ราคาเท่าๆ เดิมตามที่คาดการไว้ แต่บวกเพิ่มมาแค่ 1 หมื่นบาททุกรุ่นย่อย
เปลี่ยนทั้งนอกและใน
โฉมเดิมสวยแบบแกร่งๆ โฉมใหม่สวยแบบเฉี่ยว แต่ทันทีที่ผมเห็นภาพ เฮ้ย มันหล่อขั้นเทพ!
โฉมเดิมก็สวย แต่ต้องเพ่งๆ นิดนึง แต่ตัวใหม่ คหสต. เตะตาเลย
ราคา 3 รุ่นย่อย
- 689,000 บาท 1.5 C
- 739,000 บาท 1.5 D
- 799,000 บาท 1.5 X panoramic roof
ด้านความสวย ความรู้สึกส่วนตัวรู้สึกว่าสวยกว่า HR-V C-HR และน่าจะสวยกว่า Kicks minor change
ในระดับราคานี้ เทียบกับรถใหม่ในราคาใกล้กัน มี City กับ Almera ถ้าเน้นเรื่องความสวย Almera กับ ZS วิน City เรียบ (อาจจะเกิน)
Mazda CX-30 ที่ดูสวยใน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้า ZS ดูไม่แพ้เลย แถมยังเป็นความสวยที่ดูเข้าใจง่ายกว่า Mazda
แต่ CX-30 ที่ยก Mazda 3 มายกสูง เท่ากับเหนือเจ้า ZS ไปขั้นหนึ่งทั้งบอดี้ สมรรถนะ และภาพลักษณ์โดยรวม
นั่นคือลูกค้าจะมองข้ามคลาสหรือไม่? อันนี้แล้วแต่คน
สิ่งที่วินก็คือในราคา 799,000 คุณจะได้หลังคากระจกบานใหญ่
การออกแบบภายในที่ดูสวยหรู ไม่ดูก๊อกแก๊งเหมือน MG เมื่อหลายปีก่อน
ระบบพื้นฐานความปลอดภัยต่างๆ พร้อม มี Airbag 6 จุด มี cruise control พื้นฐาน
หน้าจอขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอไมล์ FULL TFT 7 นิ้ว ในรถระดับ 7-8 แสน! (ยกเว้นรุ่นล่าง)
พร้อมกล้อง 360 องศา เชื่อมต่อ Apple car play ช่องต่อ USB 2 จุดสำหรับด้านหลัง ระบบเบรกไฟฟ้า ล้อทูโทนขนาด 17 นิ้ว
เครื่อง 1.5 ปกติ 114 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร จับคู่กับ CVT ที่ไว้ใจได้ของ Toyota ผลิตโดยซับเจ้าเก่าไอซิ่น (Aisin)
รถก่อนไมเนอร์เชนจ์ได้รับคำวิจารณ์ว่าอย่างอืด แต่คนซื้อไปใช้ดู happy กับมันดี เหมือนจะดูขับซิ่งกันเป็นส่วนใหญ่ CVT อาจช่วยสมรรถนะมากขึ้น
หากใช้เงินก้อนเดียวกัน อาจมีลังเลระหว่าง City 1.0 turbo กับ MG ZS เพราะได้ของเพิ่มขึ้นเยอะกับงานดีไซน์
แต่บุคลิกการขับต่างกันหน้ามือเหมือนหลังมือ คันนึงแรง อีกคันนึงประมาณพอเพียง นั่นหมายถึงกลุ่มลูกค้าที่แตกต่าง
City คือผู้ชายวัยรุ่น ส่วน ZS คือผู้หญิงที่ชอบความดูดี จะแยกกันแบบนั้นก็ยังได้
ความเสี่ยงของรุ่นนี้คืออะไร
1) มันคือ MG
2) รุ่น D กับรุ่น X มี i-SMART จุดขายที่ยังไม่รู้ว่าเสถียรหรือยังของค่าย MG
จุดดีของรุ่นนี้
1) อย่างสวย
2) ก่อนไมเนอร์เชนจ์ใช้กันมาแล้ว ไม่เลวร้ายและมีคลับรองรับ เป็นรุ่นชูโรงของค่าย
3) ได้ของที่สำหรับค่ายอื่นต้องจ่ายเป็นล้าน
4) ตั้งราคามาได้ดีมาก เมื่อเทียบกับ Extender ที่ตัวเองเคยตั้งราคา ช่างต่างกันเหลือเกิน
และทำให้ Xpander ดูโคตะระแพง และทำให้ HR-V C-HR ดูคุ้มน้อยลง
5) ใช้ได้สำหรับแนวครอบครัว ไม่เน้นเร็ว
6) ภายในหุ้มหนังสวยหรู ดูเยี่ยมสไตล์เดียวกับ HS
สาเหตุที่ MG ค่อนข้างจัดเต็มก็เพราะโควิด-19 จากที่คาดหวังว่าจะมีวัคซีนในอีก 1 ปีข้างหน้า (ไม่รู้ได้ไม่ได้)
แล้วก็จะทำลายกำลังซื้อไปอีกหลายปีเลยทีเดียว ดังนั้นก็คือว่า MG ทำออกมาใช้ได้
รุ่น 1.5C ราคา 689,000 บาท
- ขนาด 4,323x1,809x1628 mm
- ความสูงใต้ท้องรถ 170 mm (C-HR : 155 mm / HR-V : 170 mm / CX-30 : 175 mm)
- ความยาวฐานล้อ 2,585 mm
- ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว ขนาด 215/60R16
- เครื่อง 15 ลิตร กำลังสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร
- เกียร์ CVT 8 speed
- ไฟหน้าแบบ LED + Daytime
- ไฟตัดหมอกหลัง
- ไฟท้าย LED
- กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
- ระบบปัดน้ำฝนแบบตั้งเวลาหน่วง
- สปอยเลอร์หลังคา
- เบาะผ้าสีดำ
- ภายในวัสดุบุนิ่ม
- พวงมาลัยปรับสูงต่ำ (เข้าออกไม่ได้)
- ที่พักแขนด้านหน้า
- เบาะหลังพับ 60:40
- push start / smart entry
- แอร์ดิจิตัล (น่าจะไม่มีฮีตเตอร์เหมือนเคย หรือจะมี?)
- กรองอากาศ PM2.5
- ระบบ ABS (กันล้อล็อก) EBD (กระจายแรงเบรก) EBA (เสริมแรงเบรก) SCS (ควบคุมการทรงตัว)
- ระบบ CBC (ควบคุมเบรกตอนเข้าโค้ง), TCS (ระบบกันลื่นไถล)
- ระบบ HAS (ออกตัวบนทางลาดชัน), HDC (ลดความเร็วตอนลงทางลาดชัน)
- ถุงลมคู่หน้า
- สัญญาณเตือนถอยหลัง
- ลำโพง 4 ตัว
- ช่อง USB 4 จุด
- ระบบเชื่อมต่อ Apple carplay
รุ่น 1.5D ราคา 739,000 บาท (+ราคา 50,000 บาท)
- ขนาด 4,323x1,809x1,653 mm (บวกความสูงของราวหลังคา)
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ราวหลังคา
- เบาะหนังสังเคราะห์สีน้ำตาลและดำ
- cruise control
- ช่องเก็บเอกสารหลังเบาะหน้า
- จอไมล์ดิจิตัล 100%
- ระบบจำกัดความเร็ว ASL
- ถุงลมด้านข้าง
- กล้องมองหลัง
- ลำโพง 6 ตัว
- ช่อง USB 5 จุด
- ระบบ i-smart
รุ่น 1.5X ราคา 799,000 บาท (+ราคา 60,000 บาท)
- ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว ขนาด 215/55R17
- ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- หลังคา panoramic roof
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
- กล้องมอง 360 องศา
- ม่านถุงลม
- ระบบ TPMS (เตือนลมยาง)
โฆษณาอยู่นาทีที่ 7:53 ครับ
ที่ดูจากโฆษณาคือ ก่อนไมเนอร์เชนจ์หน้าเหมือนฝรั่ง ไมเนอร์หน้าเปลี่ยนเป็นตี๋อินเตอร์ คล้ายพรีเซนเตอร์ hahaha
จุดสังเกตเพิ่มเติมคือ ไม่มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนตัวถังที่เป็นเหล็กเลยแม้แต่ชิ้นเดียว นั่นหมายความว่า รุ่นก่อนไมเนอร์
สามารถเปลี่ยนหน้าเป็นตัวไมเนอร์ได้ทุกรุ่น ถ้าเกิดรถชนขึ้นมาก็สามารถเลือกเปลี่ยนหน้าได้นะ
อธิบายด้วยภาพ หล่อขั้นเทพลงมาจุติ MG ZS crossover ในระดับราคา 689,000-799,000
เปลี่ยนทั้งนอกและใน
โฉมเดิมสวยแบบแกร่งๆ โฉมใหม่สวยแบบเฉี่ยว แต่ทันทีที่ผมเห็นภาพ เฮ้ย มันหล่อขั้นเทพ!
โฉมเดิมก็สวย แต่ต้องเพ่งๆ นิดนึง แต่ตัวใหม่ คหสต. เตะตาเลย
ราคา 3 รุ่นย่อย
- 689,000 บาท 1.5 C
- 739,000 บาท 1.5 D
- 799,000 บาท 1.5 X panoramic roof
ด้านความสวย ความรู้สึกส่วนตัวรู้สึกว่าสวยกว่า HR-V C-HR และน่าจะสวยกว่า Kicks minor change
ในระดับราคานี้ เทียบกับรถใหม่ในราคาใกล้กัน มี City กับ Almera ถ้าเน้นเรื่องความสวย Almera กับ ZS วิน City เรียบ (อาจจะเกิน)
Mazda CX-30 ที่ดูสวยใน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้า ZS ดูไม่แพ้เลย แถมยังเป็นความสวยที่ดูเข้าใจง่ายกว่า Mazda
แต่ CX-30 ที่ยก Mazda 3 มายกสูง เท่ากับเหนือเจ้า ZS ไปขั้นหนึ่งทั้งบอดี้ สมรรถนะ และภาพลักษณ์โดยรวม
นั่นคือลูกค้าจะมองข้ามคลาสหรือไม่? อันนี้แล้วแต่คน
สิ่งที่วินก็คือในราคา 799,000 คุณจะได้หลังคากระจกบานใหญ่
การออกแบบภายในที่ดูสวยหรู ไม่ดูก๊อกแก๊งเหมือน MG เมื่อหลายปีก่อน
ระบบพื้นฐานความปลอดภัยต่างๆ พร้อม มี Airbag 6 จุด มี cruise control พื้นฐาน
หน้าจอขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอไมล์ FULL TFT 7 นิ้ว ในรถระดับ 7-8 แสน! (ยกเว้นรุ่นล่าง)
พร้อมกล้อง 360 องศา เชื่อมต่อ Apple car play ช่องต่อ USB 2 จุดสำหรับด้านหลัง ระบบเบรกไฟฟ้า ล้อทูโทนขนาด 17 นิ้ว
เครื่อง 1.5 ปกติ 114 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร จับคู่กับ CVT ที่ไว้ใจได้ของ Toyota ผลิตโดยซับเจ้าเก่าไอซิ่น (Aisin)
รถก่อนไมเนอร์เชนจ์ได้รับคำวิจารณ์ว่าอย่างอืด แต่คนซื้อไปใช้ดู happy กับมันดี เหมือนจะดูขับซิ่งกันเป็นส่วนใหญ่ CVT อาจช่วยสมรรถนะมากขึ้น
หากใช้เงินก้อนเดียวกัน อาจมีลังเลระหว่าง City 1.0 turbo กับ MG ZS เพราะได้ของเพิ่มขึ้นเยอะกับงานดีไซน์
แต่บุคลิกการขับต่างกันหน้ามือเหมือนหลังมือ คันนึงแรง อีกคันนึงประมาณพอเพียง นั่นหมายถึงกลุ่มลูกค้าที่แตกต่าง
City คือผู้ชายวัยรุ่น ส่วน ZS คือผู้หญิงที่ชอบความดูดี จะแยกกันแบบนั้นก็ยังได้
ความเสี่ยงของรุ่นนี้คืออะไร
1) มันคือ MG
2) รุ่น D กับรุ่น X มี i-SMART จุดขายที่ยังไม่รู้ว่าเสถียรหรือยังของค่าย MG
จุดดีของรุ่นนี้
1) อย่างสวย
2) ก่อนไมเนอร์เชนจ์ใช้กันมาแล้ว ไม่เลวร้ายและมีคลับรองรับ เป็นรุ่นชูโรงของค่าย
3) ได้ของที่สำหรับค่ายอื่นต้องจ่ายเป็นล้าน
4) ตั้งราคามาได้ดีมาก เมื่อเทียบกับ Extender ที่ตัวเองเคยตั้งราคา ช่างต่างกันเหลือเกิน
และทำให้ Xpander ดูโคตะระแพง และทำให้ HR-V C-HR ดูคุ้มน้อยลง
5) ใช้ได้สำหรับแนวครอบครัว ไม่เน้นเร็ว
6) ภายในหุ้มหนังสวยหรู ดูเยี่ยมสไตล์เดียวกับ HS
สาเหตุที่ MG ค่อนข้างจัดเต็มก็เพราะโควิด-19 จากที่คาดหวังว่าจะมีวัคซีนในอีก 1 ปีข้างหน้า (ไม่รู้ได้ไม่ได้)
แล้วก็จะทำลายกำลังซื้อไปอีกหลายปีเลยทีเดียว ดังนั้นก็คือว่า MG ทำออกมาใช้ได้
รุ่น 1.5C ราคา 689,000 บาท
- ขนาด 4,323x1,809x1628 mm
- ความสูงใต้ท้องรถ 170 mm (C-HR : 155 mm / HR-V : 170 mm / CX-30 : 175 mm)
- ความยาวฐานล้อ 2,585 mm
- ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว ขนาด 215/60R16
- เครื่อง 15 ลิตร กำลังสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร
- เกียร์ CVT 8 speed
- ไฟหน้าแบบ LED + Daytime
- ไฟตัดหมอกหลัง
- ไฟท้าย LED
- กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
- ระบบปัดน้ำฝนแบบตั้งเวลาหน่วง
- สปอยเลอร์หลังคา
- เบาะผ้าสีดำ
- ภายในวัสดุบุนิ่ม
- พวงมาลัยปรับสูงต่ำ (เข้าออกไม่ได้)
- ที่พักแขนด้านหน้า
- เบาะหลังพับ 60:40
- push start / smart entry
- แอร์ดิจิตัล (น่าจะไม่มีฮีตเตอร์เหมือนเคย หรือจะมี?)
- กรองอากาศ PM2.5
- ระบบ ABS (กันล้อล็อก) EBD (กระจายแรงเบรก) EBA (เสริมแรงเบรก) SCS (ควบคุมการทรงตัว)
- ระบบ CBC (ควบคุมเบรกตอนเข้าโค้ง), TCS (ระบบกันลื่นไถล)
- ระบบ HAS (ออกตัวบนทางลาดชัน), HDC (ลดความเร็วตอนลงทางลาดชัน)
- ถุงลมคู่หน้า
- สัญญาณเตือนถอยหลัง
- ลำโพง 4 ตัว
- ช่อง USB 4 จุด
- ระบบเชื่อมต่อ Apple carplay
รุ่น 1.5D ราคา 739,000 บาท (+ราคา 50,000 บาท)
- ขนาด 4,323x1,809x1,653 mm (บวกความสูงของราวหลังคา)
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ราวหลังคา
- เบาะหนังสังเคราะห์สีน้ำตาลและดำ
- cruise control
- ช่องเก็บเอกสารหลังเบาะหน้า
- จอไมล์ดิจิตัล 100%
- ระบบจำกัดความเร็ว ASL
- ถุงลมด้านข้าง
- กล้องมองหลัง
- ลำโพง 6 ตัว
- ช่อง USB 5 จุด
- ระบบ i-smart
รุ่น 1.5X ราคา 799,000 บาท (+ราคา 60,000 บาท)
- ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว ขนาด 215/55R17
- ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- หลังคา panoramic roof
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
- กล้องมอง 360 องศา
- ม่านถุงลม
- ระบบ TPMS (เตือนลมยาง)
โฆษณาอยู่นาทีที่ 7:53 ครับ
ที่ดูจากโฆษณาคือ ก่อนไมเนอร์เชนจ์หน้าเหมือนฝรั่ง ไมเนอร์หน้าเปลี่ยนเป็นตี๋อินเตอร์ คล้ายพรีเซนเตอร์ hahaha
จุดสังเกตเพิ่มเติมคือ ไม่มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนตัวถังที่เป็นเหล็กเลยแม้แต่ชิ้นเดียว นั่นหมายความว่า รุ่นก่อนไมเนอร์
สามารถเปลี่ยนหน้าเป็นตัวไมเนอร์ได้ทุกรุ่น ถ้าเกิดรถชนขึ้นมาก็สามารถเลือกเปลี่ยนหน้าได้นะ