สวัสดีครับ ช่วงนี้ออฟฟิศของผมกำลังมองหาเครื่องปริ้นตัวใหม่ บังเอิญกับที่ทาง Canon เค้าใจดีส่งมาให้เราได้ทดลองใช้พอดี เป็น Canon PIXMA G Series 3 รุ่นใหม่ล่าสุด บอกเลยว่าตั้งแต่ที่ได้ลองใช้ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเวิร์กสุด ๆ นอกจากจะช่วยให้สามารถพิมพ์งานได้ไว เยอะสะใจ ประหยัดมากขึ้นด้วยระบบแท็งก์แท้แล้ว ยังใช้งานง่าย รองรับงานได้ทุกประเภทเลยครับ   

ขอเล่าก่อนว่า Canon PIXMA G Series เป็นปริ้นเตอร์ระบบแท็งก์แท้จากโรงงานมาตั้งแต่ปลายปี 2015 ไล่มาตั้งแต่  G1000/ G2000 / G3000 และ G4000 และได้มีการเพิ่มเติมจนมาเป็นรุ่น G1010/ G2010/ G3010 และ G4010 เรียกได้ว่าครอบคลุมการใช้งาน ไม่ว่าจะงานเอกสาร หรือบางงานที่ต้องใช้ความละเอียดภาพ ข้อมูล รูปภาพกราฟิกสำหรับพรีเซนต์งานบอกเลยเอาอยู่

ล่าสุด Canon ก็ได้ออกปริ้นเตอร์มาทั้ง 3 รุ่น คือ G6070, G5070, GM2070 บอกเลยว่าคุณภาพดีกว่าเดิม แถม Option เพิ่มเติมคือทำให้เราสามารถใช้งานได้คุ้มค่ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความไวในการพิมพ์ รวมไปถึงเปลี่ยนระบบการเติมหมึก และขวดหมึกเป็นรุ่นใหม่ โดยแต่ละรุ่นแบ่งฟังก์ชันหลัก ๆ ชัดเจนแตกต่างกันไปดังนี้ครับ

➤  PIXMA G6070 เครื่องปริ้นแบบ All-in-one พิมพ์, Scan, Copy ในเครื่องเดียว
➤  PIXMA G5070 เครื่องปริ้นแบบ Single Function Color Printer เน้นงานพิมพ์สีและขาวดำ
➤  PIXMA GM2070 เครื่องปริ้น Monochrome Printer พิมพ์ขาวดำได้อย่างเดียว  




อย่ารอช้าครับ  เรามาเริ่มกันที่เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทรุ่น PIXMA G6070 กันก่อน เรียกได้ว่าเป็นรุ่นท็อป เหมาะสำหรับออฟฟิศตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึง Startup ที่ใช้งานบ่อย ไม่ว่าจะเป็นปริ้นเอกสาร พรีเซนต์งาน จะใช้งานหนักแค่ไหนก็หายห่วงได้เลย เพราะด้านข้างกล่องเค้าเคลมไว้ว่าเครื่องนี้รับประกัน 2 ปีทันทีที่ซื้อ หรือ 50,000 แผ่น แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รวมค่าอะไหล่, หัวพิมพ์, แผ่นซับหมึก และค่าแรงด้วยครับ มั่นใจใช้งานได้ยาว ๆ


ด้านในกล่องมาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้ง USB, ปลั๊กไฟ แผ่น Driver + คู่มือ และบัตรรับประกัน รวมถึงหัวพิมพ์ขาวดำและหัวพิมพ์สีอย่างละ 1 ตลับ


สำหรับฟังก์ชันการใช้งานเครื่องนี้ ทำได้ครบแบบ All-in-One ทั้งพิมพ์, สแกน, ถ่ายเอกสาร เรียกได้ว่าครบ จบ ผมล่ะชอบจริง ๆ มาดูฟังก์ชันการใช้งานตามสเป็คของ Canon PIXMA G6070 ที่น่าสนใจกันครับ

▶  ความเร็วในการพิมพ์ ขาวดำสูงสุด 13.0 แผ่น/นาที และพิมพ์สีได้สูงสุด 6.8 แผ่น/นาที  
▶  ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด 4800 x 1200 dpi
▶  ถาดบรรจุกระดาษสูงสุด 350  แผ่น !
▶  การเชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless / Wired LAN , Wirelss Direct
  Facebook หรือ IG
▶  Photo Speed (4 x 6") : 60sec.  (พิมพ์ไร้ขอบได้)
▶  Mobile & Cloud Printing สั่งปริ้นง่ายได้จากสมาร์ทโฟน และระบบคลาวด์

ทราบรายละเอียดกันไปแล้ว ทีนี้มาดูหน้าตาการใช้งานกันบ้างครับ ตัวเครื่องพิมพ์มีขนาดกะทัดรัด รุ่นนี้มีความพิเศษคือด้านหน้าจะมีแผงหน้าจอ 2-line LCD แถมยังสามารถปรับระดับได้ถึง 90 องศา ช่วยทำให้การมองเห็นขณะใช้งานง่ายขึ้น  ปุ่มควบคุมการทำงานต่าง ๆ ใหญ่สะใจ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มสแกน,ปุ่ม Copy, ปุ่มฟังก์ชันเลือกสีขาว-ดำ  และปุ่ม Direct สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ


ด้านหลังมีช่องเสียบ USB และสาย LAN ใช้งานพร้อมกันได้สบาย เพราะเจ้าตัวนี้รวมถึงอีกทั้งสองรุ่น สามารถรองรับการใช้งานได้ทีเดียวหลายเครื่อง รวมถึงรองรับการทำงานแบบ Remote Working ให้เครื่องหลักสามารถ Monitor การทำงานของเครื่องปริ้นได้ครับ รวมถึงเมื่อทำงานร่วมกับ Software Canon MIB ก็จะสามารถระบุความสามารถในการพิมพ์ของแต่ละ Account ได้ด้วย*


รุ่นนี้มาพร้อมถาดใส่กระดาษ 2 ด้าน สามารถใส่กระดาษไว้ในเครื่องได้มากสุดถึง  350  แผ่น  ถาดด้านหน้า Front Cassette 250 แผ่น และ หลังเครื่อง Rear Tray ได้ 100 แผ่น สั่งปริ้นได้สะใจไม่สะดุดอีกต่อไป จะปริ้นเอกสารรายงานประจำปี, เอกสารประกอบงานสัมมนาจำนวนมาก ก็ปริ้นได้ยาว ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเติมกระดาษบ่อย ๆ แถมยังรองรับประเภทของกระดาษขนาดได้หลากหลายไซส์อีกด้วย  


มาครับ หลังจากที่เราใส่หัวพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดมาก็คือการเติมหมึกครับ โดยหมึกที่ทาง Canon ให้มาจะมีทั้งหมด 4 สี คือ  สีฟ้า สีแดง สีเหลือง และ สีดำ  เราสามารถเติมหมึกได้ตามตัวอักษรกำกับที่ถังหมึก C ,M, Y และ BK ได้เลย

ความพิเศษของ Canon PIXMA G Series รุ่นใหม่คือเค้าออกแบบหัวเติมหมึกแบบพิเศษ ป้องกันการหกเลอะเทอะเวลาเติม เปิดฝาปุ๊ปเติมได้ปั๊ป ไม่ต้องบีบ เติมเสร็จแล้วปิดฝาครอบถังหมึก เสร็จแล้วก็ลองทดสอบการพิมพ์ตามคำแนะนำบนหน้าจอได้เลย

ขวดหมึก C M Y และ  PGBK(สีดำ)  แบบ Spill-Free ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ กันหมึกรั่วไหล  วิธีใช้ง่าย ๆ  หมุนฝาออกแล้วเทลงที่หัวเติมหมึกได้เลย  




จุดเด่นของเครื่องปริ้นตัวนี้ คือเป็นเครื่องปริ้นที่รองรับการพิมพ์ได้แบบ Full Connectivity ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ได้แก่ Wireless / Wired LAN , Wirelss Direct  ไม่ว่าจะเชื่อมต่อทางไหนก็ง่ายและสะดวกมาก ๆ

ก่อนใช้งานในคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก ให้เราทำการติดตั้ง Driver จาก CD ที่แถมมาก็ได้หรือสามารถกดโหลดออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์  https://th.canon/support/PIXMA%20G6070/model เข้าไปดาวน์โหลดแล้ว install โปรแกรมเสร็จ ง่าย ๆ ใช้ได้เลย


ส่วนใครที่ใช้ Smartphone หรือ Mobile tablet แนะนำให้โหลดแอป Canon PRINT Inkjet/SELPHY มาก่อนครับ สามารถดาวน์โหลดจาก App Store และ Google Play ได้เลย หลังจากนั้นทำการเชื่อมต่อเครือข่ายไว Wi-Fi จากนั้นกดที่ปุ่ม Direct และเข้าแอป ฯ เพื่อค้นหา และจับคู่กับเครื่องปริ้นได้เลย

ผมจะขอพูดถึงการใช้งานในส่วนการสั่งงานไร้สายซึ่งจะบอกว่าใช้งานง่ายมาก ตอบโจทย์ออฟฟิศที่ใช้งานกันหลาย ๆ คน หลายอุปกรณ์ ซึ่งพอเราเข้าไปหน้าแรกของแอปพลิเคชัน จะมีเมนูหลัก ๆ ที่เราสามารถเลือกสั่งงานทั้งหมด 4 เมนู คือ พิมพ์รูปถ่าย, พิมพ์เอกสาร, สร้างรายการรูปถ่าย และการสำเนาจากสมาร์ทโฟน


สำหรับการสั่งพิมพ์เอกสาร และการพิมพ์ภาพผ่านสมาร์ทโฟน ให้เรากดเลือกพิมพ์เมนูพิมพ์เอกสาร เลือกเอกสารที่ได้เสร็จเรียบร้อย โดยเราสามารถเลือกตั้งค่าหน้ากระดาษ >> สีที่ต้องการพิมพ์ >> รวมถึงจำนวนชุดเอกสาร

และยังสามารถเลือกประเภทของกระดาษ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น  Plain paper, Matte Brochure Papers, Glossy Brochure Papers, Photo papers, Envelopes, Other specialty inkjet paper เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วก็กดพิมพ์ได้เลย


ข้อดีของ Canon PIXMA G Series รุ่น G6070 จะมีระบบพิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ (กลับหน้ากระดาษอัตโนมัติแผ่นต่อแผ่น) พร้อมการพิมพ์แบบไร้ขอบ (ยกเว้นรุ่น G2070) แถมยังมีโหมด Eco ได้ด้วย ประหยัดมาก ๆ เพราะเท่ากับว่าหารแล้วต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นตกเพียง 3 สตางค์เท่านั้นเอง ประหยัดขนาดนี้เจ้านายผมชอบเลยครับ

ปริ้นเอกสารได้คมชัดด้วยหมึกพิมพ์ใหม่ แถมปริ้นไวมาก !



มาดูในส่วนของการสแกนเอกสารกันบ้างครับ จะบอกว่าใช้งานง่ายมาก ๆ แค่กดเมนูสแกนจากแอปฯ จากนั้นหน้าเอกสารจะขึ้นพรีวิวมาให้ดูในหน้าจอเลย ทั้งเซฟเป็นไฟล์ Jpeg หรือ PDF หรือจะแชร์ต่อผ่าน Social Media อื่น ๆ ก็ง่าย

วางเอกสารที่ต้องการสแกนลงไป




มาดูฟังก์ชันการ Copy กันบ้าง แค่กดเลือกเมนู Copy แล้วกดเลือกประเภทสีที่ต้องการพิมพ์ได้เลย ซึ่งต้องบอกว่าเจ้ารุ่นนี้ทำงานเร็วมาก ๆ แถมภาพที่ได้ก็คือมีสีใกล้เคียงกับต้นฉบับมาก  


ทีนี้เราจะมาลองพิมพ์ไฟล์ภาพในอัลบั้มภาพผ่านสมาร์ทโฟนกันครับ พอดีว่าช่วงนี้ทางออฟฟิศจะมีจัดปาร์ตี้ ประจำเดือน ต้องพิมพ์โปสเตอร์งานกิจกรรมของบริษัท ซะหน่อย เลือกไปที่เมนูพิมพ์รูปถ่าย > เลือกอัลบั้มรูปในมือถือ จากนั้นตั้งค่ากระดาษต่าง ๆ  แล้วกดสั่งพิมพ์ได้เลยทันที  






มาทดลองพิมพ์กระดาษที่เป็นขนาด Postcard ดู โดยใส่กระดาษ Photo แล้วเลือกความละเอียดสูงสุด 4800 x 1200 dpi  (วันนี้เราใช้กระดาษชนิด PlusGlossyll)  จากนั้นเลือกรูปที่ต้องการ (สามารถเลือกครั้งเดียวได้ครั้งละหลายรูปก็ได้) จากนั้นกดสั่งพิมพ์ได้เลย

ผลงานภาพที่พิมพ์ออกมา สีภาพสด คมชัดมากครับ