อุทาหรณ์เข้าศูนย์นิสสันปทุมธานี
รถเรา nissan note ออกรถกับศูนย์นี้ 25 พค 2018
ขอเรียงลำดับ Timeline ให้นะคะ

#1#..วันที่ 11 กพ 63..นำรถเข้าตรวจเช็คระยะ 40,000 โล มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และในใบเสร็จช่างมีการเช็คว่าว่ารถปกติดีทุกอย่าง
หลังจากออกจากศูนย์ได้ 1 สัปดาห์ รถมีอาการออกตัวเครื่องกระตุก

#2#..วันที่ 20 กพ 63..นำรถเข้าศูนย์ แจ้งช่างว่าเวลาสตารทรถ เครื่องด้านหน้ามีเสียงดังผิดปกติ มีการกระตุกเวลาออกตัว แต่..ช่างไม่ได้เช็คอะไรให้เลย บอกเพียงว่าให้ลองเปลี่ยนน้ำมันจาก E20 มาลองใช้ 95 ดูก่อน ด้วยความที่เราไม่ได้มีความรู้ในด้านนี้ เราก็ไม่ได้แย้งอะไร แล้วนำรถกลับบ้านมา หลังจากกลับมา 2 วัน รถมีอาการกระตุกหนักขึ้น เหยียบคันเร่งไม่ขึ้นเลย อาการหนักมาก จึงได้มีการนัดศูนย์อีกรอบ

#3#..วันที่ 24 กพ 63..นำรถเข้าศูนย์อีกครั้ง ทางศูนย์ขอให้ทิ้งรถไว้เพื่อทำการตรวจสอบ และไปรับรถตอนเย็น ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่ารถมีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเฟืองเกียมีปัญหา แก้ให้เรียบร้อยแล้ว เราก็โอเคเชื่อใจช่างรับรถมาใช้งานปกติ แต่..ปัญหาคือหลังจากนั้นรถยังมีอาการกระตุกอยู่เล็กน้อย ไม่หายขาด ซึ่งเราก็เริ่มหาข้อมูลว่าก่อนเข้าเช็คระยะ รถเราไม่มีอาการอะไรเลย ทำไมเฟืองเกียร์ถึงมีปัญหา ปัญหาเกิดจากอะไร พยายามถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร นอกจากบอกว่ารถยังอยู่ในระยะประกันไม่ต้องกลัว แค่นั่นจริงๆ แล้วเราขับรถทุกวัน ถ้ารถมีอาการไม่ปกติเรารู้สึกได้อยู่แล้ว เราก็ไม่สบายใจว่าการมันไม่หายขาด และหลังจากนั้นมีอาการเกิดขึ้นอีกค่ะ แอร์เหม็นอับมาก เราก็นัดศูนย์เข้าไปอีก (ปกติเราไม่ค่อยเปิดกระโปรงรถ แล้ววันนั้นพ่อเปิด แล้วก็พบว่าฝาปิดที่ใส่น้ำที่ฉีดหน้ารถ ช่างลืมปิดมาให้ด้วย สะเพร่ามากค่ะ)

#4#..วันที่ 11 มีค 63..เข้าศูนย์อีกรอบเรื่องแอร์ชื้นค่ะ ช่างแจ้งว่าอาจจะเป็นเพราะว่า น้ำยาคอมแอร์ซึมไปโดนแผ่นกรองอาการทำให้เกิดเชื้อรา แต่วันนั้นเราไม่สะดวกทิ้งรถไว้ จึงได้ทำการนัดศูนย์ล่วงหน้าอีกครั้ง แล้วเราก็พยายามถามเจ้าหน้าที่ว่า สาเหตุที่เฟืองเกียร์รถมีปัญหาคืออะไรกันแน่ สรุปก็คือโอริงหลวมทำให้น้ำมันเกียร์รั่วไปที่เฟืองเกียร์ เราก็ไม่ได้แย้งอะไร เพราะบอกตามตรงว่าเราไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย แล้วเมื่อวันที่ 15 มีค 63 เรากำลังจะถอยรถเข้าจอด เราก็เข้าเกียร์ R เบรคเหยียบได้แค่ครึ่งเดียวแล้วค้าง เราเลยต้องรีบเข้าเกียร์ N แล้วสลับมาเกียร์ R ถึงจะเหยียบเบรคได้ แล้วเวลาขับขึ้นที่สูงปกติรถอืดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คันเร่งอืดหนักเลยค่ะ

..เราเริ่มหาข้อมูลดูว่าโอริงมันหลวมเองจากระยะเวลาการใช้รถหรือไม่ เพราะรถเรายังไม่ถึง 2 ปี และเข้าเช็คระยะตามกำหนดมาตลอด..

#5#..วันที่ 16 มีค 63..เรานำรถไปศูนย์อีกครั้ง และขอคุยกับช่างที่ซ่อมเฟืองเกียร์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าลาพักร้อน เราก็ขอคุยกับหัวหน้าช่าง เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าลาพักร้อน สรุปเราคุยกับใครไม่ได้เลยค่ะ จากข้อสันนิษฐานของคนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถนะคะ เราสันนิษฐานว่า..
***1. ถ้าโอริงรถเรามีปัญหาเอง ตอนที่เข้าเช็คระยะ 40,000 โล ช่างมีการเปลี่ยนน้ำเกียร์ แล้วหัวหน้าช่างก็มีการ QC ก่อนจะส่งมอบให้ลูกค้า มีการเช็คมาให้ใบเสร็จว่าทุกอย่างเรียบร้อยหมด เพราะฉะนั่นก็เป็นที่ว่าช่างไม่เช็ครถให้เรียบร้อย
***2. ระหว่างเช็คระยะ 40,000 โล ที่ช่างเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ช่างหมุนโอริงไม่สนิท ทำให้หลวมแล้วเป็นสาเหตุทำให้น้ำเกียร์รั่วไปที่เฟืองเกียร์ ซึ่งก็หมายความว่าช่างทำงานผิดพลาด แล้วปกปิดไม่แจ้งลูกค้า
..ซึ่งถ้าเป็นตามกรณีที่ 2 เราไม่ได้อยากให้ซ่อมให้เราฟรี เราต้องการให้ทางศูนย์เปลี่ยนอะไหล่ให้ใหม่ เพราะรถเราก่อนเข้าศูนย์สภาพ 100 % แต่ผิดพลาดด้วยช่างของศูนย์ แล้วรถเราออกมาด้วยสภาพ 95% ซึ่งเราไม่โอเคเลย ถ้าหมดระยะประกัน แล้วมีปัญหาค้างคาตรงนี้ เราก็ต้องเป็นฝ่ายเสียเงินเอง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องรับผิดชอบเลย เราได้แจ้งกับ ผจก.ศูนย์ว่าเปลี่ยนเฟืองเกียร์ให้เราใหม่ แต่กลับได้คำตอบว่าไม่ได้

#6#..วันที่ 17 มีค 63..เราโทรไปเล่าเหตุการณ์ให้ทางศูนย์ใหญ่ฟังไว้ แล้วเราก็โทรตามไปทางศูนย์ปทุม ที่เราทิ้งรถไว้ว่าได้มีการตรวจเช็คระบบเกียร์ให้เรารึยัง คำตอบที่ได้คือยังไม่ทำอะไรเลย แล้ววันนี้ก็ทำให้แต่คอมแอร์ แล้วเราก็จะขอคุยกับช่างที่เช็คระยะ 40,000 โล คำตอบง่ายๆ จากเจ้าหน้าที่คือ ช่างคนนั้นไม่อยู่แล้ว!! คำตอบง่ายมากๆ เราจึงบอกว่าหลังจากทำคอมแอร์ ไม่ต้องเช็คระบบเกียร์แล้ว เราจะย้ายศูนย์ไปที่อื่น

ปล.อยากเตือนเพื่อนๆ ว่าหลังจากออกจากศูนย์ให้พยายามเช็ครถให้ดี เราซื้อรถกับศูนย์นี้ เข้าเช็คที่นี่มาตลอด ไว้ใจศูนย์ ไว้ใจช่างที่ศูนย์ แต่รถเรากลายเป็นแบบนี้ ราคารถไม่ใช่หลักพัน เราซื้อหลักแสน แต่การรับผิดชอบของศูนย์ไม่มีเลย ไม่มีแม้กระทั้งการยอมรับหรือคำขอโทษ