วจะค่อยๆหาทางออกได้เอง อันนี้บอกตัวเอง 5555555 เที่ยวนี้ต้องขอบคุณที่บ้าน และเพื่อนๆที่ช่วยให้กำลังใจมาตลอด ไม่งั้นเราจะเตลิดไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ แต่ก็ตอนนี้กลับถึงไทยแล้วค่ะ ดีใจมว๊ากกกก กว่าจะกลับได้ แลกมาด้วยเหงื่อและน้ำตา เฮ้ออออววว
เจ้าของกระทู้นั้นชื่อแป้งนะคะ เป็นแบคแพคเกอร์ที่มีสไตล์การเที่ยวเป็นของตัวเอง สามารถติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวได้ที่ IG Story นะคะ การเที่ยวของเราจะเน้นความประหยัด แต่ไม่ขนาดอดๆอยากๆ 5555 เที่ยวเหมือนใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น คนท้องถิ่นเขาเที่ยวไงเราเอาบ้าง แท็กซี่เราจะไม่ขึ้น นั่งรถประจำทาง เน้นเดินและโบกรถ 55555555 ตอนนี้เที่ยวกับแฟนค่ะชื่ออเล็กซ์ เราก็ต้องแบคแพคไปเรื่อยๆ เพราะแฟนนั้นเป็นแค่นักท่องเที่ยวเราเลยต้องระหกระเหินไปตามประเทศต่างๆตอนวีซ่าแฟนหมดค่ะ ตอนนี้ได้วีซ่าไปทำงานที่ประเทศๆนึงค่ะ เนื่องจากเขาปิดประเทศกับสถานการณ์โรคระบาดในตอนนี้เราก็คงต้อง รออออออออออออปายยยยยยยยยยยยยยย เปิดเถอะค่ะ เราจะได้เริ่มต้นซีรีย์ใหม่เป็นการใช้ชีวิตในต่างแดน แบบฉบับปังปังผู้ท่องโลก แล้วก็ขอให้สถานการณ์มันดีขึ้นเร็วๆด้วยเถอะค๊าาาาาาา
ก่อนหน้านี้เขียนกระทู้แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการแบคแพคแบบประหยัด 2 ปี เข้าไปอ่านได้ค่ะ
How to แบคแพคแบบประหยัดสุดๆ กับเวลา 2 ปี 30++ ประเทศ
แชร์ประสบการณ์เที่ยว สิ่งที่ควรรู้ และสิ่งที่ควรเตรียมไว้ก่อนเดินทาง (เวอร์ชั่นประหยัดสุดๆ)
เริ่มต้นทริปนี้โดยการที่วีซ่าแฟนเขาหมดอายุ เลยต้องออกนอกประเทศไปเพื่อกลับเข้ามาใหม่ ละก็คือเหลือประเทศฟิลิปปินส์ที่มันอยู่ในเชคลิสละยังไม่ได้ไปซักที เลยจัดไปเลยค่ะ ซึ่งตอนนั้นสถานการณ์โควิดยังไม่แย่มากๆเท่าตอนนี้ต้องรีบกลับมา เจอแค่ 4 เคส ซึ่งก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก เหอะ เหอะ เดี๋ยวก็รู้!!
เราก็บินกับ Airasia เจ้าเก่าขาประจำไปลงกรุง Manila อยู่มะนิลา 4 วันก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนมาก เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก เราไปเที่ยวที่สุสานกันค่ะ แฟนเขาเป็นพวกชอบอะไรแปลกๆ (และทริปที่ผ่านๆมาเราก็ไปดูสุสานที่ยุโรป เมือง Nice ประเทศฝรั่งเศสคือ สวยมว๊ากกกกก สาปัตยกรรม นี่นั่น บ้าไปแล้วว สวยเกินไป สงบ เห็นวิวเมือง Nice) โอเคพอแล้วค่ะ คือที่เราไปสุสานเพราะมันมีคนอาศัยอยู่ในสุสานไง มันถึงแปลก ซึ่งเราก็เดินบ้าง นั่งรถ Jeepney บ้างพอถึง Manila North Cemetry ก็เดินเข้าไปโอ้โหวว สุดยอด นี่สุสานหรือคฤหาสน์ ใหญ่เวอร์วัง มีทีวี ตู้เย็น แอร์ก็มี มากกว่านี้ก็คือคนไร้บ้านอะค่ะ เขาเข้าไปอยู่อาศัยจริงๆ บางคนเขาก็จ้างให้คนพวกนี้ดูแลสุสาน บางคนก็ อื้ม นั่นแหละ แงะประตูเข้าไปอยู่มันซะเลย สุสานของพวกสัตว์เลี้ยงก็ยังมีเลยค่ะ แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือสุสานคนจีนซึ่งจะอยู่อีกประตูนึงค่ะ เขาบอกว่ามันอลังการงานสร้างมาก หรูหราบ้าไปแล้ว ซึ่งแป้งบอกอเล็กซ์ว่า ไม่ไปนะ ไม่ไหว เห็นภาพแล้วมันเศร้าจริงๆนะคะ เลยกลับดีกว่า ภาพมันติดตา ไม่พูดพร่ำทำเพลงละค่ะ เข้าเรื่องๆๆๆ
รูปนี้ที่ Fort Santiago ที่มะนิลา ถือว่าเข้าไปคุ้มมากๆค่ะ มีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปชมด้วย
อาหารมื้อแรกๆของทริป อร่อยดีค่ะ
4 วันที่มะนิลา เราก็มีปาร์ตี้นิดๆหน่อยๆ ไปไชน่าทาวน์ที่มีแต่ธนาคารทั้งถนน 555 Intramuros เมืองเก่า และก็สวน Rizal Park ที่มีพิพิธภันท์น่าสนใจๆที่นั้นเลยค่ะ ที่สำคัญ ฟรี!! เดินมาทั้งวันเราก็นั่งเล่นกันในสวนสาธารณะนั่นแหละค่ะ ก็มีโชว์จากนักเรียนตำรวจของที่นี่ด้วย สนุกมากเลย คนที่นี่ใจดีมากด้วยค่ะ พอเราเริ่มมีการหลงทาง ไปขอความช่วยเหลือ คนที่นี่เขาก็ช่วยเราตลอด โอ้ และการแตกแบงค์ที่นี่คือลำบากมว๊ากกกก จ่ายซื้อของด้วยแบงค์ 1,000 แบงค์ 500 ไม่ได้นะคะไปแลกเป็นแบงค์ย่อยดีกว่า จะได้ไม่โดนมองแร๊งงส์ สิ่งที่ควรคิดไว้ในใจเลยคือ จะกินร้านฟาสฟู้ดแบบ Jollibee McDonald's เนี่ยยยย จ่ายเงินสดนะคะ มีสาขาที่น้อยมากๆๆที่จะรับบัตร สนามบินยังไม่รับบัตรเลยค่ะ เราก็อึ้งไปนิดๆเพราะเราต้องไปกดเงินสดเพิ่มอ๊าาาา ไม่อยากพกเงินเยอะๆไว้ที่ตัว
พิพิธภัณฑ์นี้ข้างในสวยมากค่ะ มีกระดูกไดโนเสาร์ จำลอง ให้ชมด้วย สนุกและได้ความรู้เพิ่มเยอะมาก
หลังจากนั้นเราบินไปเมือง Cagayan De Oro ค่ะ อยู่ตรงไหนแวะ?? คืออยู่เกาะทางใต้ค่ะ เป็นส่วนหนึ่งของเกาะ Mindanao ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก นักท่องเที่ยวก็แทบจะไม่มีเลยค่ะ หรือเพราะไวรัสด้วยหรือเปล่า พวกเรามีเป้าหมายอยู่ที่เมือง Illigan ซึ่งอยู่ในแถบ Northern Mindanao มีน้ำตกเยอะมว๊ากกกกกก เป็นสิบสิบ แต่ปัญหาคือ หามอไซเช่าไม่ได้จ้าาาา ชาวบ้านแถวนี้เขาไม่ยอมให้ต่างชาติเช่ามอเตอร์ไซค์ เราเลยต้องใช้บริการรถบัส Jeepney บ้าง และการเดินเป็น 10 กว่าโล แต่ว่าคุ้มและสนุกมากค่ะ
Jeepney ที่ฟิลิปปินส์จะคล้ายๆรถสองแถวบ้านเราแต่หลังคาจะต่ำกว่า และต้องโค้งตัวเดินขึ้นรถค่ะ ค่าโดยสารก็ตกอยู่เที่ยวละ 5 บาท จะวิ่งประมาณ 1-3 กิโล จากประสบการณ์นะคะ ถ้าเจอรถ Jeepney ที่วิ่งระยะไกลๆอัตราค่าโดยสารก็จะเพิ่มขึ้นค่ะ แต่ยังไงก็ถูกอยู่ดี อย่างสมมติ ค่ารถเมล์พัดลมตามระยะทาง 60 กิโลเมตร ค่ารถก็จะตกอยู่ที่ 70 เปโซ ส่วนค่ารถของ Jeepney เนี่ย ถึงจะช้ากว่าแต่มันได้ฟีล ฝุ่น! 555 สนุกไปอีกแบบ จะเหลือแค่คนละ 35 เปโซเองค่ะ
หน้าตารถบัสก็จะประมาณนี้ค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมบางทีนั่งรถแอร์ถูกกว่ารถพัดลม งงในงง แป้งนั่งรถบัสจากเมือง Cagayan De Oro ไปเมือง Illigan เมืองแห่งน้ำตก ส่วนรถแอร์ก็จะตกอยู่ที่ 100 เปโซ ในขณะที่รถพัดลม 120 เปโซ นี่ก็เลย เรียกอเล็กซ์มานั่งรถแอร์ดีกว่า ถูกกว่าและมีแอร์ไปอี๊กกกกกกก
ที่นี่ชื่อว่า Tinago Falls เมือง Illigan สวยมว๊ากก น้ำใสแจ๋ว ค่าเข้า ค่าบำรุงนี่นั่นก็จะตกอยู่ที่คนละ 35 เปโซ ตอนที่แป้งไปนะคะ ถือว่าคุ้ม น้ำเยอะมาก ว่ายไปให้เหนื่อยเลยจ่ะ
อันนี้เราพยายามจะเดินจาก Tinago Falls ไปอีกน้ำตกนึงที่ชื่อว่า Maria Cristina Falls เป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ ซึ่งมันห่างกันประมาณ 6 กิโลได้ ประเด็นคือมันไม่มีรถอะไรผ่านเลยนอกจากจะจ้างวินมอไซ และมันแพงมว๊ากกกก อเล็กซ์ชวนเดิน แป้งก็เลย เอ๊าาา เอาก็เอา เดินแม่ม 55 พอไปถึงอีกน้ำตกนึงมันก็ปิดค่ะ ซึ่งปิดมาได้ 2 ปีกว่าแล้วเนื่องจากมันเป็นที่สร้างไฟฟ้า เราก็เลยเดินต่อไปไม่หยุดจนเจอถนนใหญ่ละก็โบกรถกลับที่พักค่ะ
เจอไอเจ้านี่ มันตกมาจากต้นไม้ ไม่รู้มันคืออะไรแต่เห็นคนเขาจับมาเล่นละก็ปลิวๆ สวยดี
หลังจากนั้นเราก็บอกลาเกาะ Mindanao โดยการนั่งรถบัส และต่อด้วยเรือไปเกาะ Camiguin ค่าเรื่อจะอยู่ที่ 205 เปโซ แต่ยังไม่หมดๆๆๆๆ มันมีค่าเข้าท่าเรือ ค่าบำรุง ค่านู่น ค่านี่ ทำไมไม่เก็บรวมๆเอาที่เดียวเลยวะ โอ๊ยยย 5555 เกาะเล็กๆที่ไปไหนๆก็ต้องจ่ายตัง พูดง่ายๆเลย จะลงน้ำไปว่ายน้ำทะเลยังต้องจ่ายตังอะคิดดู เง้อออ เกาะนี้ขึ้นชื่อเรื่อง Giant Clam หอยใหญ่ๆนั่นเอง อยากรู้ว่ามันใหญ่ยังไงไปเซิร์ชดูนะคะ Giant Clam Camiguin เพราะนี้ก็เห็นแต่ในรูป ใครมีโอกาสลองไปชมได้ แต่เราขอบาย เพราะค่าใช้จ่าย ค่าลงน้ำ ค่าบำรุงนี่นั่นมันสูงเหลือเกิน จะแอบลัดเลาะไปแบบไม่จ่ายตังก็เจ็บเท้าค่ะ เพราะหินเยอะมาก โอ้ และเกาะ Camiguin นี้มีภูเขาไฟถึง 13 ลูกเชียวนะคะ เยอะมากกก เพราะฉนั้น หิน ชายหาดนี้จะเป็นหินภูเขาไฟหมดค่ะ ดีงาม แต่ไม่ไหวๆๆ เจ็บเท้า ขอบาย 5555
ตารางการออกเรือนะคะ แถวๆท่าเรืออาหารจะแพงนิดๆ แต่รับได้ค่ะ เพราะคนเขาหากินจากนักท่องเที่ยวแบบบ้านเรา อิ๊อิ๊
ได้ตั๋วมาแว้ววว พร้อมออกเดินทาง
น้ำทะเลคือสีฟ้าไปอีก แต่ขยะก็เยอะเหมือนกันค่ะ คนเราไม่ยอมทิ้งขยะให้มันเป็นที่ น้องปลาก็เลยโดนผลกระทบไปด้วย
เราก็เช่ามอเตอร์ไซค์มาวันละ 150 บาทค่ะ ที่เกาะ Camiguin แล้วเราก็ตระเวณไปเรื่อยๆ ตรงไหนเดินได้เราก็ไป ไม่ได้เราก็จะพยายามไป 55
วิวสวยมว๊ากกกกกกกกก ข้างหลังนี่คือภูเขาไฟทั้งนั้นเลยนะคะ
หลังจากนั้นข่าวร้าย Level 1 ก็เกิดขึ้นค่ะ เมื่อมะนิลาเจอคนที่ติดโควิดเพิ่มขึ้นมากแบบเป็นร้อย นายกรัฐมนตรีเขาเลยประกาศปิดเมืองมะนิลา มีเคอร์ฟิวที่เกาะ Camiguin ด้วยค่ะ การใช้ชีวิตเลยยุ่งยากขึ้นอีกระดับและเรามีเวลาในอีก 2 วันก่อนที่เขาจะปิดเมืองเลยคิดว่าเอาไงดีว๊าาา ไปไหนดี ถ้าไปมะนิลาคนเขาก็จะรีบออก กลับประเทศ พวกไวรัสก็จะไปรวมๆๆกันที่สนามบิน มันเสี่ยง เลยตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินบินจากเกาะ Camiguin ไปเกาะ Cebu เพราะเช็คแล้วว่าออกนอกประเทศและกลับไทยจากที่ Cebu ได้ และอีกสองวันต่อมาก็ได้ข่าวว่ารัฐบาลก็จะ Lockdown เกาะ Camiguin เหมือนกัน ดีนะออกมาก่อน
นั่งเครื่องบินจากเกาะ Camiguin ไปเกาะ Cebu สวยมากค่ะ ระหว่างางคือไม่เบื่อเลย ในใจคิดอยากไปเที่ยวแต่แบบรู้สถานการณ์ก็คงไว้คราวหน้านะคะฟิลิปปินส์
มีต่อนะคะ
[:แคทปูเสื
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้