ปฏิบัติธรรม ไม่มีที่ไหนจะปฏิบัติได้อย่างสงบใจเท่ากับที่วัด

(กระทู้เมาท์มอย)

ลาพักร้อนไว้เรียบร้อย 4 วัน ตั้งใจไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
ช่วงวันที่ 19-22 มี.ค.63 นี้ แต่ด้วยเหตุการณ์ Covid-19 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ
ทำให้ทางการมีมติ(ออกเป็นหนังสือ)ให้ทั่วทุกจังหวัดงดกิจกรรมทางศาสนาหรือศาสนพิธีรวมคนหมู่มาก
ทางวัดจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยงดรับผู้ปฏิบัติธรรม ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค. 63
(ซึ่งจะบอกว่าฝ่ายควบคุมโรคที่มาดูแลผู้ปฏิบัติธรรมที่วัดคือคุมเข้มมากจริงๆ แต่ก็คงไม่พอ) 
ดีหน่อยที่ว่าเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ช่วงเย็น เช็คกับทางเว็ปไซต์ก่อน ไม่งั้นหิ้วกระเป๋าไปเก้อเลย 555
แต่ก็ไม่เป็นไร ไว้สถานะการณ์คลี่คลาย แล้วพบกันใหม่

มีเรื่องแปลกที่เจอมากับตัวคือเจ็บเข่ามาก(เคยรถล้ม)
แรกเลยไปตรวจเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาล หมอบอกว่ากระดูกข้อเข่าปกติดี อาจจะเป็นที่กล้ามเนื้อ
หมอว่าเดี๋ยวก็หาย จ่ายยาคลายกล้ามเนื้อมาให้ทานจนได้โรคกระเพาะมาเพิ่มอีก 1 โรค
จนเวลาล่วงเลยมา 2 ปี ยังไม่หาย เลยปรึกษากับเทรนเนอร์ที่ช่วยเราคุมน้ำหนัก
เขาบอกไม่เป็นไรออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อเพื่อซับพอร์ตหัวเข่าเดี๋ยวก็หายผ่าน 1 ปีนึงก็ไม่หาย
คิดเลย โรคกรรมแล้วล่ะ ประจวบว่าช่วงนั้นเรามีโอกาสได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดแรกๆพอดี
ก็เลยอธิฐานจิตว่าขออุทิศส่วนบุญกุศลจากการปฏิบัติให้กับเจ้ากรรมนายเวร
หากเราได้เคยล่วงเกินท่านไว้ขอให้ท่านอโหสิกรรมและยกโทษให้เราด้วย
มาปฏิบัติที่วัดอยู่หลายครั้ง ไม่นานก็หาย มันก็เป็นเรื่องแปลกที่ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่มีทางรู้เลย

เก็ทขึ้นมาเลยว่า เอ้อ แล้วทำไมเราต้องรอให้ชีวิตมีปัญหา หรือสุขภาพร่างกายแย่แล้วถึงเข้าวัด
ในเมื่อเข้าวัดตอนจิตใจสบาย สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี 
มันมีกำลังแรงกายแรงใจในการปฏิบัติได้ดีกว่ามากๆจริงๆนะ 

สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องราวเมาท์มอยของเรา
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะใช้ถ้อยคำที่สุภาพเข้าใจง่าย ตามที่สุภาพชนใช้กัน
ในการแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่