ทำให้เห็นธาตุแท้ของคน
บางคนรณรงค์เรื่องไม่ควรบูลลี่คนอื่น และควรมีจิตสาธารณะ
ตอนนี้เราได้เห็นเลยว่าใครบ้างที่พูดอย่างทำอย่าง

และอันนี้เราว่าดีนะ
คือทุกคนจะได้รับบทเรียนจริง ว่าควรมีเงินเก็บออม
ที่ผ่านมา มีกระทู้ที่ใช้เงินเกินตัว ซื้อของแพงเกินตัว
พอมีคนเตือนว่าควรเก็บออมเงินบ้าง ก็จะโดนด่าว่าเผือก
คือคนบางกลุ่มไม่สนใจจะเก็บออมอะไร ฟุ่มเฟือยไปวันๆ
เจอแบบนี้มา คงได้เรียนรู้ว่าการเก็บ การมีเงินสำรองฉุกเฉินมันจำเป็นแค่ไหน

บางคนมาบ่นว่าท้อใจ เป็นหนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ ไม่มีแม้แต่เงินจะกินข้าว บางคนบ่นอยากฆ่าตัวตาย
ลองกลับไปไล่กระทู้ดู
ใช้ไอโฟน ไอแพด ผ่อนรถ ฯ อีกมากมาย
ถ้าเงินพวกนั้น แทนที่จะซื้อของเกินตัว เอามาเก็บออมก่อน
อยากได้มือถือแพงๆ ก็ค่อยเก็บอีกส่วน
เขาคงจะมีเงินเก็บสำรอง ไม่ต้องมาอดอยากลำบากเหมือนตอนนี้

ทุกคนคงรู้แล้วว่าเงินออมและเงินในบัญชีสำคัญขนาดไหน

- ได้รู้ว่าหน้ากากมีค่า ในตอนที่ราคาถูกไม่เคยคิดซื้อ ตอนแพงก็มีพวกหน้าเลือดมากักตุนไว้ขายเอง
- ได้รู้ว่าเรารักพ่อแม่ เพียงใด ในวันที่เราต้องเจอความน่ากลัวครอบงำ
- ได้รู้ว่าเราควรอดออมเพียงใด ในวันที่เรายังเก็บเกี่ยวไหว
- ได้รู้ว่าคนไทยขาดวินัยเพียงใด ในวันที่เจอปัญหา
- ได้รู้ว่ามนุษย์โทษทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง ผู้นำโทษประชาชน ประชาชนโทษผู้นำ คนขายโทษคนซื้อ คนซื้อโทษคนขาย คนกักตุนผิด คนไม่กักตุนผิด
- ได้รู้ว่า โลกนี้มันเน่าเฟะแค่ไหน สันดารคนออกเพียงไร ในวันที่ยากไร้ และหวาดกลัว
- ได้รู้ว่า ทั้งตัวผมเอง และหลายคน มองทุกอย่างเป็นลบกันไปหมด ไม่มีอะไรดี ทุกอย่างคือปัญหาทั้งนั้น

แต่พอมานั่งลง และมองหาข้อดีบ้าง ก็พบว่า
- ได้เห็นความแกร่ง ของบุคลากรทางการแพทย์ของไทย
- ได้เห็นน้ำใจของคนไทยบางส่วน ที่ออกเงินซื้อหน้ากาก บริจาคโรงบาล ถึงแม้จะแพงมาก
- ได้เห็นถนนโล่งงงงง
- ได้เห็นห้างไม่มีคนเดิน เหมือนเหมาห้างเดิน
- ได้เห็นตลาดรถไฟ ที่คนแน่นมากกกกก กลายเป็นไม่มีคน
- ได้รู้วิธีล้างมือที่ถูกต้อง หลังจากคืนครูไปแล้ว ต้งแต่เด็ก

และสิ่งสำคัญ ได้รู้ว่า ชีวิตมีค่า พักผ่อนบ้างงงง จะได้ไม่เครียดดดดดดด

1. เราสามารถเห็นคนเดียวกัน ที่พร่ำว่าด่าคนอื่นว่าจะเอาเชื้อโรคมาแพร่กระจาย แต่ตัวเองก็ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงของตัวเองยังไปเที่ยวผับบาร์เป็นปกติ รวมทั้งสถานที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะๆ โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย
2. เราจะเห็นคนกักตุนของกินของใช้ซึ่งในชีวิตประจำวันแทบจะไม่ทำอาหารกินเองเลย แถมกักไว้เยอะมากด้วย
3. เราจะเห็นคนอยากให้ปิดเมืองปิดประเทศ ปิดมันทุกอย่าง แต่พอปิดจริง ดันบอกว่าสถานที่เสี่ยงให้ประชาชนตัดสินใจเองถ้าเสียงเขาไม่ต้องไปกันหรอก ไม่ต้องปิดหรอกแล้วพนักงานจะเอาอะไรกันกิน
4. เราจะเห็นว่ายอดผู้ติดเชื้อ ตอนแรกไม่เยอะ บอกว่าไม่เป็นจริงบอกความจริงมาเถอะจะได้เตรียมตัวไม่ตื่นตระหนกหรอก พอวันหลังๆ เริ่มเยอะขึ้น ก็บอกว่าเห็นไหมมันเยอะมาก ต้องมีซ่อนไม่ได้ตรวจอีก รอบตัวเราต้องมีแน่ๆ ไม่ตื่นตระหนกเลยจริงๆ
5. เราจะเห็นว่า ยอดติดเชื่อและเสียชีวิตยังไม่เท่ากับไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู ปี 2009 ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วก็เคยบอกกันไปแล้วว่ามันก็เหมือนช่วงปี 2009 นั่นแหละ แต่ก็จะมีคนมาบอกว่าเห็นไหมไหนบอกว่าเหมือนไข้หวัดใหญ่ดูซิระบาดไปถึงไหนแล้ว ลองไปเทียบเคียงกับคราวนั้นที่ยังไม่มีวัคซีนเหมือนกันดู มันก็น่ากลัวพอกันนั่นแหละ แต่คนสมัยนี้ยังคิดว่า covid นี่สุดยอดของโรคระบาดแล้ว
6. เราจะเห็นว่ากรุปไลน์ ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยนอกจากสถานการณ์นี้อย่างเดียว เรื่องอื่นเงียบมาก จนบางทีอยากออกจากลุ่มกันเลย