คือเรามีลูกพี่ลูกน้องอยู่คนนึงค่ะพ่อเรากับพ่อน้องเขาเป็นพี่น้องกันสนิทกันมาก เพราะอายุใกล้เคียงกันห่างกันปีเศษ อยู่บ้านติดกัน และเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ต้องเท้าความถึงลักษณะของเรากับน้องเราก่อนนะคะเพื่อให้เรื่องเข้าใจง่ายๆ เริ่มจากเราก่อนเราเป็นเด็กขยันเรียน แต่หัวปานกลางค่ะ เราเป็นคนชอบแสดงออก ชอบพูดกับคนค่ะ มีงานอะไรเราเสนอเป็นพิธีกรงานให้เขาหมดค่ะเราชอบ ส่วนน้องเราเป็นเด็กหัวดีกว่าเราเยอะค่ะ แต่ไม่ค่อยขยันมากออกจากติดเล่น และเป็นคนพูดน้อยค่ะไม่ค่อยพูดกับใครถ้าไม่สนิท ตั้งแต่เด็กเราจะมีผลการเรียนดีกว่าน้องค่ะ แต่น้องมักจะทำได้ดีกว่าเราในสนามแข่งขันการสอบต่างๆ ตอนประถมเรากับน้องเรียนโรงเรียนเดียวกันเราได้เกรดเฉลี่ยดีกว่าน้องทุกครั้ง พอจะสอบเข้าเรียนต่อชั้นม.1 เราสอบไม่ติดแม่เราต้องจ่ายแป๊ะเจี๊ยะเพื่อให้เราได้เรียน พอถึงปีน้องเราสอบน้องมาสอบโรงเรียนเดียวกับเราน้องเราสอบติดได้เองไม่ต้องจ่ายเงินแบบเรา ระดับมัธยมต้นก็เหมือนประถมเลยคือเราเรียนได้เกรดเฉลี่ยดีกว่าน้องเราตลอด เราทำกิจกรรมของโรงเรียนแทบทุกอย่างค่ะ หัวหน้าชมรมอะไรเราก็เป็น ตรงข้ามกับน้องเราแทบไม่ทำกิจกรรมอะไรเลย มาเรียนก็ไม่ค่อยครบชอบโดดไปเที่ยว ไปร้านเกมส์ พอจะขึ้นเรียนชั้นม.4 เราไปสอบเตรียมอุดมผลออกมาคือไม่ติด เราเลยต้องเรียนต่อที่เดิม ปีต่อมาน้องเราไปสอบเหมือนกันแล้วก็สอบติดได้เรียนที่เตรียม ม.ปลายก็เหมือนเดิมคือเราเกรดดีกว่าน้องเรา พอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเรากับน้องอยากเรียนคณะเดียวกันมหาลัยเดียวกัน เราเล็งศิลปากรเอาไว้ก็คะแนนไม่ถึงต้องไปเรียนธรรมศาสตร์แทน ปีต่อมาน้องเราสอบก็ติดมหาวิทยาลัยศิลปากรแบบไม่ต้องรอถึงยื่นคะแนนด้วย ติดไปตั้งแต่สอบตรง มหาวิทยาลัยก็เหมือนเดิมคือเราเรียนเก่งกว่า เราจบมหาวิทยาลัยด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ส่วนน้องเราจบมหาวิทยาลัยด้วยเกรด 2 กลางๆ ปัจจุบันเราเรียนจบปริญญาโทและทำงานแล้ว แต่เราก็ได้เงินเดือนเท่าๆกับน้องซึ่งไม่ได้เรียนต่อปริญญาโทและประสบการณ์ทำงานน้อยกว่าเรา
เราก็ไม่มีปัญหาอะไรยังรักกับน้องดี เข้าใจว่าน้องเก่งกว่าเรา และยินดีกับน้องด้วยที่น้องมีความสามารถ เข้าใจว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ปัญหาคือแม่เราค่ะ แม่จะชอบคิดว่าเราเป็นเด็กดีมาก เป็นเด็กเก่ง ส่วนน้องเราเป็นเด็กไม่เอาไหน เป็นเด็กห่วย และจะชอบพูดจาข่มน้องเราและพ่อแม่ของน้องโดยเอาเราเป็นตัวเปรียบเทียบตลอดเวลาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เช่น ตอนสมัยเรียนประถมถึงมหาวิทยาลัยเวลาเจอน้องหรือคุณพ่อคุณแม่ของน้องก็จะถามตลอดว่าน้องเรียนได้เกรดเท่าไรเรียนเป็นยังไงบ้าง พอรู้ว่าได้เกรดน้อยกว่าเราก็จะข่มทันทีค่ะว่า "เนี่ยะพี่เขาได้เกรดดีกว่าเธอตั้งเยอะ พี่เขาได้เหรียญเรียนดีด้วย หัดดูพี่เขาเป็นตัวอย่างบ้างนะ พี่เขาอ่านหนังสืออะไรเธอก็หัดอ่านบ้าง" พูดเสร็จจะหันมาพูดกับเราประมาณว่า "ลูกติวหนังสือให้น้องอ่านบ้างนะ อย่าปล่อยให้น้องไม่รู้เรื่อง น้องยิ่งซื่อบื้อๆอยู่" เป็นบทสนทนาซ้ำๆที่เกิดเป็นสิบปี
หรือเวลาเราได้เป็นตัวแทนโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยไปทำกิจกรรมหรือเป็นพิธีกรงานต่างๆ แม่เราจะอวดแล้วค่ะ จะไปพูดกับน้องหรือพ่อแม่ของน้องเลยค่ะ ว่าเราดียังโง้นยังงี้ น้องเราถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องเปลี่ยนนิสัยนะ ต้องกล้าแสดงออกแบบเรานะ พร้อมบอกให้น้องดูเราเป็นตัวอย่าง
เวลาไปสอบเรียนต่อทั้งม.ปลายและมหาวิทยาลัยซึ่งเราสอบไม่ติดแต่น้องสอบติด แม่เราก็จะไปพูดกับพ่อแม่ของน้องว่า น้องเนี่ยะโชคดีนะที่ได้สอบในปีที่ข้อสอบง่ายและเด็กไม่เก่ง ถ้ามาสอบปีเดียวกับเราไม่มีทางติดหรอกขนาดเราเรียนเก่งขนาดนี้ยังไม่ติดเลย พอกลับมาบ้านแม่ก็จะอาละวาดเอาหมอนทุบๆไปที่กำแพงพร้อมบ่นกับพ่อและเราว่า "ทำไมเด็กอย่างมันถึงทำได้ แต่ลูกเราทำไม่ได้ มันโชคดีที่เกิดช้าไปปีนึง"
ล่าสุดเรื่องแฟนแม่เราก็จะชอบเปรียบเทียบแฟนเรากับแฟนน้อง ไปถามแฟนน้องเราต่อหน้าเลยว่าทำงานอะไร ได้เงินเดือนเท่าไรพอรู้ว่าได้น้อยกว่าแฟนเราปุ๊บข่มทันที ว่าแฟนเราได้เงินเดือนเท่านี้ๆนะ ทำงานตำแหน่งนี้ๆนะ แถมยังไปพูดกับพ่อแม่ของน้องด้วยว่าแฟนน้องดูเป็นผู้หญิงแรดเงียบ มาหลอกน้องเรารึเปล่าก็ไม่รู้ พร้อมบอกว่าให้ดูแฟนเราเป็นตัวอย่างว่าถ้าจะมีแฟนต้องมีลักษณะแบบนี้
และแม่จะชอบไปพูดกับคนแถวบ้านด้วยว่าน้องไม่ดียังโง้นยังงี้ ว่าไปถึงพ่อแม่น้องเลยว่าปล่อยปะละเลยลูก เสียชื่อตระกูล พร้อมยกเรามาข่มอีกแล้วว่าเนี่ยะแม่เลี้ยงเรามาอย่างดี พร้อมอวดว่าเราเรียนดีกิจกรรมเด่นยังโง้นยังงี้
ถึงน้องและพ่อแม่ของน้องจะบอกตลอดว่าไม่ถือคำพูดแม่เรา แม่เราน่าจะพูดเพราะหวังดี แต่เรากับพ่อก็รู้สึกผิดต้องไปขอโทษน้องกับพ่อแม่น้องตลอดเรื่องคำพูดของแม่เรา เรากับพ่อเคยลงความเห็นว่าแม่มีอาการขี้อิจฉามากเกินไปแล้วเก็บมาคิดจนฟุ้งซ้าน ลองไปปฏิบัติธรรมหรือพบจิตแพทย์ดูมั่ย ปรากฏว่าโดนด่าเละค่ะทั้งพ่อทั้งลูก แม่จะโวยวายว่าเค้าไม่ได้ขี้อิจฉาจะไปอิจฉาทำไมกับคนที่แค่โชคดีเกิดช้าไปปีนึง ถ้าน้องมาเกิดปีเดียวกับเราน้องเราไม่มีทางมีอย่างวันนี้ ทำไมแม่เราถึงมีนิสัยแบบนี้คะ และเราจะทำยังไงกับแม่เราดีคะให้เค้าเลิกอิจฉาและว่าร้ายคนอื่นรวมถึงเลิกเอาเราไปเปรียบเทียบและข่มคนอื่นด้วย บอกตรงๆเราอึดอัดและไม่ชอบค่ะ แม่เป็นแบบนี้เราอยู่ด้วยแล้วเสียสุขภาพจิต
มีคุณแม่นิสัยขี้อิจฉาทำยังไงดีคะ
เราก็ไม่มีปัญหาอะไรยังรักกับน้องดี เข้าใจว่าน้องเก่งกว่าเรา และยินดีกับน้องด้วยที่น้องมีความสามารถ เข้าใจว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ปัญหาคือแม่เราค่ะ แม่จะชอบคิดว่าเราเป็นเด็กดีมาก เป็นเด็กเก่ง ส่วนน้องเราเป็นเด็กไม่เอาไหน เป็นเด็กห่วย และจะชอบพูดจาข่มน้องเราและพ่อแม่ของน้องโดยเอาเราเป็นตัวเปรียบเทียบตลอดเวลาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เช่น ตอนสมัยเรียนประถมถึงมหาวิทยาลัยเวลาเจอน้องหรือคุณพ่อคุณแม่ของน้องก็จะถามตลอดว่าน้องเรียนได้เกรดเท่าไรเรียนเป็นยังไงบ้าง พอรู้ว่าได้เกรดน้อยกว่าเราก็จะข่มทันทีค่ะว่า "เนี่ยะพี่เขาได้เกรดดีกว่าเธอตั้งเยอะ พี่เขาได้เหรียญเรียนดีด้วย หัดดูพี่เขาเป็นตัวอย่างบ้างนะ พี่เขาอ่านหนังสืออะไรเธอก็หัดอ่านบ้าง" พูดเสร็จจะหันมาพูดกับเราประมาณว่า "ลูกติวหนังสือให้น้องอ่านบ้างนะ อย่าปล่อยให้น้องไม่รู้เรื่อง น้องยิ่งซื่อบื้อๆอยู่" เป็นบทสนทนาซ้ำๆที่เกิดเป็นสิบปี
หรือเวลาเราได้เป็นตัวแทนโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยไปทำกิจกรรมหรือเป็นพิธีกรงานต่างๆ แม่เราจะอวดแล้วค่ะ จะไปพูดกับน้องหรือพ่อแม่ของน้องเลยค่ะ ว่าเราดียังโง้นยังงี้ น้องเราถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องเปลี่ยนนิสัยนะ ต้องกล้าแสดงออกแบบเรานะ พร้อมบอกให้น้องดูเราเป็นตัวอย่าง
เวลาไปสอบเรียนต่อทั้งม.ปลายและมหาวิทยาลัยซึ่งเราสอบไม่ติดแต่น้องสอบติด แม่เราก็จะไปพูดกับพ่อแม่ของน้องว่า น้องเนี่ยะโชคดีนะที่ได้สอบในปีที่ข้อสอบง่ายและเด็กไม่เก่ง ถ้ามาสอบปีเดียวกับเราไม่มีทางติดหรอกขนาดเราเรียนเก่งขนาดนี้ยังไม่ติดเลย พอกลับมาบ้านแม่ก็จะอาละวาดเอาหมอนทุบๆไปที่กำแพงพร้อมบ่นกับพ่อและเราว่า "ทำไมเด็กอย่างมันถึงทำได้ แต่ลูกเราทำไม่ได้ มันโชคดีที่เกิดช้าไปปีนึง"
ล่าสุดเรื่องแฟนแม่เราก็จะชอบเปรียบเทียบแฟนเรากับแฟนน้อง ไปถามแฟนน้องเราต่อหน้าเลยว่าทำงานอะไร ได้เงินเดือนเท่าไรพอรู้ว่าได้น้อยกว่าแฟนเราปุ๊บข่มทันที ว่าแฟนเราได้เงินเดือนเท่านี้ๆนะ ทำงานตำแหน่งนี้ๆนะ แถมยังไปพูดกับพ่อแม่ของน้องด้วยว่าแฟนน้องดูเป็นผู้หญิงแรดเงียบ มาหลอกน้องเรารึเปล่าก็ไม่รู้ พร้อมบอกว่าให้ดูแฟนเราเป็นตัวอย่างว่าถ้าจะมีแฟนต้องมีลักษณะแบบนี้
และแม่จะชอบไปพูดกับคนแถวบ้านด้วยว่าน้องไม่ดียังโง้นยังงี้ ว่าไปถึงพ่อแม่น้องเลยว่าปล่อยปะละเลยลูก เสียชื่อตระกูล พร้อมยกเรามาข่มอีกแล้วว่าเนี่ยะแม่เลี้ยงเรามาอย่างดี พร้อมอวดว่าเราเรียนดีกิจกรรมเด่นยังโง้นยังงี้
ถึงน้องและพ่อแม่ของน้องจะบอกตลอดว่าไม่ถือคำพูดแม่เรา แม่เราน่าจะพูดเพราะหวังดี แต่เรากับพ่อก็รู้สึกผิดต้องไปขอโทษน้องกับพ่อแม่น้องตลอดเรื่องคำพูดของแม่เรา เรากับพ่อเคยลงความเห็นว่าแม่มีอาการขี้อิจฉามากเกินไปแล้วเก็บมาคิดจนฟุ้งซ้าน ลองไปปฏิบัติธรรมหรือพบจิตแพทย์ดูมั่ย ปรากฏว่าโดนด่าเละค่ะทั้งพ่อทั้งลูก แม่จะโวยวายว่าเค้าไม่ได้ขี้อิจฉาจะไปอิจฉาทำไมกับคนที่แค่โชคดีเกิดช้าไปปีนึง ถ้าน้องมาเกิดปีเดียวกับเราน้องเราไม่มีทางมีอย่างวันนี้ ทำไมแม่เราถึงมีนิสัยแบบนี้คะ และเราจะทำยังไงกับแม่เราดีคะให้เค้าเลิกอิจฉาและว่าร้ายคนอื่นรวมถึงเลิกเอาเราไปเปรียบเทียบและข่มคนอื่นด้วย บอกตรงๆเราอึดอัดและไม่ชอบค่ะ แม่เป็นแบบนี้เราอยู่ด้วยแล้วเสียสุขภาพจิต