สวัสดีครับ วันนี้ขอมาเล่า และ แบ่งปันประสบการณ์เล็กๆที่น่าจะพอเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้าๆ ที่ชอบการถ่ายภาพได้ไม่น้อย ก็น้อยมากล่ะนะครับ คราวนี้เป็นการถ่ายภาพพอร์เทรต ซึ่งโจทย์คือ "บีช บิกินี่" ว้าวๆๆ นี่มันการถ่ายภาพสุดโปรดของสายน้าหลายๆคนอย่างแน่นอนเลยทีเดียว ซึ่ง ผมเองก็อยากลองถ่ายชายหาดดูครับ เนื่องจากไม่มีโอกาสจะไปถ่ายเลย (ต้องพกนางแบบไปชายหาดที่ไม่ได้ใกล้บ้านเอาเสียเลย) ประกอบกับที่ไปเห็นภาพของน้าช่างภาพท่านหนึ่งที่จัดเทคนิคแฟลชสู้ตะวันได้เด็ดดวงมาก ว่าแล้วจึงมองดูอุปกรณ์ที่มี เฮ้ย เราก็มีนี่หว่า ทำไมไม่เคยเอาไปเล่นแบบนี้เลยนะ (เคยเอาไปถ่ายเว็ดดิ้งอาทิตย์ตกมา แต่ยังไม่เคยเอาไปสู้แดดจัดๆเลย) ส่วนชุดก็...มีชุดบิกินี่ ที่ได้รับสปอนเซอร์มาจากร้านออนไลน์ เคยเอามาถ่ายริมสระไปแล้วเมื่อปีก่อน ดังนั้น ว่าแล้วจึงจัดการ หานางแบบที่พร้อมใจจะไปเล่นริมหาดทรายกัน ก็มาลงที่"น้องพร" ซึ่งเคยถ่ายกันมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นเซ็ทบิกินีแรกของน้องเช่นกันครับ

EF 24-105 F4.0 L IS 105mm 1/100 F4.0 ISO100

อุปกรณ์ที่ใช้ในทริปนี้ได้แก่ 
กล้อง Canon EOS R
เลนส์ เอาไป 4 ตัวแต่ใช้แค่ 2 ได้แก่ EF 24-105 F4 L และ Sigma 50 F1.4 Art
แฟลช Godox AD600M ทริกเกอร์ Xpro เตรียมอุปกรณ์ดัดแปลงแสงไปเป็น ร่มทะลุ 2 ขนาด ร่มสะท้อน 1 ขนาด และโคมมาตรฐาน (มีซอฟท์บ็อกซ์ใหญ่แต่ไม่เอาไป กลัวจะอลังการไปนิด)

Sigma 50 1.4 Art 1/200 F2.8 ISO100

โลเคชั่น ผมเลือกหาดเจ้าสำราญครับ เนื่องจากน้องนางแบบของเราอยู่ฝั่งธนฯ จึงเลือกที่จะไปรับน้องเขาที่นั่นแล้วยิงยาวออกไปทางพระราม 2 เลย ระยะทางราวๆ 70 กม. ก็ไปถึงหาดทรายได้แล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ไปมานานมากๆจนนึกอะไรไม่ออก พยายามหาภาพตัวอย่างก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เอาล่ะวะ ไปกันเลยแล้วกัน มันต้องได้สักมุมแหละ จะหาด จะหิน ก็ได้งานนี้ กะว่าถ่ายเน้นแบบ และแสงเป็นหลัก ไม่เน้นสถานที่

EF 24-105 F4 L IS 58mm 1/100 F4.0 ISO100

ชีวิตดราม่าผมเริ่มตั้งแต่วังมะนาวครับ เราออกเดินทางกันช่วงบ่ายสองกว่าๆ กะให้ไปถึงบายสามครึ่ง เตรียมของเซ็ทของกัน ใส่กันได้ตั้งแต่แสงยังแรงๆไปจนอาทิตย์ตก แต่นั่นแหละครับ ดราม่ามาเมื่อวังมะนาว นั่นก็คือ แม่เจ้า เมฆเต็มฟ้าเลย เต็มชนิดไม่มีดวงอาทิตย์ให้เห็น จอดรถแวะซื้อน้ำดื่ม ผมยืนเอามือยื่นไปเพื่อหาทิศทางแสง มันแทบไม่มีเงาเลยครับท่าน นี่คือความบรรลัยแรกของวันนี้ ทำบุญมาไม่ดีจริงๆ ทั้งๆที่ไม่กี่วันก่อน ไปถ่ายเล่นที่ศาลายา แดดแรงสุดๆ แทบไม่มีเมฆเลยสักก้อง ผมนี่จับนางแบบปิ้งย่างจนตัวแดงเลยทีเดียว

EF 24-105 F4 L IS 92mm 1/200 F4.0 ISO100

แต่มาถึงนี่แล้ว มันต้องไปต่อครับ เมื่อมาถึงหาดก็พบว่า หาดเงียบดี คนน้อย (วันธรรมดา) แต่ลมแรงสุดๆ แรงมากๆ แรงจนถือโทรศัพท์เล็งมุม ลมพัดโทรศัพท์ขยับได้เลยล่ะครับ เรื่องจะกางร่มมาถ่ายนั้นตัดทิ้งกันไปเลย ร่มทะลุถูกๆที่โครงเป็นพลาสติก รับรองได้ว่า มีพังแน่นอน งานนี้ แดดก็ไม่มี เงาก็ไม่เกิด ทะเลคลื่นเยอะๆ ลูกเล็กๆ หาดทรายไม่ขาว ฟ้าไม่ใส สรุปคือ นี่มันวันเศร้าชัดๆ ผมควรเปลี่ยนไปถ่ายเซ็ทดราม่าซีนอารมณ์ริมทะเลจะดีกว่า แต่ก็นะ ชุดว่ายน้ำได้รับสปอนเซอร์มาทั้งที งานนี้ต้องสู้กันให้สุด

EF 24-105 F4 L IS 24mm 1/250 F4.0 ISO160

ผมเริ่มต้นด้วยการลองถ่ายกับมุมเงียบๆที่เลือกไว้ ตอนแรกกะว่าจะเน้นมุมแคบๆ ยิงเทเลยาวๆ ใช้ 85 และ 70-200 เป็นหลัก แต่พอเห็นหาดโล่ง และนางแบบเรามาหุ่นค่อนข้างเป๊ะ จึงเปลี่ยนมาใช้ 24-105 ถ่ายช่วง 24 และ 35 เก็บบรรยากาศสถานที่มากหน่อย มาถึงทะเล ก็ถ่ายทะเลสิครับพี่น้อง พยายามหาทางของแสงที่อุตสาห์ลอดเมฆมานิดๆ คิดดูครับ ยังไม่สี่โมงเย็น แต่สามารถถ่ายได้ที่สปีด 1/160 iso100  ถ้าเป็นปกติ ต้องซัดกันเป็นหนึ่งต่อพันไปแล้ว เมื่อถ่ายๆมาลองพบว่า ไม่มีไฮไลท์ ไม่มีเงา  ถ้านางแบบผมใส่เสื้อกันหนาว พันผ้าพันคอหน้าๆ ผมจับไปอยู่ใต้ต้นสน แล้วถ่ายหลอกเป็นหน้าหนาวเมืองฝรั่งก็ยังได้เลย ดังนั้นจึงตัดสินใจ ใช้ไอเท็มที่เอามา จัดการทำ "แดดปลอม" กันซะเลย

EF 24-105 F4 L IS 24mm 1/250 F4.0 ISO160

ผมใช้ AD600 มายังตามทางแสงครับ เพื่อให้เกิดไฮไลท์ และเงามืดที่ชัดขึ้น ใส่โคมเฉยๆนี่แหละ ระยะห่างราวๆ 5-7 ม. ให้เงาที่ได้ไม่กระด้างจนเกินไป แต่ก็ไม่เนียนนวลไล่ละมุนไปนิด ด้วยความที่มันเป็นทะเล เงาแข็งๆหน่อยน่าจะดีกว่า ซึ่งก็ถ่ายๆๆ ไปเรื่อยๆ มีเด็กๆเล่นน้ำอยู่ด้านหลังบ้าง แต่ไม่ซีเรียสเท่าไหร่ เพราะหลบมุมและลบทิ้งได้ไม่ยากนัก น่าเสียดายที่หาดค่อนข้างโล่ง ไม่มีต้นไม้ หรือแนวหิวให้เล่นได้ คลื่นก็ค่อนข้างเล็กและถี่จึงให้พื้นผิวของทะเลอย่างที่เห็นในภาพ

EF 24-105 F4 L IS 47mm 1/100 F4.0 ISO160

ในทริปนี้ เราเตรียมไป 2 ชุดครับ พอผ่านพ้น 17.00 ผมก็ให้น้องเปลี่ยนเป็นชุดโทนเย็น เพราะหมายว่าน่าจะได้ท้องฟ้าออกสีโทนเย็นได้เมื่อโพล้เพล้ ไหนๆอย่างไรเราก็ไม่มีทางเก็บแสงทไวไลท์ได้แล้ว พระอินทร์เล่นกางซอฟท์บ็อกซ์ใหญ่คลุมสุริยันให้ผมขนาดนั้น อุปสรรคหนึ่งที่ได้มาจากงานนี้คือ "ทิศทางลม" ครับ นอกจากมุมมองขององค์ประกอบในภาพ ทิศทางของแสงและเงา เรายังต้องรับมือกับลมทะเลที่แรงมาก จนผมเผ้าเธอยุ่งเละเทะไปหมด บางทีอยากหันทางนี้ อยากได้แนวหินนี้ แสงเข้าทางนี้ ก็ไม่ได้ครับเพราะ ลมตีมาจากด้านหลังแบบ ผมกระเจิงไปหมด ดังนั้น การถ่ายเซ็ทริมทะเลนั้น เรื่องของลมกลายเป็นปัจจัยที่รุนแรงกว่าสถานการณ์อื่นๆมาก

EF 24-105 F4 L IS 24mm 1/160 F4.0 ISO100

ลมแรงขนาดที่แค่ใส่โคมหน้าแฟลช ยังโดนลมพัดซะแทบคว่ำได้เลย นี่ถ้ากางร่มหรือซอฟท์บ็อกซ์ รับรองว่า บินไปตกแถวๆเมาะตะมะแน่ๆครับ จากนั้นผมก็สู้กับสิ่งรอบๆตัวต่อไปเรื่อยๆ ช่วงแสงใกล้หมดก็เดินลงไปใกล้น้ำกันมากขึ้น กะว่าเล่นกับเงาสะท้อนบนพื้นบ้าง แต่เนื่องจากไม่ได้กางตัวดัดแปลงแสง ยังคงยิงจากโคมเปล่าๆ ที่ถึงแม้จะอยู่ห่างมากๆ (ห่าง 20 เมตร) แสงไล่โทนเนียน แต่เนื่องจากแหล่งกำเนิดแสงเล็กและไกลมาก มันจึงแข็งกว่าที่ควรจะเป็น นี่ถ้าลมเบาลงนิด มีผู้ช่วยจับสักคน กางซอฟท์บ็อกซ์ใหญ่ ใส่ Grid น่าจะได้โทนที่ละมุนละไมกว่านี้มากในช่วงตะวันลับฟ้าอย่างนี้ 
เรื่องสีสันนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ตุ่น และตุ่นมาเป็นหลักเลยวันนี้

Sigma 50 1.4 Art 1/800 F1.4 ISO100

เมื่อกลับมาทำรูปใน Lr โทนที่ต้องการในหัวแบ่งเป็น 2 เซ็ทคือ ชุดโทนร้อน ผมทำโทนออกมาทางใสๆ แต่ก็ไม่ได้ให้มันหวานจัด ไม่ซีด ไม่อมฟ้า อมเชียวแบบญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้แข็งและดูเป็นนิตยสารมาก  ส่วนชุดโทนเย็น ผมจัดการใส่สีน้ำเงินและเขียวบางๆลงไปในภาพ พร้อมกับดันสีผิวที่ชุดนี้ยิงแฟลชใส่ให้ขาววิ๊งขึ้นมาอมชมพูและส้มนิดๆ ในเงาใส่สีน้ำเงิน พร้อมกับย้อมท้องฟ้าที่จริงๆแล้วมันเป็นสีเทาตุ่นๆ ให้เป็นสีโทนเย็นซะ ออกมาอย่างที่เห็นในภาพประกอบครับ
จัดการบิดและแก้อยู่สักพักใหญ่ จึงลงเอยมาที่ผลลัพธ์อย่างที่เห็น จริงๆไม่ได้เป็นแนวที่ต้องการตั้งแต่แรกเลย ภาพแรกในแผนผมคือ แนวญี่ปุ่นใสๆเล่นทรายริมหาด ยิ้มร่าเริง เห็นที่ว่างบนท้องฟ้าสีน้ำเงินแซมด้วยปุยเมฆขาวๆที่รับแสงแดดยามเย็นอมส้มในเงาหน่อยๆหลังเมฆ 555 

Sigma 50 1.4 Art 1/800 F1.4 ISO100

แต่สุดท้ายก็ถือว่า งานนี้ได้เรียนรู้หลายสิ่งจากการไปถ่ายริมทะเล และสนุกดีครับ ขอแนะนำท่านๆที่ชอบถ่ายรูป โดยเฉพาะสายน้าว่า ควรหาโอกาสไปเล่นโจทย์นี้สักครั้ง  ความ ท้าทายของมันจะแตกต่างไปจากงานอื่นๆพอสมควร แสง ลม อย่างที่บอกครับ ยังดีที่งานนี้เน้นถ่ายเพื่อแสดงชุดว่ายน้ำ ไม่ต้องอารมณ์ หรือเรื่องราวอื่นๆมากนัก ถ้ามีโอกาสแก้มือ จะลองใหม่ให้สำเร็จตามที่ต้องการให้ได้

Sigma 50 1.4 Art 1/1600 F1.4 ISO100

สิ่งที่เรียนรู้
-ลมคือสิ่งสำคัญมากในการถ่ายที่โล่งกว้าง ทิศทางการถ่ายถูกบังคับด้วยลมเป็นปัจจัยสำคัญ
-การผสมแสงประดิษฐ์ กับแสงธรรมชาติเพื่อส่งเสริมกัน สัดส่วนและทิศทาง สำคัญมากๆ 
-กฏ "Invert Square" ของแสง สำคัญมากเช่นกัน ไม่ใช่แค่ขนาดของแหล่งกำเนิดแสง ไม่ใช่แค่การกรองและกระจายแสง แต่การไล่โทนสว่าง-มือจากระยะห่างของแสง คืออีกเรื่องที่เราต้องควบคุมให้ได้หากใช้แฟลชแยก

Sigma 50 1.4 Art 1/1250 F1.4 ISO100

ปล.ในแง่รีวิวอุปกรณ์นะครับ
-eye AF ของ EOS R  ถ้าหน้าหันข้างแบบ 180 องศา มันไม่เจอตานะครับ ต้องให้น้องหันมานิดนึงก่อน หรือไปใช้แบบจุดแล้วจิกเอา
-โพล้เพล้จนหน้าแบบมืด eye AF ก็ไม่เข้าตานะครับ ต้องฉายไฟฉายมาช่วยนำเวลาโฟกัส คือ...โฟกัสปกติน่ะ เข้า แต่มันหาตาไม่เจอ ไม่รู้ทำไม
-เลนส์เก่า EF 24-105 L ตัวแรก ถ่ายที่ 4.0 และ 5.6 เมื่อเจอเซ็นเซอร์ 30 ล้าน พอเอาไฟล์มาขาขยายดู รายละเอียดคนละเรื่องกับเลนส์ใหม่ๆเลย แต่ถ่ายคนแบบนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหา ถ้าเอาไปถ่ายงานที่ต้องการความคมจัดๆ อาจไม่ใช่ทางเลือกครับ (แต่งานทั่วไป ไม่น่าเป็นปัญหา)
-Sigma 50 Art มีบางภาพผมถ่ายที่ 2.8 มันคมบรรลัยจริงๆ คมจนตำหนิหน้าตา มาหมด ปกติผมเอาเจ้านี่ไว้ถ่ายสินค้า ถ้าถ่ายคนเปิดที่ 1.4 เอาเลย เอาไว้จะลองถ่ายพอร์เทรตด้วยตัวนี้แบบเปิด F8 ถ่ายดู คงได้ดีเทลสะใจมาก

Sigma 50 1.4 Art 1/400 F1.4 ISO125

หมดละครับ กับสาระที่หาไม่ค่อยได้ และเป็นครั้งแรกกับโจทย์นี้ ผิดพลาดประการใด ติชมตำหนิได้เลยครับ เป็นการเรียนรู้กันต่อๆไป สำหรับทั้งกระผมและเพื่อนๆที่เข้ามารับชม