พวกคุณคิดว่าผมเจอกับอะไร
เรื่องที่ผมจะถ่ายทอดต่อไปนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมเจอกับอะไร ถ้าผมจะเอาไปเล่าให้พี่ป๋องฟัง มันก็ไม่มีบทสรุปซึ่งมันจะเป็นเรื่องผีที่ไม่สมบูรณ์ งั้นมาช่วยให้ข้อมูลผมทีนะครับ
ย้อนกลับไปปี 42 ผมเป็นนิสิตชั้นปีที่1คณะสีฟ้าแห่งทุ่งพญาไท และแน่นอนสิ่งที่ผมรู้สึกขาดหายไปในชีวิตจนถึงตอนนี้คือ ผมเล่นดนตรีไม่เป็นศิลปะวาดรูปอะไรก็ไม่เป็น ผมจึงเข้าหาทุกสิ่งที่ผมอยากรู้ ด้วยการเข้าห้องสมุดคณะศิลปศาสตร์ ช่วงปี1ผมก็มีเพื่อนต่างคณะไม่มากโดยเฉพาะสินกำนี่ไม่มีเลย ผมจะมีเวลาว่างช่วงเที่ยงกินข้าเสร็จก็รีบเข้าห้องสมุดหาหนังสือดูไปเรื่อย พอใกล้ๆบ่ายจะมีเรียนต่อผมก็จะวิ่งไปเข้าห้องน้ำชั้น2 (ห้องน้ำมันเป็นแบบสลับขั้นสลับเพศน่ะครับ โดยที่ชั้น1เป็นของผู้หญิง สุดทางเป็นทางตัน นั่นหมายความว่า มีทางเข้าออกทางเดียว) นึกภาพเอานะครับว่าห้องน้ำสินกำมันจะมีพื้นเปียกๆหน่อยเพราะมันต้องมีการอาบน้ำล้างตัวล้างสีด้วย ลักษณะห้องน้ำเป็น4เหลี่ยมผืนผ้า เมื่อหันหน้าเข้าไปด้านซ้ายมือผมจะเป็นโถปัสสาวะอยู่4โถ แล้วก็ลานเล็กๆเอาไว้ฉีดน้ำล้างแขนล้างตัวอาบน้ำ ด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำแบ่งกันห้องได้5ห้อง และฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็กระจกและอ่างล้างมือ
เมื่อผมก้าวเข้าไปจะเห็นห้องตรวกลางปิดอยู่และบนขอบผนังด้านบนระหว่างห้องที่2และ3ผมเห็นมีกระป๋องโค๊กสีแดงวางอยู่(ทางเข้ามันอยู่ตรงกับห้องน้ำห้องที่1แลๆะทุกห้องเปิดอยู่ยกเว้นห้องที่3 ในใจตอนนั้นผมคิดว่าแม่บ้านไม่ทำความสะอาดเอาซะเลย พื้นก็เปียกมีคราบสีเขียวติดพื้นแต่ก็อย่างที่บอกแหละครับเด็กคณะนี้มันก็แบบนี้แหละก็เด็กมันอาร์ต)ผมก็ก้มตัวล้างหน้า ซักพักก็ได้ยินเสียงคนเปิดกระป๋องน้ำอัดลม ซึ่งตอนนั้นฟองเต็มหน้าผม แต่ในใจก็คิดว่า

ขี้อยู่ยังมีอารมดูดโค๊กอีกนับถือๆ พอผมล้วน้ำเสร็จก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูห้องที่3แล้วเดินออกไปเลย ซึ่งผมไม่ทันเห็นหน้าเห็นตัวคนผู้นั้นเลย
ต่อมาวันที่2 ทุกอย่างเหมือนกับเมื่อวาน บ่ายโมง ห้องน้ำเปียก กระป๋องโค้ก และห้องที่3ปิดอยู่เหมือนเดิม (ในใจแอบด่าแม่บ้านไม่มาเก็บกวาดหรือไงวะกระป๋องยังอยู่เหมือนเมื่อวานเลย) และในขณะที่ฟองเต็มหน้าผมก็ได้ยินเสียงคนเปิดกระป๋องอีกแน่นอนว่าวันนี้ผมอยากจะเห็นคนผู้นั้นให้ได้เลยรีบล้างน้ำแต่ก็เหมือนเดิมผมได้ยินเสียงคนปิดประตูห้องที่3และเห็นหลังไวๆ ออกไปจากห้องน้ำแล้วไม่ทันเช็ดหน้าผมก็วิ่งออกมาดูหน้าห้องน้ำสรุปว่าไม่เจอใคร ระหว่างนั้นผมก็ก้มหน้ากะว่าจะไปเช็ดหน้าอีกครั้งให้แห้ง ผมก็เห็นว่ามีแต่รอยเท้าผมที่ออกมาจากห้องน้ำพื้นเปียกๆนั่น ไม่มีรอยเท้าของคนที่ออกมาก่อนหน้าผมแน่ๆ(ลืมบอกไปว่าพื้นโถงทางเดินมันเป็นพื้นอิฐมอญเวลาเหยียบน้ำจะดูดน้ำเห็นเป็นรอยได้ชัดเจน) เมื่อผมเห็นเช่นนั้นผมก็คิดได้แล้วล่ะว่าเจอผีหลอกตอนกลางวันแน่ๆล่ะ แต่ตอนนั้นผมก็หลอกตัวเองไปว่าไม่มีอะไรเหรอกตาฝาดคิดเยอะไปเอง(ผมจำเป็นต้องหลอกตัวเองแบบนั้นเพราะถ้าคิดว่าตัวเองเจอผีคงไม่กล้าเรียนที่นี่อีกต่อไป)เรื่องนี้ผมก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเลย จนทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าใครเคยเจอแบบผมบ้าง
ผมเจอผีในคณะศิลปกรรมศาสตร์ ..ใช่ป่ะคับ??
เรื่องที่ผมจะถ่ายทอดต่อไปนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมเจอกับอะไร ถ้าผมจะเอาไปเล่าให้พี่ป๋องฟัง มันก็ไม่มีบทสรุปซึ่งมันจะเป็นเรื่องผีที่ไม่สมบูรณ์ งั้นมาช่วยให้ข้อมูลผมทีนะครับ
ย้อนกลับไปปี 42 ผมเป็นนิสิตชั้นปีที่1คณะสีฟ้าแห่งทุ่งพญาไท และแน่นอนสิ่งที่ผมรู้สึกขาดหายไปในชีวิตจนถึงตอนนี้คือ ผมเล่นดนตรีไม่เป็นศิลปะวาดรูปอะไรก็ไม่เป็น ผมจึงเข้าหาทุกสิ่งที่ผมอยากรู้ ด้วยการเข้าห้องสมุดคณะศิลปศาสตร์ ช่วงปี1ผมก็มีเพื่อนต่างคณะไม่มากโดยเฉพาะสินกำนี่ไม่มีเลย ผมจะมีเวลาว่างช่วงเที่ยงกินข้าเสร็จก็รีบเข้าห้องสมุดหาหนังสือดูไปเรื่อย พอใกล้ๆบ่ายจะมีเรียนต่อผมก็จะวิ่งไปเข้าห้องน้ำชั้น2 (ห้องน้ำมันเป็นแบบสลับขั้นสลับเพศน่ะครับ โดยที่ชั้น1เป็นของผู้หญิง สุดทางเป็นทางตัน นั่นหมายความว่า มีทางเข้าออกทางเดียว) นึกภาพเอานะครับว่าห้องน้ำสินกำมันจะมีพื้นเปียกๆหน่อยเพราะมันต้องมีการอาบน้ำล้างตัวล้างสีด้วย ลักษณะห้องน้ำเป็น4เหลี่ยมผืนผ้า เมื่อหันหน้าเข้าไปด้านซ้ายมือผมจะเป็นโถปัสสาวะอยู่4โถ แล้วก็ลานเล็กๆเอาไว้ฉีดน้ำล้างแขนล้างตัวอาบน้ำ ด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำแบ่งกันห้องได้5ห้อง และฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็กระจกและอ่างล้างมือ
เมื่อผมก้าวเข้าไปจะเห็นห้องตรวกลางปิดอยู่และบนขอบผนังด้านบนระหว่างห้องที่2และ3ผมเห็นมีกระป๋องโค๊กสีแดงวางอยู่(ทางเข้ามันอยู่ตรงกับห้องน้ำห้องที่1แลๆะทุกห้องเปิดอยู่ยกเว้นห้องที่3 ในใจตอนนั้นผมคิดว่าแม่บ้านไม่ทำความสะอาดเอาซะเลย พื้นก็เปียกมีคราบสีเขียวติดพื้นแต่ก็อย่างที่บอกแหละครับเด็กคณะนี้มันก็แบบนี้แหละก็เด็กมันอาร์ต)ผมก็ก้มตัวล้างหน้า ซักพักก็ได้ยินเสียงคนเปิดกระป๋องน้ำอัดลม ซึ่งตอนนั้นฟองเต็มหน้าผม แต่ในใจก็คิดว่า
ต่อมาวันที่2 ทุกอย่างเหมือนกับเมื่อวาน บ่ายโมง ห้องน้ำเปียก กระป๋องโค้ก และห้องที่3ปิดอยู่เหมือนเดิม (ในใจแอบด่าแม่บ้านไม่มาเก็บกวาดหรือไงวะกระป๋องยังอยู่เหมือนเมื่อวานเลย) และในขณะที่ฟองเต็มหน้าผมก็ได้ยินเสียงคนเปิดกระป๋องอีกแน่นอนว่าวันนี้ผมอยากจะเห็นคนผู้นั้นให้ได้เลยรีบล้างน้ำแต่ก็เหมือนเดิมผมได้ยินเสียงคนปิดประตูห้องที่3และเห็นหลังไวๆ ออกไปจากห้องน้ำแล้วไม่ทันเช็ดหน้าผมก็วิ่งออกมาดูหน้าห้องน้ำสรุปว่าไม่เจอใคร ระหว่างนั้นผมก็ก้มหน้ากะว่าจะไปเช็ดหน้าอีกครั้งให้แห้ง ผมก็เห็นว่ามีแต่รอยเท้าผมที่ออกมาจากห้องน้ำพื้นเปียกๆนั่น ไม่มีรอยเท้าของคนที่ออกมาก่อนหน้าผมแน่ๆ(ลืมบอกไปว่าพื้นโถงทางเดินมันเป็นพื้นอิฐมอญเวลาเหยียบน้ำจะดูดน้ำเห็นเป็นรอยได้ชัดเจน) เมื่อผมเห็นเช่นนั้นผมก็คิดได้แล้วล่ะว่าเจอผีหลอกตอนกลางวันแน่ๆล่ะ แต่ตอนนั้นผมก็หลอกตัวเองไปว่าไม่มีอะไรเหรอกตาฝาดคิดเยอะไปเอง(ผมจำเป็นต้องหลอกตัวเองแบบนั้นเพราะถ้าคิดว่าตัวเองเจอผีคงไม่กล้าเรียนที่นี่อีกต่อไป)เรื่องนี้ผมก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเลย จนทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าใครเคยเจอแบบผมบ้าง