ตลาดขาลงรอบนี้ เราก็หนีไม่พ้นนั่งเฝ้าดอยอยู่บนยอดเขาสูง มองดูปอดแดงทุกวันๆ
ที่ผ่านมาก็ทำตามหลักการแบบนู้นแบบนี้ ใช้เหตุผลต่างๆที่หลายต่อหลายคนยอมรับกันในแวดวง
ผลลัพธ์ที่ได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนได้มีโอกาสปรึกษาพี่ท่านหนึ่งเรื่องการลงทุน
ยอมรับกับตัวเองเลยว่าที่ผ่านมาเป็น
เง่ามาตลอดหลายปี
สุดท้ายก็ได้พี่เค้าช่วยเบิกเนตรให้ตาสว่าง แท้จริงแล้วไม่มีอะไรให้ซับซ้อน วุ่นวาย
เพียงแต่ต้องมองให้ออกก่อนว่า
กรอบเวลาในขณะนั้น ขณะที่เรากำลังจับตาดูอยู่ มันอยู่ในลักษณะไหน ขาขึ้น หรือขาลง
เอาเลขคณิตมาพิชิตมันได้ ด้วยการหาค่าความชันของกราฟ
แปะรูป
ค่าความชันเป็นบวก ก็คือขาขึ้น
ค่าความชันเป็นลบ ก็คือขาลง
สำหรับช่วงเวลาที่กราฟมีค่าความชันต่ำๆ ก็คือช่วงแกว่งตัวออกข้าง หรือ ที่ชอบเรียกกันว่าไซด์เวย์นั่นเอง
หรือสังเกตดูจากกราฟเอาเลยคงไม่ยากเกินความสามารถ
ขาขึ้น โอกาสหรือความน่าจะเป็นที่มันจะขึ้น 99% ลง 1%
ในทางกลับกัน ขาลง โอกาสลงมัน 99% ขึ้น 1%
ไปเล่นสวนลงในตอนที่มันขึ้น หรือ เล่นสวนขึ้นในตอนที่มันลง ก็ไส้แตกสิพี่น้อง
ตอนที่ราคาหุ้นมันเป็นขาลงเนี่ย ราคามันก็ล่อตาล่อใจ มันถูกแล้วนะ เอาพื้นฐาน เอาเหตุผลต่างๆนาๆ มาเข้ารับของ
แต่ขาลงมันก็คือลง เราไปสวนซื้อมัน ก็ได้อยู่เฝ้าดอยหลวงรู้งี้ นั่งมองดูราคารูดไหลลงเรื่อยๆ ในใจก็เอาแต่คิดว่า พื้นฐานมันดีนะ เหตผลนู่นนี่ แล้วแต่เราจะคิดออก
ผลลัพธ์ก็เห็นๆกันอยู่ วิ่งสวนเทรนด์มีแต่เจ็บกับเจ็บ วิ่งตามเทรนด์เก็บกำไรมองดูปอดเขียวเรื่อยๆดีกว่า
เอาจริงๆมันก็เรียบง่ายแบบนี้แหละ
ที่ผ่านมามองไม่เห็น อาจเพราะความโลภมันบังตาเรา
สุดท้ายนี้
ขอให้พี่น้องเง่าเราตาสว่างกันได้แล้ว ไม่ต้องไปเสียสตางค์ที่กว่าจะหามาได้ ไปลงคอร์สเรียน เสียสตางค์แพงๆ เรียนกลับมาก็ยังงงๆ กลับขึ้นมาเฝ้าดอยเหมือนเดิม
ขอชาวเราอย่าได้วิ่งขึ้นไปเฝ้าดอยกันอีก
จากเง่าที่หวังดี
เง่าเบิกเนตร
ที่ผ่านมาก็ทำตามหลักการแบบนู้นแบบนี้ ใช้เหตุผลต่างๆที่หลายต่อหลายคนยอมรับกันในแวดวง
ผลลัพธ์ที่ได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนได้มีโอกาสปรึกษาพี่ท่านหนึ่งเรื่องการลงทุน
ยอมรับกับตัวเองเลยว่าที่ผ่านมาเป็นเง่ามาตลอดหลายปี
สุดท้ายก็ได้พี่เค้าช่วยเบิกเนตรให้ตาสว่าง แท้จริงแล้วไม่มีอะไรให้ซับซ้อน วุ่นวาย
เพียงแต่ต้องมองให้ออกก่อนว่ากรอบเวลาในขณะนั้น ขณะที่เรากำลังจับตาดูอยู่ มันอยู่ในลักษณะไหน ขาขึ้น หรือขาลง
เอาเลขคณิตมาพิชิตมันได้ ด้วยการหาค่าความชันของกราฟ
แปะรูป
ค่าความชันเป็นบวก ก็คือขาขึ้น
ค่าความชันเป็นลบ ก็คือขาลง
สำหรับช่วงเวลาที่กราฟมีค่าความชันต่ำๆ ก็คือช่วงแกว่งตัวออกข้าง หรือ ที่ชอบเรียกกันว่าไซด์เวย์นั่นเอง
หรือสังเกตดูจากกราฟเอาเลยคงไม่ยากเกินความสามารถ
ขาขึ้น โอกาสหรือความน่าจะเป็นที่มันจะขึ้น 99% ลง 1%
ในทางกลับกัน ขาลง โอกาสลงมัน 99% ขึ้น 1%
ไปเล่นสวนลงในตอนที่มันขึ้น หรือ เล่นสวนขึ้นในตอนที่มันลง ก็ไส้แตกสิพี่น้อง
ตอนที่ราคาหุ้นมันเป็นขาลงเนี่ย ราคามันก็ล่อตาล่อใจ มันถูกแล้วนะ เอาพื้นฐาน เอาเหตุผลต่างๆนาๆ มาเข้ารับของ
แต่ขาลงมันก็คือลง เราไปสวนซื้อมัน ก็ได้อยู่เฝ้าดอยหลวงรู้งี้ นั่งมองดูราคารูดไหลลงเรื่อยๆ ในใจก็เอาแต่คิดว่า พื้นฐานมันดีนะ เหตผลนู่นนี่ แล้วแต่เราจะคิดออก
ผลลัพธ์ก็เห็นๆกันอยู่ วิ่งสวนเทรนด์มีแต่เจ็บกับเจ็บ วิ่งตามเทรนด์เก็บกำไรมองดูปอดเขียวเรื่อยๆดีกว่า
เอาจริงๆมันก็เรียบง่ายแบบนี้แหละ
ที่ผ่านมามองไม่เห็น อาจเพราะความโลภมันบังตาเรา
สุดท้ายนี้
ขอให้พี่น้องเง่าเราตาสว่างกันได้แล้ว ไม่ต้องไปเสียสตางค์ที่กว่าจะหามาได้ ไปลงคอร์สเรียน เสียสตางค์แพงๆ เรียนกลับมาก็ยังงงๆ กลับขึ้นมาเฝ้าดอยเหมือนเดิม
ขอชาวเราอย่าได้วิ่งขึ้นไปเฝ้าดอยกันอีก
จากเง่าที่หวังดี