เรื่องราวประวัติชีวิตของ "ศุ บุญเลี้ยง" อีกหนึ่งศิลปินคนเก่ง แห่งวงการบันเทิงไทย

"ศุ บุญเลี้ยง"  อีกหนึ่งศิลปินคนเก่ง
แห่งวงการบันเทิงไทย

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

ศุ บุญเลี้ยง มีชื่อจริงว่า  "สักกะพงษ์ บุญเลี้ยง"  ชื่อเล่นว่า  "จุ้ย"  เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2505  พื้นเพเป็นคนสุราษฎร์ธานี อำเภอเกาะสมุยตั้งแต่กำเนิด เป็นบุตรชายคนเดียวจากพี่น้องผู้หญิงทั้งหมด มีพี่สาว 4 คน น้องสาว 1 คน มารดาชื่อฉลาด บิดาชื่อฝังพล บุญเลี้ยง เป็นสจ.สมาชิกสภาจังหวัด สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย นอกจากนี้ชื่อ ศุ บุญเลี้ยงซึ่งเป็นชื่อประจำตัวของเขาเกิดขึ้นจากการนั่งรถไปยังห้าแยกลาดพร้าวแล้วพบกับป้ายที่เขียนคำว่า  "ศุ"  เจ้าตัวรู้สึกไพเราะจึงนำมาเป็นชื่อ โดยอันที่จริงป้ายนั้นเขียนคำเต็ม ๆ ว่า  "ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ปิด 4 ทุ่ม"

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

คุณจุ้ยในช่วงวัยเยาว์เกิดและเติบโตที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชีวิตช่วงวัยเยาว์ของเขาเป็นไปอย่างเรียบง่าย ทว่ากลับแฝงไปด้วยแนวคิดและการสั่งสอนในแบบฉบับของศิลปินของคุณฝังพล นอกจากคุณฝังพลจะเป็นถึงสจ. ท่านยังมีความเป็นศิลปินหัวศิลป์ ช่างขีดเขียน ละเอียดประณีต และมีเอกลักษณ์เป็นที่สุด ดูเหมือนว่าลูกไม้จะไม่ไกลต้นนัก เพราะคุณจุ้ยได้สืบทอดความเป็นศิลปินมาจากคุณฝังพลผู้เป็นบิดาอย่างเต็มเปี่ยม

chaliang.com

พ.ศ. 2524 เมื่อเติบโตขึ้นคุณจุ้ยตัดสินใจเดินทางเข้ามาศึกษาต่อยังคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ รุ่นราวคราวเดียวกับคุณนิรมล เมธีสุวกุล แต่เขากลับไม่ค่อยได้เรียนนักเนื่องจากเจ้าตัวมักทำกิจกรรม ออกค่ายอยู่เสมอ ขณะนั้นเองเขาได้ตั้งวงดนตรีชื่อ  "เดอะ รบกวน"  เป็นวงดนตรีสำหรับเล่นในกลุ่มเพื่อน และ  "วงหยดน้ำ"  สำหรับร้องเพื่อการกุศล ออกค่ายพัฒนาตามชนบท หลังจากศึกษาไปพอสมควร เขาได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ โดยได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า ตนนั้นต้องการพบเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่การเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยยังมิสามารถให้เขาได้

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

“เรียนช่วงแรกก็สนุกดี พบเห็นสิ่งแปลกใหม่ ทีนี้เรียนไปสักพักกลายเป็นว่าไม่มีอะไรมาให้แปลกใจอีก จะเรียกว่าซ้ำซากก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพียงแต่รู้สึกว่าน่าจะมีอย่างอื่นมากกว่าที่เรียน ๆ อยู่ คิดเอาเองว่ายังไม่พอ หมายความว่าอยากฟุ้งซ่านมากกว่านี้หน่อย แต่มหาวิทยาลัยไม่มีสนองน่ะ

ถึงตอนเลือกแผนกจะเลือกวิทยุ โทรทัศน์ แล้วเขาไม่ให้เรียน เขาบอกว่าเรียนไม่เก่ง แล้วใครจะเรียนแผนกนี้ต้องสอบพิมพ์ดีดผ่าน เราพิมพ์ดีดไม่ได้ ก็เลยไม่เลือก เราอยากเรียน แต่เขาไม่ให้เลือกก็เลยไม่รู้จะเลือกอะไร ก็ไม่เลือก ดรอปไปเลย ไม่เรียนก็ไม่เรียน ก็ไปนั่งพิมพ์ดีดอยู่บ้าน”

ทว่าหลังจากที่คุณจุ้ยตัดสินใจลาออกจากรั้วมหาวิทยาลัยและตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อเดินทางไปแสวงหาตัวตนอยู่พักใหญ่ ทำให้คุณจุ้ยได้พบว่าความรู้ที่ขามีนั้นยังไม่เพียงพอ หากต้องออกไปทำงานยังโลกภายนอก ส่งผลให้คุณจุ้ยตัดสินใจกลับมาศึกษาอีกครั้งยังรั้วจามจุรี เพียงแต่เปลี่ยนคณะการเรียนจากสาขานิเทศศาสตร์เป็นสาขาวิชาหนังสือพิมพ์ เนื่องจากเป็นสาขาข่ายงานที่ค่อนข้างอิสระ สามารถทำอะไรอย่างอื่นควบคู่ไปได้

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

“จากการทำงานทำให้รู้ว่าตนเองยังรู้ไม่เพียงพอ มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งทรัพยากรทางปัญญาที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ เท่าที่หาได้ ก็เลยกลับมาเรียนด้วยความรู้สึกว่า เรียนเพราะอยากจะรู้ในสิ่งที่ต้องการจะรู้ อยากเรียนเพราะต้องการเติมสิ่งที่ขาด”
"ช่วงแรกก็เป็นการแบ่งเวลาเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยผ่อนหนักผ่อนเบา แล้วแต่ว่าเทอมนี้อยากเรียนมากก็ทำงานน้อย ๆ อยากเรียนน้อยก็ทำงานให้มาก จะทำกิจกรรมในคณะก็ทำงานข้าง นอกน้อยลง พักหลังก็หนักไปทางจะออกมาข้างนอกเรื่อย ๆ ในที่สุดก็หลุดออกมา หมายความว่าไม่มีเวลาไปเรียน ทั้งที่ยังสามารถไปเรียนได้ เทอมสุดท้ายจำได้ว่าไม่ได้ไปลงเรียนเลย แล้วไม่ได้ขอ ดรอปเพราะฉะนั้นสภาพนักศึกษาก็หมดไป”

จุดเริ่มต้นของการเข้ามาเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่งของวงเฉลียง เริ่มต้นขึ้นมาจากการพบเจอกันระหว่างเขาและคุณประภาสที่ความถูกตาต้องใจในอะไรบางอย่างทำให้คัณจิกชักชวนให้คุณจุ้ยมาร่วมร้องเพลงในนามของ  "ไปยาลใหญ่"  ทว่าด้วยปัญหาความไม่พร้อมทำให้คุณจิกตัดสินใจชักชวนเพื่อนสมาชิกทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ให้มารวมเป็นหนึ่งกันอีกครั้ง ส่งผลให้  "เฉลียง"  ที่เคยพับโครงการลงไปแล้วกลับมาเริ่มต้นผงาดบนสังเวียนอีกครั้ง

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

เฉลียงรุ่น 2 หรือรุ่นที่ผู้คนจดจำออกอัลบั้มชุดแรกในชื่อ  "อื่น ๆ อีกมากมาย"  อัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากแจ้งเกิดให้กับวงดนตรีแนวใหม่อย่างเฉลียงได้เป็นอย่างดี ส่งให้ชื่อของสมาชิกทุกคนเป็นที่รู้จักของวัยรุ่น นักศึกษา นักฟังเพลงไปโดยปริยาย คุณจุ้ยทำหน้าที่เป็นทั้งนักร้องและนักแต่งเพลง โดยเพลงดังขึ้นชื่อที่คุณจุ้ยเป็นผู้แต่งหนึ่งในนั้นคือเพลง  "เติมใจให้กัน"  ซึ่งเป็นบทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องพริกขี้หนูกับหมูแฮม ในปี พ.ศ. 2532

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

หลังจากที่คุณจุ้ยเป็นสมาชิกของวงเฉลียงโดยออกอัลบั้ม 3 ชุดได้แก่ อัลบั้ม อื่น ๆ อีกมากมาย, เอกเขนก และ เฉลียงหลังบ้าน คุณจุ้ยก็ได้ตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิกของทางเฉลียงเนื่องด้วยเหตุการณ์ที่คุณดี้ นิติพงษ์ตัดสินใจออกจากวงประกอบกับภาระหน้าที่ของคุณจุ้ยทำให้เจ้าตัวตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นสมาชิกของวงเฉลียง แต่แม้บทบาทการเป็นสมาชิกวงเฉลียงจะจบลงไปแต่คุณจุ้ยกลับยังคงมีผลงานทางด้านการแต่งเพลงและผลงานอัลบั้มออกมาอยู่เสมอ 

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

ตัวอย่างผลงานเพลงบางส่วน
อื่น ๆ อีกมากมาย, เอกเขนก, เฉลียงหลังบ้าน, หอมกลิ่นความฝัน, จากเพื่อนถึงเพื่อน, ชุดลำลอง, ชุดรับแขก, รวมเพลงไม่ฮิต, นักเดินทาง, ศิลปินนอนเปล, สองปีกฝัน, ผักบุ้งลอยฟ้า, ชิงช้าสวรรค์, แรงใจไฟฝัน, ดื้อ, รวมรสสำราญ, สหาย, หัวใจไกวเปล, คิดถึงอย่างแรง, โปรดฟังอีกครั้ง, ของขวัญจากทะเล, ชายหาดติดดาว, เพลงรักไม่รู้โรย, ผูกใจ และ เด็กดั่งดวงดาว ฯลฯ

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

นอกจากบทบาทของศิลปินเพลงแล้ว คุณจุ้ยยังมีบทบาทของการเป็นศิลปินกวี ตั้งแต่บทบาทของการเป็นผู้ก่อตั้งและบก.นิตยสารไปยาลใหญ่ (ฯลฯ) และนิตยสารสำนักศิษย์สะดือ บทบาทของการเป็นนักเขียนที่มีผลงานงานเขียนทั้งสารคดีและเรื่องสั้นตามนิตยสารต่าง ๆ ในนามปากกาสมจุ้ย เจตนาน่าสนุก เช่น ไปยาลใหญ่, แทน, สุดสัปดาห์ ฯลฯ หรือบทบาทการเป็นผู้เขียนบททำงานเบื้องหลังละครเวทีเพื่อการกุศล

เพจเปิดกล่องนิตยสารเก่า

ตัวอย่างงานเขียนบางส่วน
รวมเรื่องสั้นฝันเอียง ๆ, หาดขาว ดาวสวย และ กล้วยตาก, หนุ่มนักโบกกับสาวขี้บ่น, ไม่มีปี่แต่มีขลุ่ย ไม่ใส่ร้ายแต่ป้ายสี, ลิ้นชักนักเดินทาง, นักอยากเขียน และ ด้วยรักแกมรำคาญ ฯลฯ

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

ปัจจุบันนี้คุณจุ้ยยังคงมีผลงานทางด้านงานเพลงและด้านงานเขียนลงสื่อโซเชียลออกมาอยู่เสมอ งานเพลงของคุณจุ้ยที่คุ้นหูคนรุ่นใหม่เป็นอย่างดีคือเพลง  "อิ่มอุ่น"  ที่เจ้าตัวได้แต่งขึ้นมาจนมีผู้นำไปใช้มากมายจนกลายเป็นเพลงประจำเทศกาลวันแม่ของไทย นอกจากนี้อาจมีหลายท่านไม่ทราบว่าคุณจุ้ยเคยประกอบธุรกิจร้านอาหารอิ่มอุ่น ซึ่งเป็นชื่อเพลงของเขาเอง โดยปัจจุบันร้านได้ปิดกิจการไปเป็นที่เรียบร้อย

http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=924251

ศุ บุญเลี้ยงนับเป็นศิลปิน นักแต่งเพลง นักเขียน นักคิดคนเก่งอีกคนหนึ่งของเมืองไทยที่ผลงานของเขาล้วนมีคุณภาพยิ่งนัก ไม่ว่าจะแนวคิด ความลึกซึ้งกินใจ และความสร้างสรรค์แปลกใหม่อันยากหาใครซ้ำทาง นับเป็นศิลปินไทยคนหนึ่งที่ผู้คนจดจำและชื่นชมในความสามารถของเขาเป็นอย่างยิ่งที่สุดคนนึงทีเดียว

ด้วยรักและนิยมเป็นอย่างยิ่ง.

สวัสดี.
เพจศุ บุญเลี้ยง

ขอ tag ศุ บุญเลี้ยงด้วยค่ะพันทิป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่