ในวันมาฆบูชาซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา บนสวรรค์ได้มีการจัดงานทำบุญครั้งใหญ่โดยมีการอัญเชิญพระโพธิสัตว์ที่ประทับอยู่บนสวรรค์มาเป็นองค์ประธานในงาน ด้วยมีบุคคลสำคัญมาเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะพระโพธิสัตว์จึงมีการอารักขาอย่างแน่นหนาตลอดทั่วทั้งงาน
เนื่องจากเคยมีเหตุการณ์กองทัพมารมาอาละวาดในงานบุญใหญ่ จึงมีการตรวจเฝ้าหน้าประตูอย่างละเอียด เมื่อไม่พบสิ่งใดผิดปกติเทวดาทั้งหลายต่างวางใจว่าคงไม่เกิดสิ่งใดขึ้น แต่หารู้ไม่ว่ามีบุตรสาวของพญามารลอบเข้ามาในงานโดยจำแลงกายเป็นเทพธิดาคอยอำนวยความสะดวกให้แก่แขกในงาน
เมื่อถึงคราวที่ต้องถวายน้ำพระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นองค์ประธาน นางมารแอบใส่ยาพิษลงไปเพื่อหวังปลงพระชนม์ เมื่อยื่นไปถวายให้พระโพธิสัตว์ก็เกิดปาฏิหาริย์ น้ำในแก้วกลายเป็นหิน และมีน้ำหนักมากขึ้น จนพระโพธิสัตว์ไม่สามารถถือไว้ได้ จึงตกลงใส่มือของเทพธิดาได้รับบาดเจ็บ เทพธิดาทนเจ็บไม่ไหวจึงกลับกลายเป็นมารท่ามกลางความตกใจของทุกคน มีเพียงพระโพธิสัตว์ที่ยังคงสงบนิ่ง
นางมารเห็นเช่นนั้นจึงป่าวประกาศลั่นด้วยความโมโหว่า "อีกไม่นานกองทัพมารจะยกทัพมาถึงที่นี่" และกล่าวด่าทอเทวดาอีกมากมาย เทวดาทั้งหลายต่างเข้ามารุมจับนางมารไว้เพื่อมาสำเร็จโทษ พระโพธิสัตว์ก็ได้ตรัสห้ามไว้ แล้วกล่าวว่า "ในคราก่อนเมื่อครั้งเกิดเป็นมนุษย์ได้เกิดอุบัติเหตุหินหล่นมาทับขาทั้งสองข้างของพระโพธิสัตว์ จนเดินไม่ได้และได้นางผู้นี้มาคอยปรนดูแล แม้ผู้คนรอบข้างต่างครหาแต่นางก็ไม่สนใจ คอยดูแลพระองค์ในครั้งนั้นจวบจนสิ้นอายุไข" พระโพธิสัตว์ได้บอกอีกว่า "นางมารผู้นี้จะเป็นนางแก้วคู่บารมีของเราในชาติที่เราได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" แล้วได้แสดงปาฏิหาริย์ให้นางมารระลึกถึงอดีตชาติที่เคยได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทั้งในชาติที่เป็นมนุษย์และสัตว์ จนนางมารระลึกได้และร้องไห้ออกมาด้วยความปิติและสำนึกผิด เกิดความเลื่อมใสและยอมถอนทัพกลับไป
"นางมารผู้นี้จะเป็นนางแก้วคู่บารมีของเราในชาติที่เราได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"
เนื่องจากเคยมีเหตุการณ์กองทัพมารมาอาละวาดในงานบุญใหญ่ จึงมีการตรวจเฝ้าหน้าประตูอย่างละเอียด เมื่อไม่พบสิ่งใดผิดปกติเทวดาทั้งหลายต่างวางใจว่าคงไม่เกิดสิ่งใดขึ้น แต่หารู้ไม่ว่ามีบุตรสาวของพญามารลอบเข้ามาในงานโดยจำแลงกายเป็นเทพธิดาคอยอำนวยความสะดวกให้แก่แขกในงาน
เมื่อถึงคราวที่ต้องถวายน้ำพระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นองค์ประธาน นางมารแอบใส่ยาพิษลงไปเพื่อหวังปลงพระชนม์ เมื่อยื่นไปถวายให้พระโพธิสัตว์ก็เกิดปาฏิหาริย์ น้ำในแก้วกลายเป็นหิน และมีน้ำหนักมากขึ้น จนพระโพธิสัตว์ไม่สามารถถือไว้ได้ จึงตกลงใส่มือของเทพธิดาได้รับบาดเจ็บ เทพธิดาทนเจ็บไม่ไหวจึงกลับกลายเป็นมารท่ามกลางความตกใจของทุกคน มีเพียงพระโพธิสัตว์ที่ยังคงสงบนิ่ง
นางมารเห็นเช่นนั้นจึงป่าวประกาศลั่นด้วยความโมโหว่า "อีกไม่นานกองทัพมารจะยกทัพมาถึงที่นี่" และกล่าวด่าทอเทวดาอีกมากมาย เทวดาทั้งหลายต่างเข้ามารุมจับนางมารไว้เพื่อมาสำเร็จโทษ พระโพธิสัตว์ก็ได้ตรัสห้ามไว้ แล้วกล่าวว่า "ในคราก่อนเมื่อครั้งเกิดเป็นมนุษย์ได้เกิดอุบัติเหตุหินหล่นมาทับขาทั้งสองข้างของพระโพธิสัตว์ จนเดินไม่ได้และได้นางผู้นี้มาคอยปรนดูแล แม้ผู้คนรอบข้างต่างครหาแต่นางก็ไม่สนใจ คอยดูแลพระองค์ในครั้งนั้นจวบจนสิ้นอายุไข" พระโพธิสัตว์ได้บอกอีกว่า "นางมารผู้นี้จะเป็นนางแก้วคู่บารมีของเราในชาติที่เราได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" แล้วได้แสดงปาฏิหาริย์ให้นางมารระลึกถึงอดีตชาติที่เคยได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทั้งในชาติที่เป็นมนุษย์และสัตว์ จนนางมารระลึกได้และร้องไห้ออกมาด้วยความปิติและสำนึกผิด เกิดความเลื่อมใสและยอมถอนทัพกลับไป