ทําไมหุ้นกลุ่มพลังงานรีบาวด์ทั้งๆ ที่ ราคานํามันดิบยังลง



หุ้นกลุ่มดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค “ENERG” ปกติจะตามราคาน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิด (จุดสูงสุดและจุดต่าสุดมีการจับคู่กันอย่างใกล้ชิด) เห็นได้จากแผนภูมิแท่งเทียนตั้งแต่ปี 2017 ยกเว้นฤดูร้อนปี 2018 ที่หุ้นไทยและน้ำมันดิบดูไม่มีทิศทาง

เราอาจจะรู้สึกว่านี่ไม่สมเหตุสมผลเนื่องจาก บริษัทในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาตลาดน้ำมันโดยตรง โรงกลั่นน้ำมันและบริษัทสาธารณูปโภคต้องการราคาน้ำมันดิบที่ต่ำเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์จากการกลั่น เช่นดีเซล jet fuel หรือปิโตรเคมีเสียด้วยซ้า มีเพียงเฉพาะ บริษัทสำรวจและต้นน้ำ เช่น PTTEP ซึ่งได้รับประโยชน์โดยตรงเมื่อน้ำมันดิบราคาสูงขึ้น

ดังนั้นการที่ปัจจุบันราคาหุ้น (รีบาวน์) และน้ำมัน (ลง) มีเหตุผลมาก

ถ้าเราดูที่มาร์จิ้นโดยรวมจากการกลั่นน้ำมันง่ายๆ โดยสมมุติว่า ผลผลิตจากการกลั่นมีแค่ นํามันเตา และแก๊ซโซลีน

น้ำมันเตา 21 แกลลอนและแก๊ซโซลีน 21 แกลลอนต่อ 42 แกลลอนของน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (กราฟสีส้ม) เราสามารถเห็นได้แม้ว่าน้ำมันดิบ กำลังอ่อนตัวลงในระดับต่ำ $20s แต่ส่วนต่างกำไรจากการกลั่นได้ดีดตัวขึ้นจาก $ 7 / bbl เป็น $ 11 / bbl แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นถึง 25% ในหุ้นกลุ่มพลังงานจากระดับต่ำเมื่อวันที่ 13 มีนาคม


(บน) หุ้นกลุ่มพลังงาน VS. WTI
(ล่าง) กําไรการกลั่นจากตัวอย่างง่ายๆ
.
อย่างไรก็ตามเราจำเป็นต้องเห็นการกลับมาของการจราจร ทั้งทางอากาศ บนท้องถนนและทางน้าเพื่อให้การฟื้นตัวของหุ้นพลังงานไปต่อได้
.
หาก Covid-19 อยู่นานกว่าอีสเตอร์ (ตามที่นายทรัมป์คาดไว้) อุปสงค์ความต้องการของผลิตภัณฑ์ที่ได้ผ่านการกลั่นอย่างน้ำมันก๊าด ดีเซลและแก๊ซโซลีน จะเป็นปัจจัยชี้อนาคตของหุ้นกลุ่มพลังงาน จําเป็นมากที่ทั้งราคาน้ำมันดิบและกำไรการกลั่นต้องดีขึ้นเพื่อการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน
.
#หุ้นกลุ่มพลังงาน
#ราคานํามัน
#covid19

เพจ Facebook: BarracudaStocks ครับ 😊
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่